เทพไทงัดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ห้ามสื่อไทยเผยแพร่ข่าวบทสัมภาษณ์ทักษิณ

“กษิต ภิรมย์” อัดทักษิณให้สัมภาษณ์มิบังควร ยันมาตรการฝ่ายไทยต่อกัมพูชาไม่ใช่เกมการเมืองแต่เพื่อรักษาผลประโยชน์ชาติ ด้านเทพไท เสนพงศ์เตือนสื่อไทยห้ามนำเสนอบทสัมภาษณ์ทักษิณ ที่เผยแพร่ในไทม์ส ออนไลน์ ขู่หากเผยแพร่ต่อจะดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ส่วนทักษิณเผยแพร่แถลงการณ์แจงไทม์สพาดหัวข่าวไม่ตรงกับที่ให้สัมภาษณ์ ยืนยันเป็นคนจงรักภักดี 

 

 
วานนี้ (9 พ.ย.) หนังสือพิมพ์ไทม์ส ออนไลน์ ของอังกฤษ รายงานว่านายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศเตือนสื่อมวลชนไทยทุกแขนงมิให้เสนอบทสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนายริชาร์ด ลอยด์ แพร์รี่ บรรณาธิการข่าวภาคพื้นเอเชียของไทม์ส ออนไลน์ นำมาเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ช่วงเช้าวันที่ 9 พ.ย. โดยให้เหตุผลว่าบทสัมภาษณ์มีเนื้อหาไม่เหมาะสม และระบุเพิ่มเติมอีกว่าสื่อใดก็ตามที่นำข้อความในบทสัมภาษณ์ไปเผยแพร่ต่อจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
 
ทั้งนี้ นายแพร์รี่ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของไทยในอนาคต โดยอ้างอิงข้อมูลที่ทักษิณให้สัมภาษณ์ระหว่างที่ยังพำนักอยู่ที่นครดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งได้กล่าวถึงการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และสื่อมวลชนไทยหลายสำนักได้รายงานถึงบทสัมภาษณ์ดังกล่าว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างหนักว่าเป็นการให้สัมภาษณ์จาบจ้วงให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์
 
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ thaksinslive ประณามไทม์ส ออนไลน์ ว่าบิดเบือนคำให้สัมภาษณ์และให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง โดยทักท้วงว่าการพาดหัวข่าวไม่ตรงกับคำพูดที่ให้สัมภาษณ์ รวมถึงปฏิเสธว่าตนมิได้เป็นผู้เอ่ยถึงการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์แต่อย่างใด และยืนยันว่าเป็นคนจงรักภักดี
 
"ผมรู้สึกเสียใจต่อการนำเสนอข่าว timesonline ในครั้งนี้ ทั้งๆ ที่ผมได้กำชับผู้สัมภาษณ์ว่าเรื่องสถาบันเป็นเรื่องสูงและละเอียดอ่อน ต้องนำเสนอข่าวให้ตรงกับสิ่งที่ผมพูด ผมขอประณาม timesonline ที่เสนอข้อเท็จจริง และสร้างความสับสนในเรื่องนี้ ผมยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าครอบครัวผม และตัวผมมีความจงรักภักดี และพร้อมสละชีวิต เพื่อปกป้องสถาบันเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน" ท้ายแถลงกาณณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณระบุ
 
ต่อมานายแพร์รี่นำข้อความที่ถอดจากบทสัมภาษณ์ทักษิณแบบคำต่อคำออกมาเผยแพร่ เพื่อชี้แจงว่าไม่มีการบิดเบือนข้อมูล แต่มิได้ชี้แจงกรณีที่ไทม์สฯ เลือกใช้คำพาดหัวข่าวซึ่งพาดพิงถึงพระมหากษัตริย์ไทย
 
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.15 น.วานนี้ (9 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เปิดให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวต่อกรณีดังกล่าวที่อาคารรัฐสภา และระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องไทม์สออนไลน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่คงต้องรอฟังดู เพราะเห็นพ.ต.ท.ทักษิณแก้ตัวว่าถูกบิดเบือน
 
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีมาตรการดำเนินการอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลในสิ่งที่ต้องทำแน่นอนคือการชี้แจง เพราะมีข้อความที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริงและอาจจะไม่เหมาะสมในหลายจุด ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการ และคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่ที่อ่านข้อความนั้นก็คงเห็นว่าไม่เหมาะสม พ.ต.ท.ทักษิณเองก็คงทราบแล้วถึงได้พยายามบอกว่าไม่ได้พูด แต่เราคงต้องติดตามและตรวจสอบว่าจริงๆ แล้วเป็นอย่างไร
 
ส่วนคำถามว่าต้องให้ไทม์ส ออนไลน์ ทำหนังสือขอโทษหรือไม่ เพราะเสนอข่าวที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประเทศไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอยู่
 
ก่อนหน้านี้ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.45 น. นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเป็นการด่วน เพื่อชี้แจงกรณีหนังสือพิมพ์ TimesOnline เผยแพร่การให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายกษิต อ่านคำแถลงระบุถึงการรายงานข่าวสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเว็บไซต์ไทม์สออน์ไลน์ว่าในหลายส่วนของรายงานข่าว มีข้อความพาดพิงโดยมิบังควรถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย รวมถึงมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง อาทิ ที่เกี่ยวกับบทบาททางการเมืองของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
นายกษิต ขอตอบโต้ว่า การให้สัมภาษณ์ในลักษณะนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นสิ่งที่ก้าวล่วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งนอกจากจะถือเป็นเสาหลักของเสถียรภาพของประเทศแล้ว ยังเป็นสถาบันที่คนไทยทุกคนเคารพและเทิดทูนเป็นอย่างมากด้วย ดังนั้นจึงไม่ใช่สิ่งที่คนไทยยอมรับได้ และไม่พึงกระทำ
 
ข้อ 2 ขณะที่ประชาชนชาวไทยทั้งปวงกำลังอยู่ระหว่างการรวมใจถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยที่แข็งแรง พ.ต.ท.ทักษิณ กลับใช้จังหวะเวลานี้ให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่จาบจ้วง และไม่เป็นมงคลเยี่ยงนี้ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ ว่า มีวัตถุประสงค์แอบแฝงหรือกำลังเคลื่อนไหวบางอย่าง ในลักษณะที่ไม่เหมาะสมไม่ควรอยู่ ซึ่งหากเป็นคนไทยที่มีใจรักชาติและเทิดทูนสถานบันพระมหากษัตริย์จริง คงไม่กระทำเช่นนี้
 
ข้อ 3 การให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ สะท้อนถึงความอึดอัดและความไม่สามารถของตน ที่จะเข้าไปชี้นำและโน้มน้าวทุกฝ่ายในสังคมไทยได้ ดังเช่นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เคยที่จะเพียรพยายามจะทำมาในอดีต
 
ข้อ 4 เกี่ยวกับความเห็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงได้รับการศึกษาในต่างประเทศและมีพระชนมายุน้อย ทรงเข้าใจโลกในปัจจุบันดีนั้น เสมือนเป็นการเปรียบเทียบกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นการมิบังควรอย่างยิ่ง
 
ข้อ 5 พ.ต.ท.ทักษิณ คงให้ข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับสถานะของตนเองแก่ผู้สื่อข่าว ที่ขอสัมภาษณ์โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้นำฝ่ายค้านที่ลี้ภัยในต่างประเทศ ในการนี้จึงขอย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางกลับไปอยู่ในประเทศไทยในช่วงรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ปี 2551 หลังจากการปฏิวัติผ่านไป 1 ปีกว่า และได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปอีกครั้ง ก่อนที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีคำสั่งพิพากษาให้จำคุก 2 ปี จากการกระทำผิดในคดีอาญา เกี่ยวกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่ทุจริต หรือเอื้อประโยชน์ให้ภรรยาของตนเอง ขณะที่ยังมีคดีเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน และการทุจริตอื่นๆ อีกรออยู่เป็นจำนวนมาก
 
ข้อ 6 ขณะเดียวกันนี้ ผู้เขียนข่าวก็คงได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนอีกหลายประการ หรือไม่มีความสามารถที่จะเข้าใจข้อเท็จจริงต่างๆ อันเป็นผลให้การรายงานข่าวนี้ขาดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อที่ 1) ประเด็นที่เกี่ยวกับบทบาทที่อยู่เหนือการเมืองของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2) ประเด็นที่ว่า การที่สมเด็จฯ ฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลกัมพูชา และของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นสิ่งที่สร้างความโกรธเคืองให้แก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีปัจจุบัน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเรื่องเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของชาติ เป็นผลประโยชน์ส่วนตัว และการเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ก็เพื่อสืบทอดสิ่งที่ตนได้ทำไว้ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทย นอกจากนี้ การแต่งตั้งดังกล่าว ประชาชนคนไทยที่รักชาติโดยทั่วไป ไม่เห็นด้วยและรับไม่ได้เป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยทั่วไป ที่จัดทำโดยสถาบันต่างๆ ไม่ว่า จะเอแบคโพลล์ หรือสวนดุสิตโพลล์ ที่กว่าร้อยละ 50 ของประชาชนในทุกภูมิภาคไม่เห็นด้วยกับการตอบรับของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการเป็นที่ปรึกษาให้แก่ฝ่ายกัมพูชา และกว่าร้อยละ 90 ตามผลสำรวจของเอแบคโพลล์เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทำไปเพื่อตนเอง มิใช่เพื่อประเทศชาติไทยของเรา พ.ต.ท.ทักษิณ เพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากกษัตริย์กัมพูชา แล้วพูดจาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ของไทยเช่นนี้ด้วยวัตถุประสงค์อะไร
 
ต่อมาผู้สื่อข่าวถามว่าหากผู้ประกอบการกัมพูชา บอยคอตสินค้าไทย นายกษิต กล่าวว่า ก็ยังไม่เกิดขึ้นนี่ครับ แล้วก็ท่านนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้พูดหลายครั้งแล้ว รวมทั้งผมเองก็ได้พูดว่าจะไม่มีการดำเนินการใดๆที่จะไปกระทบกระเทือนต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนกัมพูชา เราก็ยังรักเคารพในคนกัมพูชาแล้วก็ต้องการให้การทำมาค้าขาย และการสัญจรไปมาเป็นเช่นเดิม
 
มีผู้สื่อข่าวถามว่าทั้งหมดเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า นี่ไม่ใช่เกมการเมืองแต่เป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และเมื่อมีผู้ถามว่าเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายและปัญหาบานปลายหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่าไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้นหรอก เพราะความวุ่นวายปัญหาทั้งหมดเกิดจากทักษิณคนเดียว คุณทักษิณเป็นตัวปัญหา
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท