Skip to main content
sharethis


ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี  ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี


กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางกับเหตุการณ์คนร้ายฆ่าตัดคอและจุดไฟเผาซ้ำทหารพรานชุดพัฒนาสันติ 43-7 จำนวน 2 นาย สังกัดกรมทหารพรานที่ 43 คือ ส.ต.นิอาซัน นิแว อายุ 30 ปี และ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) เชื้อ โชติรัตน์ อายุ 56 ปี เหตุเกิดบนถนนสายบ้านบือแนปีแน -บ้านบือแนกือบง หมู่ 3 ต.ประจัน อ ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา


ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นักวิชาการชื่อดังซึ่งเก็บข้อมูลความรุนแรงเกี่ยวกับความไม่สงบในดินแดนด้ามขวานมาหลายปี วิเคราะห์ว่า เป็นความพยายามของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการส่งสัญญาณในห้วงที่เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ลดลงในเชิงสถิติ เพื่อยืนยันว่าพวกเขายังก่อเหตุได้ และยังเป็นเหตุการณ์ที่เหี้ยมโหดสยดสยองอีกด้วย


อย่างไรก็ดี จุดที่ ผศ.ดร.ศรีสมภพ ให้ความสนใจ คือพื้นที่เกิดเหตุ ได้แก่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพราะเป็นอำเภอที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบสูงที่สุดของจังหวัดในรอบปี 2551 อีกทั้งเหตุฆ่าตัดคอ 2 ครั้งล่าสุดก่อนหน้าครั้งนี้ หนึ่งในสองเหตุการณ์ก็เกิดในพื้นที่ อ.ยะรัง เมื่อวันที่ 9 ก.ย.2551


เหยื่อฆ่าตัดคอในคราวนั้นคือ ว่าที่ ร.ต.อัฐพงศ์ ก้อนลม ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สะดาวา วัยเพียง 26 ปี เขาถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 ขณะขับรถกระบะไปทำงาน ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนอาคารเรียนของโรงเรียนบ้านอีบุ๊ ท้องที่หมู่ 3 ต.สะดาวา ก่อนที่คนร้ายจะเข้ามาจ่อยิงซ้ำ และลากศพลงมาตัดศีรษะ และเตรียมจุดไฟเผา แต่เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นโรงเรียน มีผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก คนร้ายจึงทิ้งอุปกรณ์เชื้อเพลิง และหิ้วศีรษะของ ว่าที่ ร.ต.อัฐพงศ์ หลบหนีไป


น่าสนใจว่า วิธีการก่อเหตุของคนร้ายคล้ายคลึงกับเหตุฆ่าตัดคอทหารพราน 2 นาย โดยเหยื่อรายแรกคือ ส.ต.นิอาซัน นั้น คนร้ายตัดคอได้สำเร็จ และจุดไฟเผาร่าง ส่วน อส.ทพ.เชื้อ คอไม่ขาด แต่ก็ถูกเผาร่างเช่นกัน 


ถึงวันนี้ศีรษะของ ว่าที่ ร.ต.อัฐพงศ์ และ ส.ต.นิอาซัน ยังหาไม่พบ!


"ยะรังเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุรุนแรงบ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งเพราะเป็นทางผ่านของเส้นทางสาย 410 ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นประจำ เมื่อฝ่ายความมั่นคงจับทางได้ ก็พยายามตรึงกำลังเข้ม ทำให้เหตุการณ์รุนแรงค่อยๆ ซาลงไป แต่ฐานมวลชนของฝ่ายขบวนการยังมีอยู่ จึงสามารถก่อเหตุรุนแรงในลักษณะโหดเหี้ยมได้เป็นระยะ" ผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าว


น่าสนใจว่า ก่อนที่ ว่าที่ ร.ต.อัฐพงศ์ จะถูกฆ่าเพียง 1 เดือน นายมะ ดือราแม อายุ 65 ปี ก็ถูกฆ่าตัดศีรษะในพื้นที่ ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงข้อมูลที่นักวิชาการจากศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้วิเคราะห์เอาไว้ 


"กลุ่มที่สามารถปฏิบัติการฆ่าตัดคอได้น่าจะมีไม่มากนักในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเห็นว่าเขาทำเป็นจุดๆ ไม่ได้ทำทุกพื้นที่ จึงน่าจะเป็นกลุ่มที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และพื้นที่ อ.ยะรัง ก็เคยเกิดเหตุการณ์ฆ่าตัดคอมาแล้วหลายครั้งในบริเวณใกล้เคียงกัน จึงน่าจะมีกลุ่มเฉพาะที่ทำงานประเภทนี้ในพื้นที่ และเลือกก่อเหตุเป็นช่วงๆ เมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวย" 


และสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยดังกล่าวก็คือการตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐหลังเกิดเหตุรุนแรงอันชวนสงสัยว่าเป็นการกระทำของฝ่ายเจ้าหน้าที่ เช่น เหตุการณ์วิสามัญฆาตกรรม นายอับดุลอาซิ คงเสถียร ชายมือพิการที่ ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2552 ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่สร้างความอึมครึมในพื้นที่อย่างมาก และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ก็ออกแถลงการณ์แสดงความเชื่อมั่นว่า เหตุฆ่าตัดคอทหารพราน 2 นาย น่าจะเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐกรณีการเสียชีวิตของนายอับดุลอาซิ 


"ผมคิดว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกัน โดยฝ่ายที่ก่อการพยายามสร้างปฏิกิริยาตอบโต้ทันควัน นี่คือโจทย์ของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องระมัดระวังการจัดการความรุนแรงด้วยความรุนแรง เพราะจะเกิดผลกระทบตามมาในลักษณะนี้" ผศ.ดร.ศรีสมภพ ระบุ


ผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ยังให้ข้อมูลด้วยว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 เกิดเหตุฆ่าตัดคอมาแล้วถึง 30 ครั้ง ใกล้เคียงกับข้อมูลของ "สถาบันอิศรา" ที่รายงานเอาไว้ในสกู๊ปพิเศษเรื่อง "ย้อนรอย 26 เหยื่อฆ่าตัดคอ ไขปริศนาฆ่าสุดสยอง!" เมื่อวันที่ 24 ก.ย.255


"ในปี 2547 ปีแรกของเหตุการณ์ความรุนแรงรอบใหม่ มีเหยื่อถูกฆ่าตัดคอ 5 ราย ต่อมาปี 2549 มีเหยื่อถูกฆ่าตัดคอ 10 ราย และมาเพิ่มมากขึ้นในช่วงปี 2550-2551" ผศ.ดร.ศรีสมภพ กล่าว


องค์กรสิทธิประณามคนร้ายฆ่าตัดคอไร้มนุษยธรรม


 


สมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.)
และประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม


นายสมชาย หอมละออ ประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.) และประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม แถลงเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาซึ่งมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากการถูกลอบสังหารจำนวนมาก รวมทั้งเหตุการณ์ที่ทหารพราน 2 นายถูกฆ่าตัดศีรษะและเผาอย่างโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมนั้น ไม่ว่ากลุ่มใดจะเป็นคนทำ ต้องถือเป็นการอาชญากรรมและเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รุนแรง ต้องถูกประณาม


"การฆ่าตัดคอถือเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง ศพของมนุษย์ไม่ควรจะถูกกระทำย่ำยีอย่างป่าเถื่อนเช่นนี้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายอย่างเป็นธรรม" นายสมชาย ระบุ และว่า ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายร่วมกันยุติวงจรแห่งความรุนแรง  ด้วยการร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม และร่วมกันสร้างพื้นที่ทางการเมืองประชาธิปไตยที่ปราศจากความรุนแรง


ที่วัดสุวรรณากร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการกองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (ผบ.พตท.) เป็นตัวแทนนำพวงหรีดของนายกรัฐมนตรี  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  และผู้นำเหล่าทัพ วางหน้าศพ อส.ทพ.เชื้อ  โชติรัตน์ ที่ถูกกลุ่มคนร้ายซุ่มยิงและฆ่าเผาตัดศีรษะ พร้อมเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ โดยมีข้าราชการทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ร่วมแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก ก่อนที่ญาติจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดอัมพวนาราม หมู่ 3 ต.ท่ามิหรำ อ.เมือง จ.พัทลุง บ้านเกิด โดย อส.ทพ.เชื้อ มีบุตรธิดาถึง 3 คน ทั้งหมดอยู่ในวัยเรียน


ส่วน ส.ต.นิอาซัน นิแว อายุ 30 ปี ทหารพรานสังกัดกรมทหารพรานที่ 43 ซึ่งถูกฆ่าตัดคอในเหตุการณ์เดียวกันนั้น ญาติได้ทำพิธีฝังตามหลักศาสนาอิสลาม ที่กุโบร์ดาตู ถนนโรงเหล้า อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยที่ยังไม่พบศีรษะของ ส.ต.นิอาซัน แต่อย่างใด


ยิงผู้ใหญ่บ้านเจาะไอร้องดับ


สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดวันที่ 3 ก.พ.2552 ยังคงเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 18.00 น. ร.ต.ท.วัชรพงศ์ จักรนวล ร้อยเวร สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตคารถกระบะ บนถนนจารุเสถียร ช่วงสุไหงปาดี-เจาะไอร้อง ท้องที่บ้านไอกูบู หมู่ 1 ต.สุไหงปาดี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ


ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ หมายเลขทะเบียน กจ 42 นราธิวาส จอดเสียหลักอยู่ริมถนนในสภาพกระจกหน้าและประตูด้านคนขับ ถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุน ตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิตคาพวงมาลัย ทราบชื่อคือ นายมะซะรูมิง ดอนิแม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ 1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดย นายมะซะรูมิง เป็นผู้ใหญ่บ้านเจาะเกราะ หมู่ 1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธสงครามอาก้าที่บริเวณศีรษะ ลำคอ หน้าอก และหัวไหล่ เสียชีวิตคาที่ นอกจากนั้นในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่จำนวน 8 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมะซะรูมิงขับรถกระบะออกจากบ้านตามลำพังเพื่อเดินทางไปทำธุระในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี เสร็จแล้วจึงขับรถกลับบ้าน แต่ระหว่างทางมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถกระบะไม่ทราบสี ยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน ขับตามประกบ เมื่อสบโอกาสคนร้ายที่นั่งอยู่ในกระบะหลังได้ใช้อาวุธปืนสงครามอาก้ายิงถล่มใส่ผู้ตายกว่า 10 นัด จนรถเสียหลักตกไหล่ทาง ทำให้นายมะซะรูมิงเสียชีวิต ขณะที่คนร้ายได้เร่งเครื่องรถหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงของกลุ่มผู้ไม่หวังดี โดยมีบุคคลที่ทำงานให้กับรัฐตกเป็นเป้าสังหาร 


 


ที่มา: patanipost    


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net