หญิงอินเดียใช้กฎหมายเก่าปี 2404 ฟ้องสามี 'คบชู้เพศเดียวกัน'

คู่สามีภรรยาในเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ขัดแย้งกันเนื่องจากภรรยาสงสัยสามีคบชู้เพศเดียวกันจึงติดตั้งกล้องไว้ในบ้านแล้วส่งหลักฐานให้ตำรวจฟ้องด้วยกฎหมายมาตรา 377 ซึ่งเป็นกฎหมายตั้งแต่ปี 2404 ว่าด้วยการร่วมประเวณี 'ผิดธรรมชาติ' โดยกฎหมายล้าหลังนี้ก็เคยถูกต่อต้านทั้งจากนักกิจกรรมและศาลสูงในกรุงนิวเดลีมาก่อน

30 ต.ค. 2557 ในเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย มีชายที่แต่งงานแล้วคนหนึ่งถูกภรรยาของตนเองฟ้องร้องละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 377 ซึ่งเป็นกฎหมายเก่าตั้งแต่สมัยเป็นอาณานิคมของอังกฤษ หลังฝ่ายภรรยาจับได้ว่าสามีมีชู้กับผู้ชาย

ภรรยาซึ่งยังสาวยื่นฟ้องต่อตำรวจโดยอธิบายว่าเธอสงสัยในเรื่องสามีมีความสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกันมานานแล้ว ภรรยาระบุในใบคำร้องว่าเธอสงสัยตั้งแต่ในคืนวันแต่งงานที่พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศกันเลยและสามีของเธอก็ไม่ได้แสดงความสนใจเรื่องนี้ เมื่อเธอปรึกษากับพ่อแม่ของเขาในเรื่องนี้ พ่อแม่ของเขายังกล่าวหาว่าเธอไม่ยอมปรับตัว ทำให้เธอตัดสินใจติดตั้งกล้องซ่อนไว้ในที่พักแล้วส่งวิดีโอที่เป็นหลักฐานไปให้ตำรวจ

สามีของเธอซึ่งมีอายุ 32 ปี เป็นผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตถูกจับกุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 ต.ค.) จากความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 377 ซึ่งระบุห้ามไม่ให้มีการ "ร่วมประเวณีแบบผิดธรรมชาติต่อเพศชาย เพศหญิง หรือต่อสัตว์" ผู้ละเมิดกฎหมายต้องจ่ายค่าปรับ จำคุก 10 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม มีการดำเนินคดีโดยอ้างกฎหมายนี้น้อยมาก

โดยหลังจากที่สามีผู้ถูกผ้องร้องถูกกักขังเป็นเวลา 4 วัน เขาก็ได้รับการประกันตัวออกมา

สำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทม์ระบุว่า ก่อนหน้านี้ศาลสูงสุดของอินเดียได้ฟื้นฟูกฎหมายมาตรา 377 ซึ่งเป็นกฎหมายเก่าแก่ตั้งแต่ปี 2404 มาใช้อีกครั้งในช่วงเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว การตัดสินใจฟื้นฟูกฎหมายนี้ดูขัดกับการพยายามปรับสังคมอินเดียให้มีความเสรีมากขึ้น โดยศาลสูงในกรุงนิวเดลียังระบุว่ากฎหมายมาตรา 377 ขัดแย้งกับกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ระบุรับรองความเสมอภาค สิทธิความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน

นักกิจกรรมด้านสิทธิกล่าวว่าการดำเนินคดีด้วยกฎหมายเก่านี้เป็นสิ่งที่อันตราย เพราะความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างสามีกับชู้รักเป็นไปอย่างสมยอมทั้งสองฝ่าย อีกทั้งการกระทำของภรรยายังถือเป็นการล่วงละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของสามี

เดนิช ชีค ทนายความฝ่ายจำเลยจากเมืองบังกาลอร์กล่าวว่าเรื่องนี้ควรจะเป็นแค่กรณีการที่ฝ่ายชายนอกใจฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นเรื่องข้อพิพาทระหว่างบุคคล แต่ในตอนนี้กลับถูกทำให้เป็นคดีอาญาซึ่งทำให้รัฐรุกล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัวของบุคคลทั่วไปได้

ชาลีน ราเกช นักกิจกรรมผู้เคยเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายมาตรา 377 ในปี 2544 กล่าวว่ามีชายที่รักเพศเดียวกันจำนวนมากถูกบังคับให้ต้องแต่งงานแบบคลุมถุงชนและเขาหวังว่าประชาชนทั่วไปจะมีความเห็นใจต่อจำเลยคดีนี้บ้าง

"ถ้าหากเขามีความสบายใจมากพอที่จะพูดถึงเพศสภาพของตนเอง เขาคงไม่ถูกบังคับให้แต่งงานเช่นนี้" ราเกชกล่าว ตัวเขาเองก็เคยมีคู่รักเพศเดียวกันที่ถูกกดดันให้แต่งงานแบบคลุมถุงชนและอยู่กินกันเป็นเวลา 5 ปี

เรียบเรียงจาก

Husband’s Arrest in India Tests Colonial-Era Sex Law, New York Times, 30-10-2014
http://www.nytimes.com/2014/10/31/world/asia/husbands-arrest-in-india-tests-colonial-era-sex-law.html

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท