Skip to main content
sharethis


 




การเมือง


"มาร์ค"พา"กษิต"โชว์-ลั่นไม่ปิดสนามบินอีก


เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 3 ก.พ. ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ พร้อมด้วยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศและนายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ได้ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ และแสดงสุนทรพจน์เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและนโยบายด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนของประเทศไทย ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐ ซึ่งงานดังกล่าวจัดโดยมูลนิธิหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย


นายอภิสิทธิ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลได้พบปะนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้งกลุ่มต่างๆไม่ว่าเกษตรกร เอ็นจีโอ แสดงให้เห็นว่านี่คือรัฐบาลของประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนที่นักลงทุนหวั่นเกรงเรื่องการปิดสนามบินนั้น เหตุการณ์การปิดสนามบินจะไม่เกิดขึ้นอีก ฉะนั้นขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในการมาลงทุน เพราะปัญหาทุกอย่างอยู่ระหว่างการแก้ไข และตนในฐานะนายกฯได้ใช้หลักสันติวิธีแก้ปัญหา แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบและระเบียบของกฎหมาย 1 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่ารัฐบาลเดินหน้าได้ถูกทางแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการผ่านกฎบัตรอาเซียนในสภา หรือการผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณกลางปี สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่ารัฐบาลกำลังก้าวเดินได้อย่างถูกต้อง ส่วนความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองภายในประเทศ รัฐบาลจะใช้วิธีละมุนละม่อม ส่วนการชุมนุมของกลุ่มต่างๆนั้นทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลกำลังประสานให้ฝ่ายค้านเข้ามาร่วมปฏิรูปการเมืองด้วยกัน เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้



นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนวิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้ต้องยอมรับว่าทำให้เกิดปัญหาคนว่างงานในประเทศค่อนข้างมาก เป็นเรื่องน่าห่วงใย รัฐบาลพยายามมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและการนำงบกลางปีมาพัฒนา ขณะเดียวกันโครงการเมกะโปรเจ็กต์ รัฐบาลพร้อมเดินหน้าต่อในโครงการที่มีผลระยะยาว ส่งเสริมการลงทุน ทั้งนี้ เรื่องกฎหมายที่นักลงทุนเป็นห่วงนั้น ขอยืนยันว่าจะทำทุกอย่างให้โปร่งใสและการจะออกกฎหมายฉบับใดจะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน ทุกอย่างจะมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod


ครม.ตั้ง8ตำแหน่งการเมือง


เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภรักษ์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 8 ตำแหน่ง ดังนี้ 1.นายประทีป กรีฑาเวช รองหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) 2.นายประสาร เรืองสุขอุดม กรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 3.นายสุรชัย ทิณเกิด กรรมการบริหาร ชทพ. 4.นายไพศาล ชโนวรรณ จาก ชทพ. 5.น.ส.อาภาภรณ์ พุทธปวน อดีตผู้สมัคร ส.ส. ลำพูน พรรคเพื่อแผ่นดิน 6.นายสมพงษ์ พิศาลกิจวนิช 7.นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาล "สมัคร") คนสนิทนายวราเทพ รัตนากร ผู้ก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และ 8.นายแมน เจริญวัลย์ อดีตที่ปรึกษานางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์


ที่มา: http://www.matichon.co.th/matichon


กกต.ตั้งอนุกก.สอบ"บุญจง"แจกเงิน


เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นมาพิจารณาข้อเท็จจริงสำนวนคำร้องนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่แจกเบี้ยยังชีพแนบนามบัตรให้กับประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา โดยรวมสำนวนคำร้องเรียนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นสำนวนเดียวกัน ส่วนการดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง กรณีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งในการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.2550 นั้น ตนได้เซ็นรับรองคำวินิจฉัยไปแล้ว คาดว่ากกต.ทุกคนน่าจะเซ็นเสร็จแล้วเช่นกัน ซึ่งจะส่งให้กกต.จว.นครราชสีมา ร้องฟ้องคดีอาญากับนายบุญจงได้ภายในสัปดาห์นี้


นายประพันธ์ กล่าวถึงการดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯว่า ตนได้เซ็นรับรองคำวินิจฉัยในเรื่องนี้ไปแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถไปแจ้งความได้ เนื่องจากต้องรอฟังคำวินิจฉัยจากศาลอุทธรณ์ก่อนว่า จะให้ใบเหลืองกับนายธานี เทือกสุบรรณ นายกอบจ.สุราษฎร์ธานีหรือไม่ หากศาลมีมติให้ใบเหลืองจึงจะมาดำเนินคดีอาญาได้ทันที โดยไม่จำเป็นจะต้องมาขอความเห็นจาก กกต.อีก


ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. แถลงภายหลังการประชุม กกต.ว่า ที่ประชุมได้หารือกรณีการจัดทำคำวินิจฉัยในเรื่องที่กกต.มีมติล่าช้า ซึ่งขณะนี้สำนักงานวินิจฉัยและคดีได้รายงานความคืบหน้า มีคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส.เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 รวม 10 เรื่อง ซึ่งได้ยื่นต่อศาลฎีกาแล้ว 9 เรื่อง เหลืออีก 1 เรื่อง เป็นกรณีของส.ส.อุดรธานี เขต 3 ที่กกต.มีมติเสนอให้เลือกตั้งใหม่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างคำวินิจฉัยและรอ กกต.ลงนาม คาดว่าจะส่งให้ศาลพิจารณาได้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนส.ว.มี 4 เรื่อง โดยยื่นต่อศาลแล้ว 2 เหลืออีก 2 สำนวน เป็นกรณีของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ที่จะยื่นต่อศาลในสัปดาห์นี้ และอีกกรณีเป็นการร้องคัดค้านคุณสมบัติของนายสุรเดช จิระนิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี ที่กกต.ยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภาไปเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว


นายสุทธิพล กล่าวถึงการดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กรณีแจกผ้าเช็ดตัวในจ.สุราษฎร์ธานีว่า อยู่ระหว่างการยกร่างคำวินิจฉัยและการลงนามของกกต. คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ จะยื่นเรื่องต่อศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้ เช่นเดียวกับกรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่กกต.มีมติสั่งดำเนินคดีอาญา จากกรณีความผิดในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ กกต.ลงนาม คาดว่าจะส่งศาลได้ในวันที่ 5 ก.พ.นี้


นายสุทธิพล กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบ 3 พรรค ประกอบด้วยพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย มีผลทำให้สมาชิกพรรคที่ไม่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 244 คน ต้องหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 60 วัน ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 19 กำหนดให้พรรคการเมืองรายงานการรับสมัครสมาชิกพรรคภายในวันที่ 7 ของทุก 3 เดือน ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 7 เม.ย. แต่พรรคที่รับสมาชิกเพิ่มเติมได้รายงานเข้ามายังกกต.แล้ว โดยส.ส.ทั้ง 244 คน ได้สังกัดพรรคครบหมดแล้ว ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย 182 คน พรรคภูมิใจไทย 32 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 15 คน พรรคกิจสังคม 5 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 5 คน พรรคราษฎร 3 คน พรรคประชาธิปัตย์ 2 คน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเสนอรายชื่อส.ส.ที่ย้ายพรรคให้นายทะเบียนพรรคการเมืองรับทราบต่อไป


นายสุทธิพล กล่าวภายหลังการประชุมว่า กกต.มีมติมอบให้อนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องคัดค้านและปัญหาหรือข้อโต้แย้งคณะที่ 14 ที่มีพล.อ.ยอดชาย เทพสุวรรณ เป็นประธานสอบสวน กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สว.สรรหา และคณะที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบการสิ้นสมาชิกภาพของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106(6) ประกอบมาตรา 266 เนื่องจากแจกเบี้ยยังชีพของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความั่นคงของมนุษย์แนบนามบัตร โดยให้เสร็จภายใน 30 วัน



ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod


กกต.ชี้"ชัยกับพวก"ไม่สิ้นสภาพส.ส.


เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. กล่าวว่า ที่ประชุมกกต.มีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เพิ่มอีก 2 จังหวัด คือ เขต 1 จ.อ่างทอง มีนายภคิน ปริศนานันทกุล จากพรรคชาติไทยพัฒนา ได้รับการเลือกตั้ง และเขต 1 จ.อุทัยธานี มีนายอดุลย์ เหลืองบริบูรณ์ จากพรรคชาติไทยพัฒนา ได้รับการเลือกตั้ง ส่วนว่าที่ส.ส.ที่ยังไม่ได้ประกาศรับรองอีก 7 คน กกต.จะเร่งตรวจสอบโดยเร็วที่สุด


นายสุทธิพล กล่าวถึงประธานเครือข่ายประชาชนภาคอีสานพิทักษ์รัฐธรรมนูญ มีหนังสือร้องต่อประธาน กกต. เกี่ยวกับสถานภาพการเป็นส.ส.สัดส่วนของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และพวกรวม 32 คน หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชน อาจขาดจากสมาชิกภาพว่า คณะที่ปรึกษากฎหมาย กกต.มีความเห็นในกรณีดังกล่าวว่า หากได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.แล้ว ไม่ว่าส.ส.เขต หรือส.ส.สัดส่วน ย่อมมีสถานภาพเป็นส.ส.เท่าเทียมกัน เมื่อมิได้มีกฎหมายกำหนดการสิ้นสุดสมาชิกภาพ ของส.ส.สัดส่วน กรณีที่พรรคที่สังกัดถูกยุบพรรคไว้เป็นการเฉพาะ ดังนั้น กรณีนี้ ส.ส.สัดส่วนของพรรคที่ถูกยุบจึงยังคงมีสถานภาพการเป็นส.ส.อยู่ ไม่ต้องสิ้นสุดลงไปพร้อมกับพรรคที่ถูกยุบ เพียงแต่ต้องเข้าเป็นสมาชิกพรรคอื่นภายใน 60 วัน หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้


นายสุทธิพล กล่าวอีกว่า ดังนั้น นายชัยกับพวก ย่อมปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ต่อไปได้ และไม่เป็นเหตุให้กกต.ต้องส่งเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 91 วรรค 3 ของรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด


นายสุทธิพล กล่าวว่า ส่วนที่ผู้ร้องขอให้ กกต.วินิจฉัยการประชุม เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา ของสภาที่มีส.ส.สัดส่วนของพรรคถูกยุบเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรค 3 หรือไม่นั้น พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกกต. ต้องเป็นผู้วินิจฉัย สำนักกฎหมายและคดีของกกต.จึงเห็นควรให้ยุติเรื่องหรือแจ้งให้ผู้ร้องทราบต่อไป ส่วนกรณีประเด็นอื่นที่ร้องมาในกรณีเดียวกันนั้น อยู่นอกเหนือจากข้อกฎหมาย ทางสำนักกิจการพรรคการเมืองจะนำเสนอต่อกกต.เพื่อพิจารณาต่อไป



ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod


 


ส.ว.ปราจีนฯโวยถูกตัดสิทธิ "กกต."ปรับระบบแก้งานอืด!


ส.ว.ปราจีนบุรีโวยลั่น กกต.ชี้ขาดคุณสมบัติพ้นจากสมาชิก "ปชป."ไม่เกิน 5 ปี ทั้งๆ ที่ลาออกนานแล้ว ซัดคำวินิจฉัยพิรุธหลายจุด เผยส่งคำร้องให้ประธานวุฒิส่งศาล รธน.ตัดสินขัดรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ต้องส่งให้ศาลฎีกาเหตุคัดค้านการเลือกตั้ง สวดอ้างข้อกฎหมายมั่วจนขัดกันเอง ให้กลับไปวินิจฉัยใหม่



กกต.ส่งเรื่องส.ว.ปราจีนฯให้ศาลรธน.ชี้


ผู้สื่อข่าว "มติชนออนไลน์" รายงานเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ว่า นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำหนังสือลงวันที่ 30 มกราคม ถึงประธานวุฒิสภาเพื่อให้พิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของนายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดปราจีนบุรีเนื่องจาก กกต. มีคำวินิจฉัยที่ 205/2551 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2551 ว่า นายสุรเดชขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ว.ในวันสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว.จังหวัดปราจีนบุรี ตามมาตรา 115 (6) ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เนื่องจากเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่สมัครรับเลือกตั้ง เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ว.ของนายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ สิ้นสุดลงตามมาตรา 119 (4) ของรัฐธรรมนูญฯ



สำหรับรายละเอียดของคำวินิจฉัยของ กกต.ว่า หลังประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ว.เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2551 ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2551 นายเกษม มกราคมภิรมย์ ผู้สมัคร หมายเลข 3 ได้ยื่นหนังสือคัดค้านต่อ กกต.ว่าการเลือกตั้ง ส.ว.ปราจีนบุรี ว่านายสุรเดช ผู้สมัครหมายเลข 1 ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 115 (6) ของรัฐธรรมนูญฯ โดยมีข้อกล่าวหาอันเป็นสาระสำคัญ คือเป็นสมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือเคยเป็นสมาชิกและพ้นจากการเป็นสมาชิกในพรรคการเมืองมาแล้วยังไม่เกิน 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง


กกต.มีมติให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องคัดค้านและปัญหาฯดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามระเบียบ กกต. ซึ่งผลการพิจารณาเห็นว่า ผู้ถูกคัดค้านยังมีสภาพเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ว.ในวันสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว.ปราจีนบุรี



ขาดคุณสมบัติพ้น"ปชป."ไม่เกิน5ปี


จากนั้น กกต.ได้พิจารณารายงานการสืบ สวนสอบสวนของคณะอนุกรรมการฯ ตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริงฟังได้ว่านายสุรเดชเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 320339000025 เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2541 ต่อมาได้ลาออกและพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2545 โดยปรากฏหมายเลขประจำตัวสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ 453001633 ปรากฏตามหนังสือพรรคประชาธิปัตย์ ที่ ปชป. 4600314/2546 ลงวันที่ 28 มกราคม 2546 เรื่องแจ้งจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงในรอบปีปฏิทินปี พ.ศ.2545 ถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง ตามแบบแจ้งจำนวนสมาชิกพรรคการเมืองที่ลดลงในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมา (แบบ ท.พ.7) ว่านายสุรเดชได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2545


แต่ปรากฏตามแบบแจ้งจำนวนสมาชิกพรรคการเมืองที่เพิ่มขึ้นในรอบปีปฏิทิน ปี พ.ศ. 2545 (แบบ ท.พ.6) ตามหนังสือพรรค   ประชาธิปัตย์ดังกล่าว ปรากฏว่า นายสุรเดชได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2545 หมายเลขประจำตัวสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ 453001633 โดยพรรคประชาธิปัตย์มีหนังสือแจ้งว่า ข้อมูลของนายสุรเดชมีข้อมูลคลาดเคลื่อนในระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์และยืนยันรับรองว่า นายสุรเดชได้พ้นสภาพจากการเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2545 แต่ไม่ปรากฏหลักฐานใดว่านายสุรเดชได้ลาออกหรือพ้นสภาพจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลังจากที่ได้เป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2545 พยานหลักฐานจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอแก่การรับฟังได้



