Skip to main content
sharethis

นายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้อำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดยะลา ได้กำหนดมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชนจากกรณีผู้ก่อความไม่สงบข่มขูในหลากหลายรูปแบบ ห้ามทำงานในวันศุกร์ จนส่งผลกระทบต่อการทำงานของประชาชน ดังนี้


 


1.ร่วมกับภาคเอกชน กำหนดจัดสถานที่ขายสินค้า ราคาถูกขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 18 และวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2548 รวม 3 จุด คือ ที่ชุมชนตลาดเก่าในเขตเทศบาลนครยะลา สนามที่ว่าการอำเภอยะหา และสนามที่ว่าการอำเภอรามัน


 


โดยจะจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าเบ็ดเตล็ดต่างๆ ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด และยังได้เตรียมที่จะเปิดจำหน่ายสินค้าราคาถูกในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ขยายไปยังชุมชนต่างๆ ในทุกอำเภอพร้อมกับจัดรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน อย่าได้หวั่นไหวต่อข่าวลือต่างๆ


 


2.ให้ผู้พบเห็นประชาชน ที่ได้รับบาดเจ็บด้วยการถูกตัดใบหู อันเนื่องมาจากการขัดขืน ไม่ปฏิบัติตามคำข่มขู่ ของผู้ก่อความไม่สงบในการทำมาค้าขายหรือการประกอบอาชีพใดๆ ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ นำมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ทาง ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา จะมอบเงินรางวัลทันทีรายละ 30,000 บาท


 


3.ผู้ประกอบการ หรือประชาชน ที่ทำมาค้าขายหรือประกอบอาชีพใดๆ ที่ถูกข่มขู่ แล้วสามารถแจ้งรูปพรรณ สัณฐานของคนร้าย จนนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีได้ จะได้รับรางวัลจากผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา รายละ 5,000 บาท


 


วันเดียวกัน กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา ได้รับจดหมายภาษาไทยพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์จำนวน 6 หน้า กระดาษ เอ 4 ทางไปรษณีย์ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2548 ส่งถึงข้าราชการมุสลิมสังกัดอำเภอกาบังโดยลงชื่อ จากสหพันธ์นักเรียนเก่าอาหรับ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย มีข้อความระบุว่า


 


สาส์นถึง พี่น้องผู้รักสันติ เหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้น มีหลายสาเหตุ แต่ที่สำคัญ ผู้กระทำที่เรียกตนเองว่ามุสลิม การกระทำดังกล่าวขัดกับหลักศาสนาอิสลาม และขอเตือนสติพี่น้องทั้งหลายให้กลับคืนมาสู่อิสลามอย่าหลงเชื่อเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคลที่ก่อความไม่สงบ ที่มีเป้าหมายเพื่อความยิ่งใหญ่ของเผ่าพันธุ์ มลายู มิใช่เพื่อความยิ่งใหญ่ ของอิสลา


 


เวลา 14.00 น.วันเดียวกัน นายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา ขวัญยืน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พ.อ.กิตติ อินทรศร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่1 เปิดเวทีรับฟังความ คิดเห็นจากผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากกรณีมีใบปลิวข่มขู่ห้ามขายของในวันศุกร์ ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลา


 


นางคอดีย๊ะ ขุนชำนาญ อายุ 50 ปี แม่ค้าขายของในตลาดสด กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลให้ความคุ้มครองก็พร้อมจะขายของต่อ แต่ต้องคุ้มครองตลอดไปจนเกิดความมั่นใจ ทุกคนอยากจะขายของ แต่บางคนไม่พร้อม หากตนมายืนขายคนเดียวก็จะกลายเป็นแกะดำให้กับผู้ก่อความไม่สงบเข้ามาทำร้ายได้


 


วันเดียวกันที่โรงแรมมายการ์เดนส์ จังหวัดปัตตานี นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข เป็นประธานการอบรม ผู้แทนนักเรียนในจังหวัดปัตตานี 60 คนที่เป็นแกนนำเครือข่ายนักเรียนไทยกลุ่มรักนวลสงวนตัว


 


นางระเบียบรัตน์ กล่าวในบรรยายพิเศษในหัวข้อ สภาพสังคมไทยที่เป็นภัยกับเด็กว่า แม้จะมีเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ แต่ทุกฝ่ายยังจำเป็นในการสร้างทัศนคติที่ถูกต้องให้แก่เด็กและเยาวชน ในการดำเนินชีวิตท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงสังคมยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งมีปัญหาเรื่องค่านิยมที่ผิด และการมีเพศเสรีก่อนวัยอันควร ส่งผลให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงและการทำแท้งผิดกฎหมาย จึงจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันสร้างจิตสำนึกให้รู้คุณค่าของการรักนวลสงวนตัว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net