Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

มายาภาพกับข้อเท็จจริง-การชุมนุมของคนเสื้อแดงกับคนเสื้อเหลืองซึ่งนอกจากสื่อกระแสหลักจะบิดเบือนแล้ว ยังปรากฏในตำราเรียนของเตรียมอุดมศึกษาอีกด้วย

 

 

“โดยภาพรวมๆ แล้วเมื่อพิจารณาอ่านเอกสารประกอบการเรียนนี้แล้ว จะเห็นได้ชัดว่าแทนที่เอกสารนี้จะเป็นการนำเสนอ fact แต่กลับเป็นการเขียนเอกสารโดยใส่ความคิดเห็นของคณาจารย์เข้าไปด้วย ซ้ำร้ายกว่านั้นกลับเป็นความคิดเห็นที่เป็นความคิดเห็นเพียงฝ่ายเดียวเสีย ด้วย (ฝ่ายเดียวกับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)”
 
 
000
 
บทความชิ้นนี้ผู้เขียนจัดทำขึ้นเนื่องมาจาก การได้อ่านเอกสารประกอบการเรียนวิชา “สาระการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ (ส 33101)” ที่มีคณะผู้จัดทำเป็นอาจารย์โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 5 ท่าน โดยได้มีผู้นำออกมาเผยแพร่ให้ดาวน์โหลด [1]
 
เมื่อผู้เขียนได้อ่านเนื้อหาจากหน้าที่ 158 ถึงหน้า 167 แล้วได้มีความเห็นแย้งกับคณะผู้จัดทำหนังสือเล่มนี้ในหลายๆ จุด ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยแล้วปล่อยให้เด็กนักเรียนซึ่งเป็น เยาวชนของชาติได้รับรู้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า fact แต่กลับเป็นสิ่งที่ได้ถูกเจือปนไปด้วยอคติของกลุ่มคณะอาจารย์ผู้จัดทำ จุดนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้เขียนต้องเขียนบทความชิ้นนี้ขึ้นมา
 
ความไม่ถูกต้องของเอกสารประกอบการเรียนชิ้นนี้ ประกอบไปด้วยหลายๆ จุด จากมากบ้างน้อยบ้างเรียงกันไปดังนี้
 
 
1. การไม่ตรวจสอบข้อมูลชื่อบุคคลให้ถูกต้อง
ในเอกสารประกอบการเรียนชิ้นนี้มีการอ้างถึงชื่อบุคคลอยู่คนหนึ่งในหน้าที่ 159 คือ “นายบวรศักดิ์ สุวรรโณ” [2] ตรงจุดนี้บุคคลคนนี้จริง ๆ แล้วมีการเขียนนามสกุลที่ไม่ถูกต้อง จริง ๆ แล้วจะต้องเป็น “นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ” ถึงจะถูกต้อง ซึ่งก็ไม่ทราบได้ว่าเหล่าคณาจารย์ไม่ทราบข้อมูลตรงส่วนนี้จริงๆ หรือว่าเป็นการผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่หากเหล่าคณาจารย์เหล่านี้เป็นผู้ที่มีความรู้อย่างแท้จริง และติดตามประวัติศาสตร์การเมืองอย่างแท้จริงแล้ว ก็ไม่น่าที่จะผิดพลาดกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ไปได้
 
 
2. ความมีอคติในการนำเสนอเนื้อหาระหว่างรัฐบาลสองรัฐบาล
ในหน้าที่ 158 หัวข้อ 24.6 มีการกล่าวว่าในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ของทักษิณนั้น มีการปิดกั้นครอบงำวุฒิสภา องค์กรอิสระต่างๆ และปิดกั้นการทำงานของสื่อมวลชน
 
ผู้เขียนจะไม่ขอโต้แย้งในจุดนี้ว่าจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่ผู้เขียนจะวิเคราะห์จุดตรงที่พิจารณาได้ว่าคณาจารย์มีความอคติลำเอียงก็ คือ ในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเองนี้ มีการปิดกั้นคุกคามสื่อ มีการสกัดกั้นการออกอากาศของวิทยุชุมชน มีการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลในเว็บไซต์ แต่น่าแปลกใจที่คณาจารย์เหล่านี้กลับมองไม่เห็น อย่างน้อยๆ แล้วหากคณาจารย์เหล่านี้มีความเป็นธรรมในการเสนอข้อมูล ก็ควรที่จะนำเรื่องการปิดกั้นสื่อของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะใส่ไว้ในเอกสารประกอบการเรียนชิ้นนี้ด้วย
 
ในหน้าที่ 161 หัวข้อ 24.11 ในเอกสารประกอบแบบเรียนกล่าวเสมือนกลับว่า การบริหารราชการของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนั้น ได้รับความลำบากมากในการบริหารประเทศ เพราะมีการประท้วงของกลุ่ม นปช. รวมทั้งประกอบกับวิกฤติเศรษฐกิจที่ตกต่ำลุกลามไปทั่วโลก
 
หากพิจารณาในอีกแง่มุมหนึ่งแล้ว ถ้ามองย้อนกลับไปในสมัยที่พันธมิตรออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลของทักษิณแล้ว รัฐบาลทักษิณก็ย่อมมีความยากลำบากในการบริหารประเทศเช่นกัน แต่ในเอกสารประกอบการเรียนนี้กลับไม่กล่าวถึง กลับนำเสนอในทำนองว่าการชุมนุมของพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเป็นการขับไล่รัฐบาลทักษิณ (ทั้งๆ ที่รัฐบาลทักษิณนั้นมีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน)
 
 
3. ความบิดเบือนของข้อเท็จจริงในเรื่องของการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตร
ในหน้าที่ 163 หัวข้อที่ 25.1 มีการกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิต 2 รายจากการสลายการชุมนุมด้วยแก๊สน้ำตาของกลุ่มพันธมิตรที่หน้ารัฐสภา
 
ตรงจุดนี้หากคณาจารย์มีจิตใจที่เป็นธรรมแล้ว ย่อมจะต้องนำผลการชันสูตรการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมทั้งสองคนนี้ เข้ามาบรรจุไว้ในเนื้อหาด้วย เพราะเมื่อพิจารณาดูแล้วคณาจารย์ทำ เสมือนกับว่าต้องการจงใจจะปกปิดถึงสาเหตุการเสียชีวิตของทั้งสองคนนี้ ถึงแม้ว่าการเสียชีวิตของน้องโบว์นั้นจะเป็นมีการโต้เถียงกันว่าเกิดจากแก๊ส น้ำตาหรือไม่ (ความเห็นของผู้เขียนเอง คือ น้องโบว์เสียชีวิตจากระเบิดปิงปองของการ์ดพันธมิตร - ขอให้ผู้อ่านรวมทั้งนักเรียนที่ได้อ่านลองศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม)
 
แต่สำหรับสารวัตรจ๊าบแล้วเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ไม่ได้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม และไม่ได้เสียชีวิตด้วยแก๊สน้ำตา เพราะสารวัตรจ๊าบนั้นเสียชีวิตด้วยระเบิด โดยตัวสารวัตรเองนั้นนั่งอยู่ในรถของตัวเอง แล้วรถคันนั้นมีการระเบิดขึ้น (ส่วนระเบิดในรถนั้นมาจากที่ใด ขอให้ผู้อ่านรวมทั้งนักเรียนที่ได้เข้ามาอ่านได้ทำการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ก็คงจะเข้าใจอะไรได้ไม่ยาก) แค่จุดนี้ก็แสดงให้เห็นได้แล้วว่า คณาจารย์เหล่านี้จงใจที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงในเรื่องการสลายการชุมนุม
 
 
4. การบิดเบือนเรื่องการใช้กระสุนกระดาษสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
ในหน้าที่ 167 นั้น หัวข้อที่ 25.2 ได้กล่าวเกี่ยวกับการสลายการชุมนุมของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่ามีการสลายการชุมนุมโดยใช้กระสุนกระดาษนั้น
 
จุดนี้เป็นจุดที่มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอย่างไม่น่าอภัย เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าได้มีการปรากฏตามสื่อต่างชาติ ทั้งรูปภาพคลิปวีดีโอ ว่าทหารใช้กระสุนจริงในการสลายการชุมนุม มีผู้ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกกระสุนปืน M16 ยิงหลายราย ผู้เขียนไม่เข้าใจว่าในยุคสมัยอินเตอร์เน็ตนี้ ที่ข่าวสารยากที่จะปิดบัง รวมทั้งข่าวสารง่ายต่อการตรวจสอบ แต่ทำไมคณาจารย์เหล่านี้กลับทำเหมือนกับว่า จะบิดเบือนข้อมูลตรงจุดนี้ไปได้ง่าย ๆ หรือคณาจารย์เหล่านี้ยังคิดว่าประชาชนในสมัยนี้นั้นยังฉลาดน้อยเหมือนกับใน สมัยก่อนอยู่
 
จากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ผู้เขียนหยิบยกเฉพาะประเด็นที่ หลัก ๆ สำคัญ ๆ ออกมาโต้แย้งเหล่าคณาจารย์ แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกหลายประเด็นนักแต่ผู้เขียนก็คิดว่าไม่อยากจะหยิบยกมาเป็น ประเด็นมากจนเกินไปจนเหมือนกับเป็นการจับผิดไป แต่โดยภาพรวม ๆ แล้วเมื่อพิจารณาอ่านเอกสารประกอบการเรียนนี้แล้ว จะเห็นได้ชัดว่าแทนที่เอกสารนี้จะเป็นการนำเสนอ fact แต่กลับเป็นการเขียนเอกสารโดยใส่ความคิดเห็นของคณาจารย์เข้าไปด้วย ซ้ำร้ายกว่านั้นกลับเป็นความคิดเห็นที่เป็นความคิดเห็นเพียงฝ่ายเดียวเสีย ด้วย (ฝ่ายเดียวกับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)
 
มาถึงจุดนี้ผู้เขียน ก็ฉุกคิดขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่อง คือ การศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ในโรงเรียนของเรานั้น มีการบิดเบือนมาโดยตลอด หรือ อาจจะจงใจที่จะตัดประวัติศาสตร์บางตอนออกไปจากแบบเรียน โดยไม่ต้องการที่จะให้นักเรียนได้ศึกษาประวัติศาสตร์ในบางช่วง ดังนั้นผู้เขียนเห็นว่า
 
นับจากนี้ไปเราน่าจะที่ต้องร่วมกันรณณรงค์ในเรื่องของการบรรจุเนื้อหาวิชาประวัติศาสตร์ ที่ถูกต้อง นำเสนอแต่สิ่งที่เรียกว่า fact เข้าไปในเนื้อหาแบบเรียนให้นักเรียนได้ศึกษากันจริงๆ จังๆ เสียที โดยอาจจะเริ่มจาก เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครองสมัย พ.ศ. 2475 ต่อเนื่องมาจนถึงเหตุการณ์สวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 8 เรื่อยมาจนถึงเหตุการณ์สมัย 6 ตุลาคม 2519
 
และถ้าจะให้ดี ก็ควรที่จะเตรียมตัว ที่จะนำเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนับจากนี้ไปอีกสัก 5 ปีเข้าบรรจุไว้ในแบบเรียนในวิชาประวัติศาสตร์ด้วย เพื่อให้นักเรียนรุ่นหลัง ๆ ได้เข้าใจประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องกันเสียที
........
 
อ้างอิง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net