มติเอกฉันท์ส่งถึงปธ.วุฒิสภา


เห็นว่านายสุรเดชยังมีสถานภาพเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตามหนังสือพรรคประชาธิปัตย์ ที่ ปชป.4600314/2546 ลงวันที่ 28 มกราคม 2546 ที่ถึงนายทะเบียนพรรคการเมือง ผู้ถูกคัดค้านจึงเป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 115 (6) ของรัฐธรรมนูญ


อาศัยอำนาจตามมาตรา 236 (5) มาตรา 238 และมาตรา 239 ของรัฐธรรมนูญฯ 2550 มาตรา 8 และมาตรา 10(10) แห่ง พ.ร.บ.   ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.พ.ศ.2550 กกต.ได้มีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ในการประชุมครั้งที่ 155/2551 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2551 ว่า นายสุรเดชขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ว.ในวันสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว. ปราจีนบุรี ตามมาตรา 115 (6) ของรัฐธรรมนูญฯ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ว. ของนายสุรเดช สิ้นสุดลงตามมาตรา 119 (4) ของรัฐธรรมนูญฯ เห็นควรส่งเรื่องไปยังประธานวุฒิสภาเพื่อพิจารณาตามบทบัญญัติมาตรา 10 (11) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.พ.ศ.2550 และมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญฯ



เจ้าตัวโวยกกต.มั่วลาออกนานแล้ว


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.ระบบสรรหากล่าวกับ "มติชนออนไลน์" ว่า หลังจากที่ กกต.ส่งเรื่องดังกล่าวให้แก่ประธานวุฒิสภาแล้ว นายสุรเดชได้มาหารือว่า การวินิจฉัยของ กกต. ไม่ถูกต้องหลายหลายจุด เช่น คำวินิจฉัยที่อ้างว่า ไม่ปรากฏหลักฐานใดว่านายสุรเดชได้ลาออกหรือพ้นสภาพการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลังวันที่ 21 พฤษภาคม 2545 นั้น เป็นคำวินิจฉัยที่ไร้เหตุผลอย่างมาก เพราะหลังจากที่นายสุรเดชได้ลาออกจากสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2545 แล้ว ไม่เคยสมัครเป็นสมาชิกประชาธิปัตย์เลย ดังนั้น จะมีหลักฐานการลาออกจากพรรคได้อย่างไร ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็ยอมรับข้อมูลของพรรคคลาดเคลื่อนในการแจ้งต่อ กกต.



นอกจากนั้น จะเห็นว่า เลขสมาชิกในการลาออกและการเข้าไปเป็นสมาชิกเป็นที่เลขเดียวกันคือ 453001633 ทั้งๆ ที่ ถ้าสมัครเป็นสมาชิกใหม่อีกครั้งหนึ่งเลขสมาชิกต้องเป็นคนละหมายเลข "ที่ไม่มีเหตุผลคือ เพิ่งลาออกจากสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม แต่อีก 7 วันคือวันที่ 21 พฤษภาคม ไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่อีกทำไม" นายเรืองไกรกล่าวถึงการวินิจฉัยของ กกต.ที่นายสุรเดชเห็นว่าไม่ถูกต้อง



ซัดคำวินิจฉัยพิรุธหลายจุด


แหล่งข่าวจาก กกต.กล่าวว่า นอกจากคำวินิจฉัยที่สามารถโต้แย้งได้หลายจุดแล้ว กระบวนการส่งให้ประธานวุฒิสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของนายสุรเดชยังอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 เพราะกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจากผู้สมัครรายอื่นเป็นผู้ร้องคัดค้านการเลือกตั้งภายหลังการประกาศผล ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ มาตรา 114 และ 116 ซึ่งระบุชัดว่า เมื่อปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย กกต.เห็นควรว่าให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ให้ กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้วินิจฉัยตาม มาตรา 111



แหล่งข่าวกล่าวว่า นอกจากนั้น ในท้ายคำวินิจฉัยของ กกต.เองยังอ้างอาศัยอำนาจตามมาตรา 236 (5) มาตรา 238 และมาตรา 239 ของรัฐธรรมนูญฯ 2550 เป็นเรื่องการสืบสวนสอบสวนวินิจฉัยชี้ขาดเรื่องการเลือกตั้งรวมทั้งเมื่อ กกต.เห็นว่าควรให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่หรือให้ใบแดงให้ส่งคำร้องให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเช่นเดียวกัน แต่กลับเขียนในตอนท้ายให้ส่งเรื่องให้ประธานวุฒิสภาเพื่อส่งให้ศาลรรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยอ้างอำนาจตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการ กกต. มาตรา 10 (11) และ รัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ซึ่งขัดแย้งกับมาตรา 239 ของรัฐธรรมนูญ



แหล่งข่าวกล่าวว่า ประธานวุฒิสภาต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบว่า กระบวนการส่งคำร้องของ กกต.ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถ้าขัดต้องส่งเรื่องกลับให้ กกต.ไปวินิจฉัยใหม่ เพราะถ้าดื้อดึงส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ อาจโดนกล่าวหาว่า จงใจกระทำฝ่าฝืนกฎหมายและรัฐธรรมนูญได้



เลขาฯกกต.แจงสำนวนคดี"ส.ส.-ส.ว."


วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงว่าที่ประชุม กกต.ได้หารือกรณีการจัดทำคำวินิจฉัยในเรื่องที่ กกต.ได้มีมติไปแล้วเกิดความล่าช้าของสำนักวินิจฉัยและคดี ว่าจนถึงขณะนี้มีคดีเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 รวม 10 สำนวน ที่ กกต.มีมติให้ใบเหลือง (สั่งให้เลือกตั้ง) และใบแดง (เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง) โดยยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งแล้ว 9 สำนวน ส่วนอีก 1 สำนวนเป็นของกรณีที่นายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.อุดรธานี เขต 3 พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ กกต.มีมติให้ใบเหลืองเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างการยกร่างคำวินิจฉัย และ รอ กกต.ลงนาม คาดว่าจะส่งศาลได้ในสัปดาห์นี้



"ส่วนของ ส.ว.มี 4 สำนวน ยื่นต่อศาลแล้ว 2 สำนวน เหลืออีก 2 สำนวน เป็นกรณีของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ที่มีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติที่มาขององค์กรที่เสนอชื่อ และสำนวนเป็นการร้องคัดค้านคุณสมบัติของนายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี ที่ กกต.มีมติให้ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ว.เพราะยังพ้นจากเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่เกิน 5 ปี ซึ่งจะเสร็จสิ้นในสัปดาห์หน้า"



รื้อสำนักวินิจฉัยและคดีแก้ปมล่าช้า


นายสุทธิพลกล่าวว่า แนวทางแก้ไขปัญหาความล่าช้าจัดทำคำวินิจฉัยของสำนักวินิจฉัยและคดี โดย กกต.เห็นชอบในแผนระยะสั้นตามที่สำนักงาน กกต.เสนอ ว่าให้มอบเรื่องที่ค้างให้ทางสำนักกฎหมายและคดี ผู้ตรวจการ และนักวิชาการ กกต. ไปช่วยยกร่างคำวินิจฉัย รวมทั้งต่อไปให้พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน ซึ่งต้องเป็นผู้เสนอสำนวนเป็นผู้ยกร่างคำวินิจฉัยมาพร้อมกัน ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว กกต. จะให้ทางสำนักวินิจฉัยและคดีไปอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย โดยสองส่วนงานที่ทำอยู่ปัจจุบัน คืองานยกร่างคำวินิจฉัยก็จะแปรสภาพไปเป็นกองตรวจร่างคำวินิจฉัย ส่วนงานด้านการดำเนินคดีในชั้นศาลก็ให้สำนักวินิจฉัยและคดีดำเนินการเช่นเดิม



ที่มา: http://www.matichon.co.th/matichon


 






เศรษฐกิจ


กสิกรฯยันยังไม่เห็นสัญญาณเงินฝืด


นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงกรณีที่เงินเฟ้อติดลบจนหลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดภาวะเงินฝืดขึ้นว่า เงินเฟ้อที่ติดลบขณะนี้เป็นเรื่องทางเทคนิค คือ ฐานในช่วงปีก่อนหน้าสูง ทำให้ในปีนี้ติดลบ ซึ่งถือว่ายังเป็นภาวะที่ยังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก ขณะที่ภาวะเงินฝืด จะมีความหมายใน 2 นัย คือ 1.เป็นภาวะที่ไม่มีสภาพคล่อง ซึ่งขณะนี้สภาพคล่องในระบบยังไม่มีปัญหา 2.เรื่องของราคาสินค้า ซึ่งราคาสินค้าถูกลงทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ แต่ขณะเดียวกันจะมีผลกระทบต่อผู้ผลิต ทำให้ไม่มีการลงทุน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องต้องระวัง


นายประสารกล่าวว่า ส่วนกรณีที่จะมีการกู้เงินจากต่างประเทศ 70,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ปริมาณหนี้สาธารณะยังพอมีช่องว่างที่จะขยายได้อยู่และยังไม่กระทบต่องบประมาณของรัฐบาล ซึ่งการนำเงินจากอนาคตมาใช้ต้องคำนึงด้วยว่าต้องชดเชยอย่างไร ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญคือเสถียรภาพทางการเมือง หากการเมืองมีเสถียรภาพภาคเอกชนจะมีความมั่นใจในการลงทุน


"สถานการณ์ในขณะนี้เหมือนกับการรักษาโรคที่ต้องมี 3 ระยะ คือ 1.ประคับประคองไม่ให้เข้าสู่ขั้นเลวร้าย 2.รักษาอาการเจ็บป่วย และสาเหตุของโรค และ 3.ขั้นฟื้นฟูอาการ เศรษฐกิจตอนนี้ต้องประคับประคองอาการ และดูว่าสิ่งที่ทำไปแล้วได้ผลอย่างไร เม็ดเงินที่ใส่เข้ามาทำได้แค่ทุเลา ผู้ที่ดูนโยบายการคลังนำเงินในอนาคตมาใช้ ซึ่งต้องคิดว่าทำอย่างไรให้ได้ประโยชน์จากเม็ดเงินสูงสุด โดยที่ผ่านมา 1 เดือน ถือว่ารัฐบาลทำงานได้รวดเร็วจากมาตรการที่ออกมารวดเร็ว" นายประสารกล่าว



ที่มา: http://www.matichon.co.th/matichon


ททท.ทำเก๋ดึงชาวจีนวิวาห์ลดโลกร้อนรับ'วาเลนไทน์'ถ่ายสารคดีบูมเที่ยวไทย


นายสรรเสริญ เงารังษี ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ฮ่องกง ไทเป ญี่ปุ่น เกาหลี จีน)นายสมชาย กิตติคุณคงคา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ควอลิตี้ เอ็กซเพรส จำกัด ได้นำ Mrs.Jiang Xu พร้อมคณะสื่อมวลชนจากบริษัท Shanghai Xiyan Chltural Communicawtions Co.,Ltd. หรือ นี นี่ พิธีกรแสนสวยการท่องเที่ยวภาคสนามชื่อดังในประเทศจีนในรายการ Travel Channel และ Channel young พร้อมคณะมาถ่ายทำรายการ "อะเมซิ่ง เลิฟ" ที่สวนนงนุชพัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ นางพันธนันท์ ขันติสุขพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไปให้การต้อนรับพร้อมจัดสถานที่ให้ทำกิจกรรม ปลูกต้นไม้ลดภาวะโลกร้อน ในโครงการที่อำเภอสัตหีบ สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ร่วมกับสวนนงนุช ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการและเข้าชมสวนนงนุชฟรี


