Skip to main content
sharethis

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผย คสช. และ ครม. จะประชุมร่วม 4 พ.ย. - ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่ประชุม ครม. ว่ารถตู้ จักรยานยนต์รับจ้าง ชายหาด เมื่อเวลาผ่านไปเริ่มกลับสู่ความไม่เป็นระเบียบ จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดระเบียบอีกรอบ และจะหาทางช่วยผู้ประกอบการด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. หลังการประชุม ครม. เมื่อ 21 ต.ค. 2557 (ที่มา: ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล)

22 ต.ค. 2557 - เมื่อวานนี้ เวลา 14.30 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  เป็นประธาน ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการประชุมฯ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า การประชุม ครม. วันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้มีการกำหนดการประชุมร่วมกันระหว่าง ครม.กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 ซึ่งการประชุมร่วมกันครั้งนี้ จะมีการหารือและพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องของคณะกรรมาธิการในสัดส่วนของ คสช. และครม. ด้วย เพราะในส่วนของ คสช. คือ 5 บวก 1 และ ครม. คือ 5

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภถึงเรื่องของการจัดระเบียบพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถตู้ มอเตอร์ไซค์ ชายหาด ซึ่งการจัดระเบียบเบื้องต้นในบางกรณี ถือว่าลงตัวและเรียบร้อยดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพักหนึ่ง ปรากฏว่าเริ่มกลับไปสู่ความไม่เป็นระเบียบอีกแล้ว จึงได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่ใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ยังคำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่มีการจัดระเบียบ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ไปดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่ได้กำหนดมาตรการหรือหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการดังกล่าว เพื่อแบ่งเบาความเดือดร้อนเหล่านั้นด้วย

ส่วนมาตรการในการรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยวเพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว ทั้งความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หรือในระหว่างการขนส่งและการเดินทางท่องเที่ยวนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานกับผู้ประกอบการให้ดำเนินการควบคุมมาตรการในเรื่องการรักษาความปลอดภัยให้เป็นรูปธรรม และอาจต้องมีการกำหนดบทลงโทษหากมาตรการในเรื่องดังกล่าวยังหละหลวม เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และเป็นประโยชน์โดยรวมต่อการท่องเที่ยวอีกด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net