Skip to main content
sharethis

วันนี้ (9 ก.ย.) พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่าได้ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อ้างเหลือเวลาทำงานอีก 21 วัน ขอพักกผ่อนก่อนเกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ปฏิเสธพูดถึงคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้ช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีสายฟ้าแลบโดยมีสีหน้าปกติ ก่อนขึ้นรถออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 17.10 น.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับผลจากมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทีมีปัญหาว่ากรณีของ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นกรณีที่เข้าข่ายมาตรา 55 ของกฎหมาย ป.ป.ช.หรือไม่ ซึ่งกฎหมายมาตรา 55 คือ ถ้ากรณีของ ผบ.ตร.เป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นศาลคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง หรือเป็นเรื่องเดียวกันอะไรทำนองนี้ ก็จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่มีมติ คือเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2552 แต่เนื่องจาก ป.ป.ช. ยังไม่ได้แจ้งมติมา จะเกิดปัญหาช่องว่างขึ้นในระหว่างนี้ว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายสับสน เพราะจะเกิดการโต้แย้งเกี่ยวกับการสั่งราชการต่างๆ จึงขอให้ ผบ.ตร.มาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะมีคำสั่งในวันนี้ และระหว่างนี้จะให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร.เป็นผู้ปฏิบัติราชการแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลงนามคำสั่งสายฟ้าแล่บดังกล่าวว่า เป็นไปด้วยความเงียบเหงา นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ต่างเก็บตัวเงียบในห้องทำงานรวม ถึง พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ยังคงความเป็นส่วนตัวอยู่อย่างสงบในห้องทำงานตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมาหลังจากเดินทางกลับจากการชมการสาธิตการปราบจราจลของตำรวจนครบาลที่ลานพระบรมรูป ทรงม้าในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยไม่พบมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และบุคคลใกล้ชิดเดินทางมาให้กำลังใจแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันบรรดาสื่อมวลชนต่างเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวยังคงถูกจำกัดพื้นที่ห้ามมิให้ขึ้นไปชั้นบนตามเดิม สามารถเข้าพื้นที่ได้เฉพาะบริเวณห้องโถงชั้นล่างและบริเวณหน้าลิฟท์ขึ้นตัวอาคารและจุดที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลคอยตรวจตราบุคคลเข้าออกและขึ้นลงอาคารอย่างใกล้ชิด จะอนุญาตได้เฉพาะบุคคลสำคัญและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างเซ็งแซ่ว่า มีการปิดกั้นสื่อและเลือกปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การจำกัดเป็นพื้นที่หวงห้ามดังกล่าวนั้น มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงวิกฤติของ พล.ต.อ.พัชรวาท ที่มีปัญหาการกดดันทางการเมืองเข้ามารุมเร้า ทำให้ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.พัชรวาท มีสีหน้าที่เคร่งเครียดตลอดเวลา แต่ยังพยายามฝืนยิ้มแย้มเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่แท้จริง ส่วนเวลาในการสัมภาษณ์นั้นหากสื่อมวลชนต้องการข่าวก็ต้องดักรอบริเวณด้าน ล่างช่วงเวลาที่เดินทางกลับบ้านพักก่อนขึ้นรถประจำตำแหน่งเท่านั้นซึ่งปกติ จะอยู่ในช่วงเวลา 18.30 น.-20.00 น. ของทุกวันหรือหากมีภารกิจส่วนตัวข้างนอกก็จะกลับก่อนเวลาปกติ

 

สำหรับคำสั่งดังกล่าวนั้นมีรายละเอียดดังนี้

คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 200/2552 เรื่อง ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (4 ) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และมาตรา 72 (1) แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 นายกฯมีคำสั่งดังนี้

ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางๆ ก่อนและให้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษาราชการแทน

มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 9 ก.ย.พ.ศ.2552
ลงชื่อ นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี

 

ที่มา: เรียบเรียงจากกรุงเทพธุรกิจออนไลน์, กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net