Skip to main content
sharethis
ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ ยังหวังจะได้รับความร่วมมือจากยูเออีตามล่าทักษิณ แจงคดีทักษิณคอรัปชั่นอยู่ในชั้นอัยการ ส่วนอีกฐานความผิดลุ้นส่งตัวทักษิณกลับประเทศหากโจมตีไทย เผยมีการประสานยื่นหมูยื่นแมว เอาไมเคิล ไบรอัน สมิท แลกตัวทักษิณ ยอมรับกรณีนักท่องเที่ยวแฉถูกเรียก 4 แสนแลกอิสรภาพหลังถูกจับในดิวตี้ฟรีกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

 

 
กษิตอัดแซยิดทักษิณบ้าๆ บอๆ ไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือน
วานนี้ (27 ก.ค.) เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่าถึงบิ๊กเซอร์ไพรส์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่าจะเปิดทีวีหลายช่องในงานแซยิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมว่า ว่า ไม่รู้สึกสะดุ้งสะเทือนอะไร แค่เรื่องบ้า ๆ บอ ๆ ไม่ยุ่งด้วยหรอก
 
และยังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาดำเนินคดีหลังอดีตนายกหนีคดีได้ปรากฏตัวผ่านระบบวิดีโอลิงค์ในงานแซยิด ว่า ตนไม่ใช่ตำรวจ ทั้งนี้พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักเรียนทุน เป็นPh.D.(ด็อกเตอร์) เป็นนายกฯ ต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง ดังนั้นปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตนแต่ปัญหาอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณ "คุณทักษิณเป็นปัญหาของสังคมไทยส่วนหนึ่ง พวกคุณ(สื่อมวลชน)ต้องไปถามคุณทักษิณว่าทำไมถึงประพฤติแบบนี้ อย่ามาถามผมเลย"นายกษิต กล่าว
 
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การส่งสัญญาณแบบนี้เหมือนเป็นการเยาะเย้ยว่าไม่สามารถนำตัวกลับเข้ามาได้ นายกษิต กล่าวว่า "อยากจะเยาะเย้ยอะไรก็เยาะเย้ยไปนะครับ ไม่ได้สะดุ้งสะเทือน คุณทักษิณเป็นคนที่หนีคุกหนีตาราง ไม่ได้มากระเทือนซางผมหรอกครับ" อย่างไรก็ตามตนขอให้สื่อมวลชนไปถามพ.ต.ท.ทักษิณว่าทำอะไรดีกับประเทศชาติบ้าง
 
 
บัวแก้วยังหวังยูเออีร่วมมือตามตัวทักษิณ
ด้านนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีอธิบดีอัยการต่างประเทศต้องการให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ชัดเจนเพื่อจะได้ติดตามตัว โดยนายพนิช กล่าว่า กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้เป็นผู้ที่ติดตามคุณทักษิณโดยตรง จริงๆ แล้วบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานก็ชัดเจน ทางตำรวจเองในฐานะเป็นผู้ต้องดำเนินการตรวจสอบและทางอัยการเองเป็นผู้ออกหมายจับ ทางกระทรวงการต่างประเทศมีหน้าที่ประสานงาน เราไม่มีหน้าที่ต้องติดตามคุณทักษิณว่าอยู่ที่ไหน ยกเว้นทางหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นอัยการสูงสุดหรือตำรวจให้เราช่วยประสานงานในการส่งข้อมูลหรือหมายจับ โดยการแปลเป็นภาษาอังกฤษและส่งไปให้ประเทศต่างๆ ที่เรามีสัมพันธ์ทางการทูตอยู่ ทั้งสถานทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก
 
