Skip to main content
sharethis

ความขัดแย้งในการสรรหาผู้บริหารสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน พอช. องค์กรที่มีบุคลากรที่ทำงานกับองค์กรชุมชนทั่วประเทศนับร้อย บริหารประมาณแผ่นดินนับพันล้าน เป็นประเด็นที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ การออกมาวิพากษ์ "สมสุข บุญญะบัญชา" อดีต ผอ.พอช.อย่างรุนแรงของ "บำรุง บุญปัญญา" นักพัฒนาอาวุโสผู้เคยได้รับสมญาว่าราชสีห์อีสาน จึงมีนัยมากกว่าความขัดแย้งในด้านแนวคิดหรือแนวทางการทำงาน แต่มีเป้าประสงค์อยู่ที่ตัวผู้บริหารชุดใหม่ที่จะได้มาในอนาคต


 


 






 


จดหมายเปิดผนึก


                                                                                               


1 กุมภาพันธ์ 2552


 


เรียน พี่น้องในวงการพัฒนาที่เคารพรัก


 


เมื่อผมได้อ่านจดหมายของคุณสมสุข บุญญะบัญชา อดีตผู้อำนวยการ พอช. ลงวันที่ 12 มกราคม 2552 แล้ว โดยละเอียด มีความรู้สึกว่าเป็นเนื้อหาที่มีลักษณะโอ้อวดและทวงบุญคุณอยู่แทบทุกย่อหน้า แม้จะเกริ่นในตอนต้นว่าเป็นการถือโอกาสขอบคุณมิตรสหายในวงการพัฒนา เนื่องในวาระครบ 8 ปี ที่ได้ร่วมงานกันมา ในฐานะผู้อำนวยการของสถาบันแห่งนี้ อันเป็นตำแหน่งที่มากด้วยความหมายและดำรงอิทธิพลอันสำคัญเป็นอย่างยิ่ง


 


ผลงานทั้งหลายทั้งปวงที่ถูกยกขึ้นมากล่าวอ้างว่าเป็นผลสำเร็จอย่างกว้างขวางและเกิดผลสะเทือนต่อขบวนชุมชนทั้งประเทศ เช่น โครงการบ้านมั่นคง ที่ดำเนินการครอบคลุม 230 เมือง, การจัดสวัสดิการโดยชุมชนท้องถิ่นจนสามารถจัดตั้งกองทุนสวัสดิการใน 3,000 ตำบล , การสนับสนุนให้เกิดกระบวนการจัดทำแผนชุมชนกว่า 1,500 ตำบลทั่วประเทศ รวมทั้งการขยายบทบาทเข้าไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและการจัดการทรัพยากร ดิน - น้ำ - ป่า ฯลฯ นับเป็นการนำเสนอที่อธิบายตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม เพราะสามารถผลักดันงานให้เกิดผลได้ในทุกเรื่องทุกประเด็น อันเกาะเกี่ยวกับปัญหาของชาวบ้านและชุมชน


 


ผมอ่านพินิจพิเคราะห์แล้วมีข้อที่น่าสังเกตว่า ความกว้างขวางทั้งในแง่ของประเด็นเนื้อหาและในแง่ของขอบเขตพื้นที่ เป็นความสำเร็จที่ลึกซึ้งยั่งยืนจริงหรือไม่ ความเข้มแข็งขององค์กรชุมชนและเครือข่ายทั้งปวงอยู่ในสภาพใด หรือเป็นตัวเลข "เชิงปริมาณ" ที่หน่วยงานทั้งหลายมักจะยกขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนความจริงที่ว่ากระบวนการทำงาน "เชิงคุณภาพ" ได้ถูกละเลย อีกทั้งผลการประเมินการทำงานที่ผ่านมาของ พอช. ที่สะท้อนจุดอ่อนมากมาย ได้มีวิธีการในการปรับปรุงแก้ไขให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริงเพียงใด สิ่งนี้ ผมเห็นว่าเป็นประเด็นชี้ขาดที่จะทำให้ พอช. มีความแตกต่างอย่างชัดแจ้งจากหน่วยงานทั้งปวงที่มุ่งสร้างผลงานแบบตัดผ้าโหลหรือเหมาเข่ง (mass production)


 


แนวคิดเรื่องการบริหารองค์กรในรูปแบบใหม่ที่มีเป้าหมายแน่วแน่ให้ชุมชนเป็นแกนหลักในการพัฒนาและเป็นผู้สร้างกองทัพแห่งการเปลี่ยนแปลง นับเป็นความใฝ่ฝันที่ไม่มีใครคัดค้านได้ ผู้เขียนจดหมายอธิบายชี้แจ้งว่า ความพยายามของ พอช. ตามแนวทางแนวคิดนี้ รวมทั้งการพยายาม "ยิงตรง" สู่ชุมชนทั้งหลายอาจทำให้ขบวนชุมชนบางหมู่ บางคณะ ไม่พอใจอยู่บ้าง และอาจเกิดปัญหาบ้างแต่เป็นเรื่องเล็กน้อย เมื่อเทียบกับโอกาสที่เปิดให้อย่างกว้างขวางที่ชุมชนจะได้เข้าร่วมตัดสินชะตากรรมด้วยตัวของตัวเอง ข้อความเช่นนี้ ผมตีความว่าน่าจะเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นอย่างตั้งใจ เพราะเสียงสะท้อนเกี่ยวกับความขัดแย้งแตกแยกอย่างน่าเป็นห่วงของบรรดาแกนนำ และความอ่อนแอของกลไกต่าง ๆ ของ พอช. ถูกเปิดเผยกระชั้นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ในห้วงกาลที่ผ่านมา แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ยังไม่ได้รับการเพ่งพินิจให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเอาจริงเอาจัง


 


ในช่วงสุดท้ายของจดหมาย ผู้เขียนได้หยิบยกเอา "ประเด็นร้อน" เกี่ยวกับกระบวนการสรรหาบอร์ดและผู้อำนวยการของสถาบันมาอรรถาธิบายว่า การสรรหาทั้ง 2 ส่วนมีกระบวนการที่ถูกต้อง บริสุทธิ์ ยุติธรรมและเปิดเผยโปร่งใส แต่อาจก่อให้เกิดความไม่สมหวังสำหรับคนบางกลุ่ม รวมทั้งมีบทความในหน้าหนังสือพิมพ์กล่าวหาอย่างขาดความเข้าใจ นี้ก็เป็นคำยืนยันจากอดีตผู้บริหารท่านนี้ ที่เสมือนไม่เคยได้ยินเสียงทักท้วงอันแหลมคมว่ากระบวนการสรรหาดังกล่าวมีส่วนที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์หรือแนวทางการสืบทอดอำนาจภายในองค์กรหรือไม่ อีกทั้งเป็นการจงใจละเว้นที่จะกล่าวถึงความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร เพื่อให้เกิดการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมขององค์กรภาคีต่าง ๆ อย่างเช่น ความพยายามขององค์กรพัฒนาเอกชนและเครือข่ายชาวบ้านบางส่วน ได้ขอเปิดเวทีผู้อาวุโสและนำเสนอไว้ในห้วงปี 2551 ที่ผ่านมา


 


เนื่องในวาระที่ผู้อำนวยการ พอช. จะพ้นจากตำแหน่ง อันทรงค่า ทรงความหมาย ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่ต้องมีความรักใคร่ผูกพันต่อองค์กร และเพื่อนมิตร ด้วยการกล่าวคำขอบคุณและฝากฝังองค์กรแห่งนี้ เพื่อให้สามารถแสดงบทบาทอันเป็นคุณต่อขบวนประชาชนอย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่โดยนัยยะอันสำแดงออกมาผ่านตัวอักษร ได้ละเลยประเด็นหัวใจสำคัญไปอย่างน่าเสียดาย ผมจึงขอเสนอให้เพื่อนมิตร ผู้มีส่วนร่วมในการริเริ่มก่อตั้ง พอช. เมื่อราวปี 2542 รวมทั้งผู้มีส่วนร่วมพัฒนาเนื้องานต่อ ๆ มา ได้ระดมความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวางลึกซึ้ง เพื่อให้เกิดการปฏิรูปผ่าตัดทางโครงสร้างองค์กร พร้อม ๆ ไปกับการประเมินเนื้องานในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ โดยยึดโยงกับเจตนารมณ์พื้นฐานในการก่อตั้งองค์กรนี้อย่างแท้จริง


 


ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นต่อนักเคลื่อนไหวต่อสู้ในอดีตผู้ปูทางสู่ยุคแห่งปัจจุบัน กลับปรากฏว่ามรดกการเคลื่อนไหวอันอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะวัฒนธรรมแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ถูกกลบฝังอยู่ภายใต้อุปถัมภ์แนวใหม่ ส่งผลให้ขบวนการประชาสังคมอ่อนแอ แตกแยก เกิดปรากฏการณ์ขัดแย้งระหว่างบุคคลและระหว่างองค์กร ด้วยเหตุแห่งการทะยานอยากอันไม่สิ้นสุดของผู้นำระดับต่าง ๆ ทั้งอยากได้รับการยอมรับว่าองค์กรของตนประสพผลสำเร็จโดดเด่น จึงแย่งชิงการนำกันอย่างหน้ามืดตามัว ไม่ต่างกับนักการเมืองน้ำเน่า จึงขออนุญาตยกอุทาหรณ์จากถ้อยคำของเต๋า ดั่งใจความว่า ...


           


"ฟ้ายืนยาว...ดินยืนยง


ฟ้าดินยืนยาวและยืนยง เพราะมิได้อยู่เพื่อตัวเอง


ดั่งนั้น ... จึ่งยั่งยืน ฯ


เหตุนี้ ... ผู้รู้แจ้ง


จึ่งถอยหลัง ... แต่กลับอยู่ข้างหน้า


วางตนอยู่ภายนอก ... แต่ตนก็ดำรงคงอยู่


มิใช่เพราะไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนดอกหรือ


ประโยชน์ตนนั้น ... จึ่งถึงพร้อม ฯ"


 


ขอให้อดีตผู้อำนวยการ พอช. ได้ละวางความเป็นตัวตนและยึดติดกับองค์กรไว้เสีย คณูปการของท่านนับว่าโดดเด่นเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง และเป็นที่แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์อันยาวนานร่วม 30 ปี ท่านย่อมเป็นที่เคารพนับถือของคนจำนวนมาก ขบวนพัฒนาภาคประชาชนยังคงต้องการบุคคลเช่นนี้ แสดงบทบาทสำคัญต่อเนื่องต่อไปในอนาคต


 


สุดท้าย ในระยะผ่านแห่งการปรับเปลี่ยนนี้ จุดยืนของพวกเราคงชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้อำนาจอื่นเข้ามาช่วงชิงการนำในองค์กรนี้อย่างเด็ดขาด


 


ด้วยรักและศรัทธา


บำรุง บุญปัญญา


กระท่อมบรรพชน ขอนแก่น


 


 


 


 


.....................


 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


จดหมายถึงพี่น้องในขบวนการพัฒนาจากอดีตผู้อำนวยการ พอช.


"พอช." โต้สรรหา ผอ.-กรรมการ ถูกระเบียบ-ข้อกฎหมาย


เครือข่ายองค์กรประชาชนชุมชน 27 องค์กร ร้องหยุดสรรหา ผอ.พอช. ชี้ไม่โปร่งใส-มีเจตนามิชอบ


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net