Skip to main content
sharethis

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตากรุณาเสมอ ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกท่าน

เมื่อวันที่ 13-14 พ.ย. 2555 ผู้เขียนและคณะทำงานโครงการพัฒนาเครือข่ายตำบลสุขภาวะในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน7 คน ได้เข้าร่วม(ร่วมกับภาคีกว่า 500 คน) ประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนจังหวะก้าวการขับเคลื่อนเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ที่ชลพฤกษ์รีสอร์ท อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

ผลการประชุมทั่งสองวันมีข้อเสนอมากมายในการขับเคลื่อนเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ซึ่งมีประเด็นสำคัญดังนี้

1. ก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงพร้อมปรับปรุงแนวทางการขับเคลื่อน ใน 7 ประเด็นสาธารณะ ได้แก่ การดูแลสุขภาพโดยชุมชน การลงทุนด้านสุขภาพโดยชุมชน การเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน การจัดการภัยพิบัติ เกษตรกรรมยั่งยืน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการจัดการสวัสดิการสังคมโดยชุมชน โดยผ่านแกนนำเครือข่ายตำบลสุขภาวะทั่วประเทศ

โดยนางสาวดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สสส.) ได้ให้ทัศนะพอสรุปได้ว่า “การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อทบทวนจังหวะก้าวและยกระดับการทำงานเครือข่ายตำบลสุขภาวะ โดยรูปแบบการทำงาน เราจะกระตุ้นให้ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองใน 7 ประเด็นสาธารณะสำคัญดังกล่าวโดยสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สสส.) จะประสานไปยังเครือข่ายฯที่มีความเชี่ยวชาญ ให้เข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างชุมชนท้องถิ่นด้วยกัน เพราะ สสส. เป็นเพียงหน่วยงานสนับสนุนให้ชุมชนเรียนรู้ด้วยตนเองและสร้างการเรียนรู้ระดับเครือข่ายด้วยกัน ทั้งนี้ ระยะเวลา 3 ปี เรามีเครือข่ายตำบลสุขภาวะจากทั่วประเทศทั้งหมด 1,500 แห่งที่สามารถบริหารจัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมี 300 ตำบลที่สามารถเป็นแม่ข่ายสำคัญในการขยายฐานตำบลสุขภาวะให้เพิ่มมากขึ้นต่อไป...นอกจากนี้ สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สสส.) จะยังจัดฝึกอบรมการแกนนำเครือข่ายในเรื่องการทำข้อมูล ,การเก็บข้อมูลคนในชุมชน, การวิเคราะห์ วิจัยชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถรู้ถึงปัญหาที่ชุมชนกำลังประสบอยู่ จนนำไปสู่การแก้ไขได้ด้วยตนเอง รวมถึงการอบรมด้านการสื่อสาร เพื่อให้สามารถสื่อสารกับสื่อมวลชนได้อย่างมีทักษะและกระบวนการที่ถูกต้อง”

2. ท้องถิ่นสามารถจัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยชุมชนเพื่อชุมชน

ทพ.กฤษดา เรืองอารย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ทัศนะพอสรุปใจความได้ว่า “การพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้น่าอยู่ว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการตลอด 2 วันที่ผ่านมา ก็เพื่อต้องการให้เครือข่ายตำบลสุขภาวะได้ทบทวน 7 ประเด็นสาธารณะที่ได้ดำเนินการในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รวมถึงกำหนดประเด็นใดที่จะทำเพิ่มเติมต่อไปในปีหน้า เราตั้งเป้าในปี 2557 จะเพิ่มเครือข่ายตำบลสุขภาวะจาก 1,500 แห่ง ให้เป็น 3,500 แห่งทั่วประเทศ หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถจัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง ประเทศไทยก็จะน่าอยู่ต่อไป โดยฝากถึงชุมชนที่กำลังจะเริ่มต้นพัฒนาตนเองไว้ว่า ปัจจัยในการจะสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่ จะต้องเริ่มต้นที่ท้องถิ่น ถ้าผู้บริหารท้องถิ่นลุกขึ้นมาสร้างความสุข ใส่ใจความต้องการจริงๆ ของคนในชุมชน มากกว่าการไปก่อสร้างต่างๆ ผลที่ออกมาก็คือผู้นำก็จะได้รับความรัก การสนับสนุนจากประชาชนอย่างแท้จริงและยั่งยืน

3. นโยบายสาธารณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมอยากขับเคลื่อนมากที่สุดคือ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ในวันที่สองของการประชุมทางผู้จัดการประชุมได้ให้ผู้เข้าร่วมประชุมมีส่วนร่วมในการให้คะแนนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะทั้งเจ็ดประเด็นดังกล่าว ซึ่ง นางสาวดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สสส. ) เปิดเผยถึงผลโหวตจากผู้เข้าร่วมงานจำนวน 555 คน ต่อ 7 นโยบายสาธารณะที่เครือข่ายตำบลสุขภาวะต้องการขับเคลื่อนมากที่สุด ซึ่งพบว่า อันดับ 1. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในประเด็นการบริหารจัดการขยะในระดับครัวเรือนและชุมชนอย่างถูกวิธี 2. เกษตรกรรมยั่งยืน ประเด็นส่งเสริมให้เพิ่มครัวเรือนการทำเกษตรกรรมยั่งยืนไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของครัวเรือนเกษตรในตำบล 3. การเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน ประเด็นสนับสนุนและจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนประจำตำบลให้มีส่วนร่วมกิจกรรมของชุมชน 4. การจัดการภัยพิบัติ จัดตั้ง “ศูนย์จัดการภัยพิบัติประจำตำบล”แบบบูรณาการภายใต้การมีส่วนร่วมของท้องที่และท้องถิ่น 5. การลงทุนด้านสุขภาพ ประเด็นทุกภาคส่วนร่วมสมทบทุนผลิตและสร้างบุคคลกรด้านสุขภาพของชุมชน 6. การดูแลสุขภาพ ประเด็นจัดทำฐานข้อมูลชุมชนและใช้ข้อมูลชุมชน ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายการดูแลเพื่อออกแบบการดูแลสุขภาพและช่วยเหลือร่วมกับหน่วยบริการสุขภาพ กลุ่มอาสาสมัคร และแหล่งเรียนรู้ และ 7. สวัสดิการชุมชนโดยชุมชน ประเด็นจัดตั้งกองทุนกลางเพื่อจัดสวัสดิการให้กลุ่มคนที่ด้อยโอกาสในตำบล โดยทั้งนี้ ทั้ง 7 ประเด็นจะเป็นความต้องการของประชาชนชนอย่างแท้จริง ซึ่งขอเรียกร้องผู้บริหารท้องถิ่นให้ดำเนินการและกำหนดเป็นนโยบายในการหาเสียง

จากการประชุมทั้ง 2 วันดังกล่าวผู้เขียนมีทัศนะว่า การขับเคลื่อนเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ในนโยบายสาธารณะดังกล่าวจะประสบความสำเร็จได้จะขึ้นอยู่กับสามปัจจัยหลัก คือ ความพร้อมของผู้นำ ชุมชนและการจัดการความรู้

 

หมายเหตุภาพ
1. ประกอบและข้อมูลปรับจาก http://www.thaihealth.or.th
2. ดูภาพประกอบของคณะทำงานโครงการจากชายแดนใต้ที่เข้าร่วมประชุมเพิ่มเติมใน
2.1 http://www.facebook.com/media/set/?set=a.438289519552179.90101.100001134043854&type=3
2.2 http://www.facebook.com/photo.php?fbid=4923783732835&set=a.3589519657067.169151.1245604111&type=3&theater
2.3 http://www.facebook.com/photo.php?fbid=4929171107516&set=a.3589519657067.169151.1245604111&type=3&theater

2.4 http://www.facebook.com/photo.php?fbid=4925567257422&set=a.3589519657067.169151.1245604111&type=3&theater

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net