ดังนั้น ถ้าเรามีข้อมูลว่าอดีตนายกรัฐมนตรีอยู่ที่ไหนและท่านเป็นบุคคลที่มีหมายจับตามอยู่ เราก็จะแจ้งไปตามหน่วยงาน ซึ่งหลายครั้งที่ผ่านมาเราก็ได้ดำเนินการ โดยเฉพาะในช่วงที่มีสถานการณ์ที่ไม่ปกติ มีการยุยงให้เกิดการจลาจลในประเทศ ตอนนั้นเราก็มีการดำเนินการ แต่กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้มีหน้าที่ต้องติดตามโดยตรง เพราะหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่ขอความช่วยเหลือมา
 
นายพนิช กล่าวว่า ล่าสุดที่พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามามีข้อมูลว่าท่านได้บินออกจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปแล้ว อันนี้เราก็มีการตรวจสอบไปหลายประเทศที่ท่านเคยเดินทางไป แต่ก็ยังไม่เจอหลักฐานว่าท่านได้ออกไปอยู่ในประเทศไหน
 
อย่างที่ผมเรียนคือว่า เราสามารถตรวจสอบได้ แต่ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าท่านโฟนอินมาจากที่ไหน เพราะเหมือนท่านอยู่ในห้องส่งหรือห้องใดห้องหนึ่ง แต่ที่ชัดเจนที่สุดก็คือประเทศที่เราได้มีการไปพูดคุยและทราบในเบื้องต้นหรือทราบจากข่าวว่าท่านได้ไปพักอาศัยอยู่ เราก็ได้ประสานงานไปชัดเจนแล้ว ยกตัวอย่างประเทศที่ผมพูดถึงเมื่อกี้นี้ เราก็มีการพูดคุยกันชัดเจนว่าเมื่อไหร่ที่ท่านมีการขับเคลื่อนทางการเมือง ประเทศนั้นเขาก็จะไม่ยอม โดยเฉพาะประเทศที่เรากำลังพูดถึง เขาก็พูดกับผมชัดเจนเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ตัวรัฐมนตรีเขาเองพูดบอกว่าเขาจะเชิญคุณทักษิณ เข้ามาถ้าเกิดมีการขับเคลื่อนทางการเมืองและจะให้เซ็นเอกสารว่าถ้าเมื่อไหร่ท่านขับเคลื่อนทางการเมือง ท่านก็จะไม่สามารถใช้ประเทศนี้เป็นฐานในการพักพิงได้ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีความสำคัญมากกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวบุคคล นายพนิชกล่าว
 
เมื่อถามว่าเนื้อหาในการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนไหนที่เป็นการโจมตีประเทศไทยหรือไม่ นายพนิช กล่าวว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้พูดไว้แล้วว่าการที่จะมาแสดงออกเรื่องงานเลี้ยงวันเกิดท่านสามารถที่จะทำได้ แต่เมื่อไหร่ที่ท่านมีการยุยงให้เกิดความแตกแยก ยุยงให้เกิดปัญหากับตัวรัฐบาลหรือตัวสถาบันอันนี้เราก็คงจะต้องดำเนินการไม่ว่าจะเป็นทางการทูตหรือทางต่างๆ
 
แต่เท่าที่ดูเมื่อวานนี้ ผมคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็คงจะแยกออกว่าสิ่งที่ท่านพยายามทำคืออะไร และสิ่งที่รัฐบาลทำตอนนี้คือพยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่มันมีความสำคัญมากกว่า สิ่งที่ท่านพยายามที่จะทำเมื่อวานนี้
 
เมื่อถามว่าหวั่นหรือไม่ว่าเนื้อหาส่วนหนึ่งที่มีการบอกว่าจะมีการเปิดทีวีช่องการศึกษาช่องแก้จนจนและโอท็อป จะกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายพนิชกล่าวว่า ผมคิดว่าไม่ ถ้าท่านสามารถที่จะทำได้ ท่านก็สามารถทำได้ และประชาชนได้ประโยชน์ ผมคิดว่าทางรัฐบาลเองก็อยากจะบอกเลยว่าถ้าใครสามารถช่วยได้ ไม่ใช่เฉพาะคุณทักษิณ มันก็มีคนอื่นที่เขาทำอยู่แล้ว มีมูลนิธิต่างๆ ที่เขาช่วยอยู่แล้ว แต่อันนี้ก็อาจจะต้องดูว่าท่านทำได้มากน้อยแค่ไหน
 
แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าตอนนี้ ท่านเองก็ยังมีปัญหาในตัวของท่านเองอยู่ ซึ่งสิ่งที่เราอยากให้ดำเนินการก็คือ ท่านกลับมาในประเทศและสู้คดีของท่านให้จบก่อน อันนี้คือเรื่องที่สำคัญมาก ก่อนที่ท่านจะดำเนินการอย่างอื่น ท่านควรจะต้องกลับมาดำเนินการในเรื่องคดีของท่านก่อน"
 
 
เผยมีการประสานยื่นหมูยื่นแมว แลกไมเคิล ไบรอัน สมิท กับทักษิณ
เมื่อถามว่ายูเออี ต้องการให้ทางการไทยส่งตัวนายไมเคิล ไบรอัน สมิท นักธุรกิจชาวอังกฤษ ผู้ต้องหากระทำความผิดฉ้อโกง บริษัทในนครดูไบนั้นไทยสามารถทำข้อตกลงลงได้หรือไม่ นายพนิช กล่าวว่า “ได้ครับ ตอนนี้เราก็มีการดำเนินการอยู่ แม้กระทั่งสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างไทยกับยูเออี ยังไม่เรียบร้อย แต่ก็มีกรณีที่เราสามารถทำการแลกเปลี่ยนตัวได้ ในอดีตประเทศไทยก็เคยส่งนักโทษก่อคดีแล้วเราส่งไปให้ทาง ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเป็นการแลกเปลี่ยนตัว ซึ่งตอนนั้นเป็นขาเดียวด้วยซ้ำ เราส่งไปให้เขาก่อนเลย ถ้าเกิดเราจะใช้ในกรณีนี้มา ก็สามารถทำได้ และตอนนี้ก็มีขบวนการที่สามารถดำเนินการได้
 
ถามว่ากรณีคุณทักษิณ อยู่ยูเออี เราสามารถดำเนินการขอแลกเปลี่ยนตัวได้หรือไม่ นายพนิช กล่าวว่า “ใช่ครับ เราก็มีการประสานไปแล้วเรามีการประสานกันอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันจะเป็นเรื่องของกฎหมายและเรื่องของอัยการของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ของเขาเอง ว่าเขาจะดำเนินการอย่างไร เราทำหมายจับไปให้แล้ว อันนี้เป็นเอกสารที่มีความสำคัญ ในการที่ทางรัฐบาลยูเออีต้องพิจารณา แต่ตอนนั้น กับกรณีของคุณทักษิณจะต่างกันนิดหนึ่ง เพราะตอนนั้นเป็นคดีทางเศรษฐกิจแต่กรณีคุณทักษิณ ที่ประเทศไทยออกหมายไปเป็นคดีทางด้านผลประโยชน์ทับซ้อนหรือคอรัปชั่น อันนี้จะแตกต่างกันแล้วแต่จะพิจารณา ที่ผ่านมามี 2 เคส เคสในอดีตเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ส่งตัวกลับไปแล้วแต่ ณ ปัจจุบันมีอีกเคสหนึ่งที่ค้างอยู่ เราอยู่ในกระบวนการที่ดำเนินการอยู่ ยังอยู่ในประเทศไทย เป็นนักธุรกิจชาวไอริช ได้มีการยักยอกทรัพย์สิน เราได้รับการประสานงานจากรัฐบาลยูเออีให้ส่งตัวเขากลับและทางเรามีหน้าที่ดูแลให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายว่าจะส่งไปได้ในลักษณะไหน จะแลกเปลี่ยนกันโดยตรงหรือไม่เพราะทางเขาเอง ก็มีอัยการ
 
เมื่อถามว่านับตั้งแต่ทางการยูเออียืนยันว่าไม่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ในประเทศ จนกระทั่งล่าสุดอดีตนายกฯ ระบุว่าอยู่ในดูไบแล้วทางการดูไบ ยังยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อยู่ในประเทศหรือไม่ นายพนิช กล่าวว่า อย่างที่ผมเรียนครับ คำว่าทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนรู้จักอยู่แล้ว แต่ตามที่ทางยูเออีตรวจสอบ เขาตรวจสอบตามพาสปอร์ตไทย ที่สะกดตามที่พาสปอร์ตไทยสะกดเอาไว้ แต่ท่านสามารถที่จะเปลี่ยนชื่อได้และใช้พาสปอร์ตของประเทศอื่นได้ ดังนั้นการตรวจสอบอาจจะไม่ตรงกับชื่อที่เราเคยแจ้งไว้ในพาสปอร์ตไทย
 
แต่ผมก็ต้องเรียนอย่างนี้นะครับว่า ทางรัฐบาลยูเออี ก็ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยเป็นอย่างดีมาก และผมก็ได้มีโอกาสได้เจอ ท่านรัฐมนตรีและตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูง ของรัฐบาลยูเออีหลายครั้ง และเขาก็พูดชัดเจน ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปหาเขาด้วยซ้ำ เขาเดินมาหาผมแล้วว่าเขาจะไม่ยอมให้ใครมาขับเคลื่อนทางการเมือง โจมตีมาที่ประเทศไทยแน่นอนหรือประเทศไทยก็แล้วแต่ ฉะนั้นความร่วมมือมีสูง แต่อย่างที่เรียนคือว่าถ้าเกิดท่านอยู่ที่นั่นโดยที่มีหมายจับ แต่ทางอัยการของเขากำลังดำเนินการอยู่ ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด ท่านก็อาจจะสามารถพักพิงได้ แต่เมื่อไหร่ที่มีการดำเนินการขับเคลื่อนทางการเมืองและโจมตีประเทศไทย ผมเชื่อว่าทางรัฐบาลยูเออีเขาก็ต้องมีมาตรการที่ทำให้ท่านไม่สามารถที่จะอยู่ในประเทศยูเออีได้ เหมือนอย่างที่เคยทำเมื่อวันที่ 20 เดือนเมษาที่ผ่านมา ก็ได้มีการขอให้ท่านเดินทางออกนอกประเทศ และท่านก็ได้เดินทางออกไปและล่าสุดก็ได้มีการพูดชัดเจนว่าจะเชิญท่านมา เพื่อพูดคุยกับท่านอีกครั้งหนึ่งและถ้าจำเป็นจริงๆ ก็จะให้ท่านลงนามในเอกสารเพื่อให้ท่านไม่ขับเคลื่อนทางการเมือง แต่ที่ผ่านมา ก็ต้องเรียนว่าท่านก็ยังไม่ได้ขับเคลื่อนอะไรที่มาโจมตีทำร้ายประเทศไทยถึงขนาดที่ว่าเขาเองจะต้องดำเนินการเชิญท่านออกจากประเทศยูเออี แต่เมื่อไหร่ที่มีกรณีนี้เกิดขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าจะมีหรือไม่มี อันนี้ผมคิดว่าทางรัฐบาลยูเออี ก็คงจะไม่ยอมให้ท่านขับเคลื่อนแน่นอน
 
เมื่อถามว่าเงื่อนไขความผิดเรื่องคอรัปชั่นอาจไม่ใช่เหตุสำคัญในการส่งตัวกลับเหมือนเงื่อนไขการใช้ประเทศดังกล่าวโจมตีประเทศไทยหรือไม่ นายพนิช กล่าวว่า ถ้ามองแบบตรงๆ นะครับ คดีทางคอรัปชั่นเป็นคดีที่สำคัญแต่ก็อาจจะไม่ได้เป็นคดีที่รัฐบาลหลายๆรัฐบาล ให้ความสำคัญเท่ากับการยุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลแน่นอน หรือเป็นคดีเกี่ยวกับเรื่องการทำร้ายหรือการฆาตกรรมซึ่งผมคิดว่าอันนั้นอาจจะใหญ่กว่า ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือทางอัยการของแต่ละประเทศ เขาก็คงมีมาตรฐานในการดำเนินการว่าคดีระดับไหน คดีประเภทไหน เป็นคดีที่รุนแรงและเกิดความเสียหายต่อประเทศนั้น
 
 
ยอมรับกรณีนักท่องเที่ยวแฉถูกเรียก 4 แสนแลกอิสรภาพกระทบภาพลักษณ์
นอกจากนี้ นายพนิช ยังกล่าวภายหลังการหารือกับนายคริส ไบรอันท์ (Cris Bryant) ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศสหราชอาณาจักร ว่าทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในไทยโดยเฉพาะการที่ไทยเพิ่งจัดการประชุมอาเซียนซึ่งอังกฤษให้ความสำคัญกับประเด็นพม่า คาบสมุทรเกาหลีและสิทธิมนุษยชน อีกทั้ง เรื่องภาวะโลกร้อนและสิ่งแวดล้อม
 
ส่วนกรณีนายโธมัส สตีเฟ่น อิงแกรม และนางซื่อ หลิน นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษถูกตั้งข้อหาจากตำรวจไทยในคดีลักทรัพย์ร้านค้าปลอดภาษี บริษัทคิงพาวเวอร์ ในสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยทั้งสองคนระบุว่าต้องจ่ายเงินกว่า 400,000 บาทเพื่อแลกกับอิสรภาพ ซึ่งนายพนิชกล่าวว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกฝ่ายดำเนินการทุกอย่างให้โปร่งใส หากเกิดกรณีทุจริตหรือก่อให้เกิดความเสียหายกับนักท่องเที่ยวก็จะต้องจัดการให้ถึงที่สุด เพราะเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานการท่องเที่ยวที่ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่นักท่องเที่ยวก่อนที่จะเดินทางเข้ามา อีกทั้ง ศุลกากรและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองซึ่งจะต้องตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมแก่นักท่องเที่ยว
 
นายพนิชยอมรับว่าการออกข่าวในเชิงลบจากกรณีของนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษส่งผลต่อการท่องเที่ยวซึ่งกระทรวงต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องชี้แจงเพราะเป็นกระบวนการที่ทำให้เสียภาพลักษณ์ของไทย ตำรวจต้องชี้แจงและออกมาชี้แจงบางส่วนแล้วเกี่ยวกับเอกสารในการเสียค่าปรับ และนายไบรอันท์จะเดินทางไปพบตำรวจและอาจมีการหารือในเรื่องนี้ด้วย
 
นอกจากนี้ นายไบรอันท์ยังสอบถามถึงศพชาวอังกฤษจากเหตุการณ์สึนามิที่ยังหาไม่พบอีก 6-7 ราย ซึ่งฝ่ายไทยจะรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การตรวจสอบสถานะผู้เสียชีวิตให้ทราบต่อไป
 
ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศอังกฤษแจ้งให้ทราบด้วยว่าเจ้าฟ้าชายแอนดรู ดยุคแห่งยอร์ค จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนไทย วันที่ 6-8 ต.ค. นี้ ในฐานะพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจะเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววันที่ 6 ต.ค.
 
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับฝ่ายไทยเนื่องจากอังกฤษออกกฎระเบียบการให้วีซ่าโดยใช้หลักการให้คะแนน (point base system) ทำให้เกิดปัญหากับนักท่องเที่ยวและนักศึกษาไทยเพราะนักศึกษาไทยไม่ได้รับคะแนนเนื่องจากเอกสารไม่ครบซึ่งทางอังกฤษยอมรับว่าเป็นปัญหาภายในและจะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่าโดยกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษจะจัดประชุมกับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆเพื่อชี้แจงเอกสารที่ต้องใช้ในการขอวีซ่า

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net