องค์กรสิทธิร้องหยุดคุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของทนายความ

องค์กรสิทธิมนุษยชนนำโดยสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์ขอให้ยุติการคุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของทนายความ กรณีตำรวจค้นรถทนายความ
 
27 มิ.ย. 2558 สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน, มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม, ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น, และสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้ออกแถลงการณ์ขอให้ยุติการคุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของทนายความ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
แถลงการณ์ขอให้ยุติการคุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของทนายความ
 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่  27  มิถุนายน  2558  เวลาประมาณ  00.30 น.  ปรากฏข้อเท็จจริงว่า  ภายหลังศาลทหารกรุงเทพสั่งอนุญาตให้ฝากขังและออกหมายขังผู้ต้องหาที่เป็นนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ทั้ง 14 คน  ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 3/2558 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ประกอบมาตรา 83 จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ขอเข้าตรวจค้นรถของนางสาวศิริกาญจน์  เจริญศิริ  หนึ่งในทนายความของผู้ต้องหา เพื่อค้นหาวัตถุพยานการกระทำผิดของผู้ต้องหา โดยเจ้าพนักงานตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมดำเนินการยกรถยนต์ของทนายความไปยังสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามเพื่อทำการตรวจค้น แต่ทนายความและทีมทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนไม่ยินยอม   เนื่องจากการตรวจค้นวัตถุพยานต้องเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย  ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ใช้กระดาษปิดทับที่เปิดประตูรถเพื่อไม่ให้สามารถเปิดประตูรถและนำแผงเหล็กมากั้นเพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายรถยนต์ 
 
จากพฤติการณ์ดังกล่าว  สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) และองค์กรดังมีรายชื่อแนบท้าย  มีความเห็นดังต่อไปนี้
 
1.  พฤติการณ์การตรวจค้นดังกล่าวของเจ้าพนักงานตำรวจ  ไม่เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา  มาตรา 92 (4) ที่กำหนดว่า “ ห้ามมิให้ค้นในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้นหรือคำสั่งของศาล เว้นแต่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้ค้นและในกรณีที่มีพยานหลักฐานตามสมควรว่าสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิดหรือได้ใช้หรือมีไว้เพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรืออาจเป็นพยานหลักฐานพิสูจน์การกระทำความผิดได้ซ่อนหรืออยู่ในนั้น ประกอบทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้สิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายหรือทำลายเสียก่อน...”  เนื่องจากในการดำเนินการขอตรวจค้นนั้น  เจ้าพนักงานตำรวจไม่สามารถอธิบายเหตุผลและข้อสงสัยได้ว่าต้องการตรวจค้นสิ่งใดที่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย  และเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอย่างไร 
 
2.  ท่ามกลางสถานการณ์การคุกคามจำกัดเสรีภาพ  และการใช้อำนาจจับกุมดำเนินคดีประชาชนในปัจจุบัน  ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน  เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิในกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอดตามหลักวิชาชีพทนายความ และทนายความมีหน้าที่ปกป้องรักษาประโยชน์ของลูกความตาม ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529   ซึ่งมีสาระสำคัญตามข้อ 11 และข้อ 12 ว่า ห้ามเปิดเผยความลับของลูกความที่ได้รู้ในหน้าที่ของทนายความ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากลูกความนั้นแล้ว หรือโดยอำนาจศาล และห้ามกระทำการอันอาจทำให้เสื่อมเสียประโยชน์ของลูกความ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการคุ้มครองความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของทนายความโดยไม่ถูกคุกคามจากอำนาจใดๆ ถือเป็นหลักประกันขั้นพื้นฐานของกระบวนการยุติธรรม เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม
 
ดังนั้น  เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจยึดรถยนต์ของทนายความไว้  ไม่ให้เคลื่อนย้าย  โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรในการใช้อำนาจตรวจค้นหรือยึด  จึงถือได้ว่าเป็นการคุกคามการทำหน้าที่ทนายความ
 
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) และองค์กรดังมีรายชื่อแนบท้าย ขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจดังกล่าวเพื่อดำเนินการทางวินัยและทางอาญา  และคืนรถยนต์ของนางสาวศิริกาญจน์  เจริญศิริ  ทนายความของขบวนการประชาธิปไตยใหม่โดยทันที          
 
ด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
 
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม
ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท