คนทำสื่อวิจารณ์คลิปจัดฉาก 'ด.ช.ฮีโร่ชาวซีเรีย' ไร้ความรับผิดชอบ

ก่อนหน้านี้วิดีโอเด็กชายในซีเรียแกล้งตายก่อนจะวิ่งฝ่ากระสุนสไนเปอร์ไปช่วยเด็กหญิงซึ่งเป็นที่ฮือฮานั้นถูกเปิดเผยว่าเป็นวีดิโอทำปลอมเพื่อกระตุ้นการถกเถียงและดูปฏิกิริยาของสื่อ แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่าการทำวิดีโอปลอมนี้เป็นสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบและทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อจริงไปด้วย


ภาพจากคลิป Syrian Hero Boy

17 พ.ย. 2557 หลังจากที่วิดีโอของเด็กผู้ชายที่พยายามหลบเลี่ยงกระสุนเพื่อไปช่วยเด็กผู้หญิงจากสไนเปอร์ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในประเทศซีเรียถูกเผยแพร่ตามสื่อต่างๆ อย่างแพร่หลาย แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 พ.ย.) มีการเปิดเผยว่าวิดีโอดังกล่าวเป็นการสร้างเหตุการณ์สมมติขึ้น ไม่ใช่การถ่ายได้จากเหตุการณ์จริง และทางสำนักข่าวโกลบอลโพสต์ก็วิจารณ์ว่าการเผยแพร่วิดีโอเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไร้ความรับผิดชอบและเป็นอันตราย

วิดีโอดังกล่าวนี้ถ่ายโดยคนทำภาพยนตร์ชาวนอร์เวย์ที่ชื่อ ลาร์ส เคล์ฟเบิร์ก โดยที่มีการจัดฉาก มีการใช้นักแสดงและทีมงานช่วยถ่ายทำ เคลฟเบิร์กกล่าวให้สัมภาษณ์แก่บีบีซีอ้างว่าที่เขาเผยแพร่โดยปกปิดที่มาเพราะต้องการให้ผู้คนหันมาสนใจและเกิดการถกเถียงขึ้นโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเด็กและสงคราม

"พวกเรายังต้องการทราบอีกว่าสื่อจะมีปฏิกิริยาต่อวิดีโอนี้อย่างไร" เคล์ฟเบิร์กกล่าว

อย่างไรก็ตามโกลบอลโพสต์ได้วิจารณ์การกระทำของเคล์ฟเบิร์กว่าเป็นการก่อกวนการสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นในซีเรีย เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบว่าวิดีโอเหตุการณ์ในซีเรียเป็นเหตุการณ์จริงหรือไม่ ซึ่งในซีเรียมักจะมีนักกิจกรรมและมือสมัครเล่นคอยถ่ายทำภาพหรือวิดีโอในลักษณะนี้ไว้ได้เนื่องจากพวกเขาสามารถเดินทางไปในที่ๆ นักข่าวไม่สามารถเข้าถึงได้ ในบางครั้งสื่อเหล่านี้สามารถทำมาใช้ในการช่วยสืบสวนอาชญากรรมในสงครามซีเรีย โดยรัฐบาลสหรัฐฯ และอังกฤษต่างก็เคยอาศัยวีดิโอของมือสมัครเล่นในการสืบสวนเรื่องการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในกรุงดามัสกัสในปีที่แล้ว

ทางด้านองค์กรสื่อก็มักจะมีปัญหาในด้านข้อจำกัดของข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นซีเรียทำให้ต้องอาศัยเนื้อหาต่างๆ ของมือสมัครเล่นในการรายงานเรื่องการสังหารหมู่หรือการกระทำโหดร้ายอื่นๆ แต่ก็มีวิดีโอทำปลอมเกิดขึ้นจำนวนมากซึ่งวิดีโอทำปลอมเหล่านี้มักจะมาจากแรงจูงใจที่ชั่วร้าย ไม่ใช่แรงจูงใจในแง่ดีแบบนักทำภาพยนตร์ชาวนอร์เวย์

โกลบอลโพสต์ระบุถึงอีกปัญหาหนึ่งคือด้านความเชื่อมั่นของผู้รับสาร ทุกครั้งที่มีการเปิดเผยว่าวิดีโอมีการทำปลอมความเชื่อมั่นของผู้รับข่าวเกี่ยวกับซีเรียจะลดลงทั้งหมด กลายเป็นประโยชน์กับกลุ่มที่ต้องการปกปิดอาชญากรรมที่แท้จริงซึ่งเกิดขึ้นในซีเรียทุกวัน

ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ชาวซีเรียจำนวนมากมีปฏิกิริยาต่อโครงการของเคล์ฟเบิร์กในแง่ลบ เช่นคนพลัดถิ่นจากเมืองฮอมที่ชื่ออะบูวด์ ดันดาจิ กล่าวว่าการกระทำของเคล์ฟเบิร์กทำให้ผู้รายงานมือสมัครเล่นที่ใช้โทรศัพท์มือถือทำงานได้ยากขึ้น

ทางด้านนักข่าวจากอังกฤษซึ่งอาศัยสื่อจากซีเรียในการรายงานข่าวอย่างอิเลียต ฮิกกินส์ กล่าวว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเล่นกับสื่อของคนทำภาพยนตร์เช่นนี้เป็นผลกระทบในแง่ลบ ฮิกกินส์วิจารณ์ว่าการกระทำของเคล์ฟเบิร์กเป็นสิ่งที่ขาดความรับผิดชอบอย่างมาก ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ใดๆ ในการถกเถียงเรื่องความรุนแรงในซีเรีย และยิ่งทำให้เกิดความไม่เชื่อถือในสื่อที่มาจากเขตที่มีการสู้รบ

"มีสื่อภาพเคลื่อนไหวจำนวนมากพอจากซีเรียจนไม่จำเป็นต้องสร้างสถานการณ์ปลอมๆ ขึ้นมาเพื่อต้องการอยากสร้างประโยชน์ให้กับข้อถกเถียง คนทำภาพยนตร์ไม่ได้เข้าใจหรือรับรู้ถึงความซับซ้อนของเหตุการณ์เลย" เคล์ฟเบิร์กกล่าว

เรื่องที่เด็กถูกสังหารในซีเรียเป็นความจริงที่เกิดขึ้นมานานแล้ว โดนกลุ่มนักวิจัยของออกฟอร์ดระบุในงานวิจัยว่ามีเด็กชาวซีเรียอายุต่ำกว่า 17 ปีถูกสังหารด้วยอาวุธสไนเปอร์ราวเกือบ 400 คน ในช่วงเดือน มี.ค. 2554 ถึง ส.ค. 2556

เรียบเรียงจาก

The faked ‘hero Syrian boy’ video was irresponsible and dangerous, Globalpost, 14-11-2014
http://www.globalpost.com/dispatch/news/regions/middle-east/syria/141114/fake-hero-syrian-boy-video-irresponsible-dangerous

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท