แปลจาก: Homophobic attacks by any groups must be condemned

ประวิตร โรจนพฤกษ์ เดอะเนชั่น
(แก้ไขเพิ่มเติมโดยผู้เขียน)

การข่มขู่และใช้ความรุนแรงต่อการเดินขบวนพาเหรดเกย์ไพร์ดเชียงใหม่ของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งเป็นกลุ่มเสื้อแดงที่สนับสนุนทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 ก.พ.) ไม่เพียงสมควรถูกประณาม หากแต่ยังชี้ให้เห็นว่า คนรักเพศเดียวกันกลายเป็นเหยื่ออย่างเงียบๆ จากความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งมิใช่เพียงจากกลุ่มเสื้อแดงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มเสื้อเหลืองอย่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ด้วย

อาการกลัวคนรักเพศเดียวกันได้ถูกผู้มีบทบาทสำคัญจากทั้งสองสีใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในหลายโอกาส ชวนให้สงสัยว่าพวกเขาเหล่านั้นมีความเป็นประชาธิปไตยและยอมรับในความแตกต่างหลากหลายจริงหรือไม่

กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 กล่าวโจมตีผู้จัดงานเกย์ไพร์ดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขู่ให้รื้อเวทีในที่สาธารณะออก และยกเลิกงาน หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นรายงานว่า นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มเสื้อแดงกล่าวโดยอ้างว่าตนเองพูดแทนคนเชียงใหม่ว่า "คนเชียงใหม่ยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้และจะทำทุกวิถีทาง แม้จะต้องใช้ความรุนแรง เพื่อหยุดการเดินขบวน"

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงย้ำให้เห็นถึงอาการกลัวคนรักเพศเดียวกัน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวความแตกต่างของผู้ที่มีอัตลักษณ์และความเชื่อที่แตกต่างจากตนเองอีกด้วย

เป็นที่รู้กันดีว่าในเว็บไซต์หลายแห่ง สมาชิกกลุ่มเสื้อแดงบางคนมักโจมตีนายพลสูงวัยผู้เกษียณอายุราชการแล้วว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 โดยเรียกเขาว่า "เกย์แก่" หรือ "ขันทีเฒ่า"

ที่น่าขันคือฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของพวกเขาอย่างพันธมิตรฯ ก็แทบจะไม่ต่างกัน พวกเขาใช้ความเกลียดกลัวและการดูถูกคนรักเพศเดียวกันเป็นเครื่องมือทางการเมือง

ไม่กี่วันก่อนการข่มขู่คุกคามเกย์พาเหรด หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวัน กระบอกเสียงของพันธมิตรฯ ได้ตีพิมพ์การ์ตูนการเมืองชิ้นหนึ่ง ซึ่งบรรยายภาพแกนนำของกลุ่มเสื้อแดง หรือแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แต่งกายเป็นเกย์

เพศชายหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่กลางภาพคือ ใจ อึ๊งภากรณ์ นักรัฐศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ซึ่งหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และทิ้งแถลงการณ์สนับสนุนสาธารณรัฐและสังคมนิยมเอาไว้ นอกจากนั้นยังมีภาพล้อทักษิณ นพ.เหวง โตจิราการ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ และคนอื่นๆ ทำนองว่าเป็นเกย์ เพราะไม่ "แมน" พอที่จะยอมรับว่าพวกเขาสนับสนุนแนวคิดทางการเมืองแบบสาธารณรัฐ

นอกจากนั้นแล้ว เป็นที่รู้กันดีว่าหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกันนี้พูดถึงจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช. อีกคนว่าเป็นเกย์โดยใช้คำนำหน้าอย่าง "นัง..." ฯลฯ อย่างเสียๆ หายๆ และทำให้เขาเป็นตัวตลก

อาการกลัวและดูถูกคนรักเพศเดียวกัน และความกลัวอัตลักษณ์ที่แตกต่าง รวมถึงผู้ที่ไม่อยู่ในขนบของสิ่งที่เรียกว่า "ดี" และ "ยอมรับได้" เป็นอันตรายต่อการสร้างสังคมที่มีความหลากหลายและเป็นประชาธิปไตย กลุ่มคนเสื้อแดง หรือ นปช. ต้องไม่ลืมว่า เหตุผลในการต่อต้านทักษิณทุกวิถีทางที่พันธมิตรฯ อ้างมาโดยตลอดก็มาจากความเชื่อที่ว่า ทักษิณ "เลวร้าย" และ "ยอมรับไม่ได้" เช่นกันนั่นเอง (จริงๆ พันธมิตรฯ ไปไกลถึงขนาดไม่ยอมรับแม้กระทั่งเสียงคนส่วนใหญ่โดยผ่านการเสนอเรื่อง 70-30)

หากคนที่รักเพศเดียวกันในประเทศไทยถูกข่มเหงด้วยวาจา เพราะมีคนไม่สามารถยอมรับความจริงในสิ่งที่พวกเขาเป็นได้ สังคมสมควรจะต้องถูกตำหนิที่ยังคงปล่อยให้เกิดการเลือกปฏิบัติ ไม่ไว้วางใจ หรือแม้กระทั่งเกลียดชังดูถูกคนเหล่านี้และบีบบังคับให้หลายคนต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ

คนที่เป็นเกย์และไม่ได้เป็นเกย์ที่ยืนอยู่เคียงข้างสิทธิของผู้ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่างควรต้องประณามคนเหล่านี้ไม่ว่าจะเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง ASTV ผู้จัดการควรจะละอายใจที่เคยอ้างว่าตนเองในฐานะสื่อเป็นประทีปของสังคมไทย แกนนำ นปช. ควรตีพิมพ์คำขอโทษอย่างเปิดเผยและให้คำมั่นว่าจะเคารพสิทธิทางเพศของผู้อื่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก็ไม่ควรนิ่งเฉยต่อการละเมิดอย่างโจ่งแจ้งของทั้งสองฝ่าย

สองกลุ่มนี้อาจอ้างว่าพวกเขาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ท่าทีของพวกเขาต่อประเด็นเรื่องเพศกลับเป็นเผด็จการและคุกคามต่อสังคมที่มีความหลากหลายและเป็นประชาธิปไตย พวกเขาควรพึงตระหนักว่าพวกเขากำลังทำให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลก เพราะไม่มีสังคมใดสามารถเรียกตนเองว่าเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงได้ หากยังเลือกปฏิบัติและปิดปากคนที่มีความเห็นและอัตลักษณ์ที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นคนรักเพศเดียวกันหรือไม่ก็ตาม