Skip to main content
sharethis

หญิงชาวเอธิโอเปีย วัย 25 ปี ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ หลังตกลงเดินทางเข้ามาทำงานบ้านกับครอบครัวนายจ้างชาวเอธิโอเปียซึ่งทำงานในองค์การอนามัยโลกหรือ WHO (World Health Organization) ประจำประเทศไทย ตลอดระยะเวลาการทำงาน 1 ปี 8 เดือน ถูกยึดพาสปอร์ต กักขัง ทำร้ายร่างกายและจิตใจ ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงทาส ไม่จ่ายค่าแรงตามสัญญาก่อนได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านและเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีไว้ที่สถานีตำรวจภูธร ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยความช่วยเหลือขององค์กรพัฒนาเอกชนด้านสตรีและสภาทนายความ

1 เมษายน 2558 ที่สำนักกลางนักเรียนคริสเตียน เขตราชเทวี นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสตรี กรณี เอนเน็ต (นามสมมติ) หญิงชาวเอธิโอเปีย วัย 25 ปี ซึ่งได้เดินทางเข้ามาทำงานบ้านภายในบ้านพักย่านปากเกร็ดกับนายจ้างชาวเอธิโอเปียซึ่งทำงานอยู่ในองค์การอนามัยโลกหรือ WHO (World Health Organization) ประจำประเทศไทย ว่า เอนเน็ตเดินทางเข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2556 ผ่านการชักชวนจากนายหน้าชาวเอธิโอเปียซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่รู้จักกับภรรยานายจ้างชาวเอธิโอเปียคนดังกล่าวและให้สัญญาว่าจะจ่ายเงินค่าแรงในการทำงานบ้าน เป็นจำนวน 2,000 เบอร์/เดือน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,000 บาท) และให้หยุดวันเสาร์-อาทิตย์แต่เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยกลับถูกยึดพาสปอร์ตและบังคับให้ทำงานตั้งแต่เวลา 05.00 น.-24.00 น. ของทุกวันโดยไม่มีวันหยุดและไม่ได้รับค่าแรงเป็นเวลา 1 ปี 8 เดือน

เอนเน็ตแจ้งว่า นายจ้างอ้างว่าจ่ายเงินผ่านนายหน้าเป็นจำนวน 5,000 เบอร์ (ประมาณ 8,000 บาท) ให้แก่ลุงของเธอเพียงครั้งเดียวและตลอดการเดินทางภรรยานายจ้างเป็นผู้ถือพาสปอร์ตและออกหนังสือเดินทางด้วยเอกสิทธิ์พิเศษทางการฑูตในฐานะเจ้าหน้าที่องค์การระหว่างประเทศ

เอนเน็ต แจ้งว่า เมื่อมาถึงประเทศไทย ภรรยาของนายจ้างซึ่งเป็นชาวเอธิโอเปียเช่นเดียวกันได้ทำการยึดพาสปอร์ต เมื่อทวงถาม กลับมีการบ่ายเบี่ยง ข่มขู่ รวมทั้งกักขังไม่ให้ออกจากบ้าน ภรรยาของนายจ้างคนดังกล่าวมักจะด่าว่าและทำร้ายร่างกายตนต่อหน้าลูกและสามีหรือใช้ถ้อยคำเหยียดหยามต่อหน้าแขกที่มาเยี่ยมบ้าน รวมทั้งให้นอนในห้องร่วมกับสุนัขเลี้ยงภายในบ้าน ไม่ให้ออกไปนอกบ้านและให้กินข้าวเปล่าตลอดระยะเวลา 1 ปี 8 เดือน โดยภรรยาของนายจ้างจะเป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายเสียเป็นส่วนใหญ่

จนกระทั่ง วันที่ 8 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา เอนเน็ตถูกทำร้ายและขับไล่ก่อนได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ต่อมาจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด จ.นนทบุรี ในวันที่ 18 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา

ทางด้าน กรวไล เทพพันธกุลงาม ทนายความจากสภาทนายความ เล่าว่า จากข้อมูลที่ได้รับมา เอนเน็ตเป็นชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่งในประเทศเอธิโอเปียที่รัฐบาลเอธิโอเปียกำลังปราบปราม ครอบครัวของเอนเน็ตเสียชีวิตทั้งหมด นอกจากนี้ หญิงสาวยังถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำร้าย มูลเหตุจากความรุนแรงนี้เป็นแรงผลักดันให้เอนเน็ตหาวิธีเดินทางออกนอกประเทศจนกระทั่งไปเจอกับนายหน้าคนดังกล่าวและชักนำให้รู้จักกับภรรยาของนายจ้างชาวเอธิโอเปีย ซึ่งในทางคดี สภาทนายความและองค์กรพัฒนาเอกชนด้านสตรีได้แจ้งความเพื่อเอาผิดกับนายจ้างชาวเอธิโอเปีย 4 ข้อกล่าวหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว กระทำการใดๆ ให้ขาดเสรีภาพทางร่างกาย เอาคนลงเป็นทาส ค้ามนุษย์และยักยอกทรัพย์

ต่อเรื่องนี้ นายสุรพงษ์ กองจันทึก ให้ความเห็นว่า กรณีนี้เข้าข่ายการค้ามนุษย์เพราะมีการกักขังเอาตัวคนลงเป็นทาส ซึ่งจะได้รับสิทธิคุ้มครองให้อยู่ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ส่วนในระยะยาวอาจดำเนินการเพื่อขอเป็นผู้ลี้ภัย ถึงแม้ว่า ตามข้อมูลที่ได้รับมานายจ้างชาวเอธิโอเปียผู้เป็นสามีจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำร้ายด้วยตนเองแต่เมื่อยินยอมให้เกิดเหตุความรุนแรงเช่นนี้ขึ้นก็เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายของไทย แม้ว่า นายจ้างจะเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO ภายใต้สังกัดสหประชาชาติหรือ UN ก็ต้องมีการตรวจสอบเพราะเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศจะต้องได้รับการคัดกรองประวัติมาเป็นอย่างดีและมีมาตรฐานทางจริยธรรมที่ยอมรับได้

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องต่อการทำงานองค์การอนามัยโลกหรือ WHO เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประเด็นส่วนตนของนายจ้างชาวเอธิโอเปียและภรรยาเท่านั้น ดังนั้น นายสุรพงษ์ เชื่อว่า UN จะไม่แทรกแซงการดำเนินการทางคดี โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเร่งรัดสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net