ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.55) เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดา บัลลังก์ 910 จะมีการอ่านคำพิพากษาคดีที่จีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท (prachatai.com) เป็นจำเลย ในคดีความผิดตามมาตรา 14 และ 15 พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ โดยจีรนุชถูกกล่าวหาว่า มีเจตนาจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีข้อความที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ปรากฏอยู่ในเว็บบอร์ดประชาไท

ก่อนหน้านี้ ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ในวันดังกล่าว ผู้พิพากษาขึ้นบัลลังก์แจ้งขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 30 พ.ค.55 โดยให้เหตุผลว่า เอกสารคดีนี้มีจำนวนเยอะมาก

เครือข่ายสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAPA) ระบุว่า คดีนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีนัยยะต่อเสรีภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อแนวโน้มของการสื่อสารมวลชนออนไลน์ในภูมิภาค พร้อมย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินคดีต่อตัวกลางในการแสดงออกของประชาชนอย่างเสรี และเรียกร้องอีกครั้งไปยังรัฐบาลให้มีการทบทวนการบังคับใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะมาตรา 15 เพื่อทำให้แน่ใจว่าตัวกลางจะได้รับการปฏิบัติที่ยุติธรรมตามสมควร และจะไม่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ทางการเมืองดังกรณีของจีรนุช และคนอื่นๆ

////////////////////////////

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
มาตรา 14 ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

(1) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบาง ส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความ ตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการ ก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)

มาตรา 15 ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอม ให้มีการกระทําความผิดตามมาตรา 14 ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทําความผิดตาม มาตรา 14