Skip to main content
sharethis

วานนี้ (16 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งข่าวว่า มีชาวบ้านซึ่งอยู่ในกลุ่มอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรม อ.หนองแซง จำนวน 4 คน เป็น ชาย 2 คน หญิง 2 คน ถูกจับในข้อหาบุกรุกเข้าไปในที่ดินของโครงการโรงไฟฟ้าหนองแซง ซึ่งดำเนินการโดย บ.เพาเวอร์เจเนอเรชั่นซัพพลาย จำกัด ในพื้นที่บ้านห้วยบ่า หมู่ที่ 4 ต.หนองกบ อ.หนองแซง จ.สระบุรี ตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 7.00 น.ของวันเดียวกัน


 


สอบถามไปยังนางปฐมมน กัณหา ผู้ให้บ้านหมู่ 7 บ้านโคกกระต่าย ต.หนองกบ อ.หนองแซง จ.สระบุรี กล่าวว่า กลุ่มชาวบ้านได้ชุมนุมกันที่บริเวณหัวสะพาน คลองระพีพัฒน์ เพื่อเฝ้าระวังการเข้ามาปรับพื้นที่จากคนของโรงไฟฟ้า โดยในวันเกิดเหตุ กลุ่มโรงไฟฟ้ายังคงมีความพยายามในการเข้าไปในพื้นที่ซึ่งเตรียมไว้สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อปรับพื้นที่และขุดเจาะดินนำไปเป็นข้อมูลในการทำ EIA ทำให้ชาวบ้านเข้าไปขัดขวาง เป็นเหตุให้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สังเกตการณ์อยู่บริเวณดังกล่าวเข้าจับกุมข้อหาบุกรุก


 


นางปฐมมนกล่าวว่า ตำรวจจับกุมชาวบ้านโดยใส่กุญแจมือเหมือนกับว่าเป็นนักโทษในคดีร้ายแรง นอกจากนี้การลงมาในพื้นที่ของเจ้าหน้าตำรวจในวันนี้ ดูเหมือนกับว่าตำรวจเข้ามารักษาความปลอดภัยให้แก่กลุ่มคนงานของโรงไฟฟ้าและบริษัท รับทำ EIA ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม


 


ทั้งนี้ ที่ผ่านมาชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรมมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า บริษัทเริ่มดำเนินการปรับที่ดินเพื่อก่อสร้างทั้งๆ ที่อีไอเอยังไม่ได้รับการอนุมัติ ยังไม่มีการทำรายงานการประเมินผลกระทบทางสุขภาพตามรัฐธรรมนูญมาตรา 57 และที่สำคัญเป็นการกระทำผิด กฎหมายสิ่งแวดล้อม ไม่ทำตามรัฐธรรมนูญ


 


"ตำรวจใช้กฎหมายอาญา แต่ชาวบ้านใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญ อย่างนี้ชาวบ้านมีแต่ตายกับตาย" นางปฐมมนกล่าว


 


นางปฐมมนกล่าวด้วยว่า แม้จะมีประกาศของ ผู้ว่าราชการจังหวัด จากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) หรือนโยบายของรัฐเอง ให้มีการหยุดการดำเนินงานในพื้นที่ แต่ก็ควรมีการเข้ามาดูในพื้นที่ด้วย ไม่ใช่ปล่อยโรงไฟฟ้าในพื้นที่ดำเนินการได้เช่นนี้


 


"1 ปี 3 เดือน กับอีก 13 วัน ที่เราต่อสู้มา เรารู้สึกว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้านเท่านั้นจะเป็นผู้รักษาพื้นที่ได้" นางปฐมมนกล่าว 


 


ล่าสุด รายงานสถานการณ์วันนี้ (17 มี.ค.) ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรมทั้ง 4 คนที่ถูกจับกุมและนำตัวไปสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจหนองแซง ได้รับการประกับตัวแล้ว โดยใช้หลักทรัพย์เป็นที่ดินมูลค่า 50,000 บาท ต่อคน ซึ่งที่ดินดังกล่าวรวบรวมจากชาวบ้านที่ร่วมกับคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า


 


อนึ่ง เครือข่ายอนุรักษ์วิถีเกษตรกรรม เป็นการรวมตัวกันของชาวบ้านในพื้นที่ อ.หนองแซง จ.สระบุรี และ อ.ภาชี จ.อยุธยา เพื่อคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าหนองแซง ซึ่งกำลังจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานร้อนร่วมที่จะใช้เครื่องกังหันก๊าซ และกังหันไอน้ำของบริษัท เพาเวอร์ เจเนอรัลซัพพลาย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บ.กัลฟ์เจพี หนึ่งในโรงไฟฟ้าที่ชนะการประมูลไอพีพีในเดือนมกราคม 2551 ที่ผ่านมา มีกำลังการผลิต 1,650 เมกกะวัตต์ ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านห้วยบ่า หมู่ที่ 4 ต.หนองกบ อ.หนองแซง จ.สระบุรี และบ้านธรรมสินธุ์โสภา หมู่ที่ 7 ต.หนองน้ำใส อ.ภาชี จ.อยุธยา


 


ทั้งนี้ กฟผ.ได้ทำการเซ็นต์สัญญาการก่อสร้างกับบริษัทเอกชนไปแล้ว ขณะที่โครงการอยู่ระหว่างระหว่างการเร่งแก้ไขรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยบริษัท อีอาร์เอ็ม สยาม จำกัด เพื่อนำเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net