นายสรรเสริญ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันการท่องเที่ยวทั้งภายใน และภายนอกประเทศซบเซาลงไปอย่างมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวระหว่างประเทศจีนกับประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับบริษัท Shanghai Xiyan Chltural Communications Co.,Ltd. ผลิตรายการท่องเที่ยวให้กับประเทศจีน สื่อมวลชน บริษัทท่องเที่ยวในประเทศไทยเมืองพัทยา โดยจัดโครงการ "อะเมซิ่ง เลิฟ" โดยได้รับจัดพิธีแต่งงานในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการฮันนีมูนควบคู่ไปด้วย โดยได้มีคู่รักจำนวน 6 คู่ นำร่องเดินทางเข้ามาแต่งงานตามประเพณีไทยทุกประการ แต่ได้มีกติกาในการปลุกจิตสำนึกให้คู่รักทุกคู่ก่อนเข้าสู่ประตูวิวาห์ คือ การปลุกจิตสำนึกสาธารณะ ด้วยการปลูกต้นไม้ลดภาวะโลกร้อน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสถานการณ์โลกร้อน และช่วยกันแก้ไขปัญหาโลกร้อนอีกด้วย


สำหรับคู่รักนำร่องชาวจีนที่เข้ามาทำพิธีแต่งงานแบบประเพณีไทย มี 6 คู่ คือ นางสาวซูเล่อ เล่อ กับ นายหวัง ซู่ ขาย, นางสาวหลี หยิง กับ นายฟอ ยี่ จิง, นางสาวเฟ่ย เวน ติง กับ นาย ลิว โบ้, นางสาวเฉ่า ซือ ฉิง กับ นายลู่ ยิ, นางสาวดู้ หลิง กับ นายฟาง จิน และ นางสาวมา เฟิน คู่กับ นายชี ยิง ชิง ซึ่งจะต้องเข้าพิธีแต่งงานแบบประเพณีไทย และถ่ายทำรายการเพื่อนำไปถ่ายทอดในประเทศจีนกระตุ้นการท่องเที่ยวสู่ไทยต่อไป


ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์






ต่างประเทศ


ชี้ภารกิจกัมบารีไม่คืบ-แค่เปิดโอกาสฟังซูจี


นายอิบราฮิม กัมบารี ทูตพิเศษแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนพม่า 4 วันตั้งแต่วันเสาร์ เข้าพบหารือนางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านพม่า ณ บ้านพักรับรองของรัฐบาลในนครย่างกุ้ง ราว 1.30 ชม. เมื่อวันที่ 2 ก.พ.หลังเขาเข้าพบรมว.สารสนเทศและ รมว.ต่างประเทศ รวมทั้งเจ้าหน้าที่คนอื่นๆของพม่าเมื่อวันอาทิตย์ และยังไม่ชัดเจนว่าจะได้เข้าพบ พล.อ.อาวุธโสตาน ฉ่วย ผู้นำสูงสุดของพม่าหรือไม่


นายเนียน วิน โฆษกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางซูจี แถลงว่า ผู้นำฝ่ายค้านแจ้งนายกัมบารี ว่าในพม่าไม่หลักกฎหมายอ้างถึงการลงโทษจำคุกยาวนักโทษการเมืองและมาตรการอื่นๆที่ฝ่ายรัฐเบียดบังระบบยุติธรรม และว่าทุกการมาเยือนของนายบัน กี-มูน เลขาธิการยูเอ็น ควรกำหนดเงื่อนไขเรื่องการปล่อยตัวเธอและนักโทษการเมืองคนอื่นๆซึ่งสอดคล้องกับท่าทีของพรรค NLD ด้วย ด้านนักวิเคราะห์เห็นว่าการมาของนายกัมบารีคงไม่มีอะไรคืบหน้า แต่ถือเป็นโอกาสดีทีผู้สนับสนุนจะรับฟังความเห็นของนางซูจีบ้าง


วันเดียวกัน สำนักงานปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมของยูเอ็น (UNODC) เผยแพร่รายงานที่กรุงเทพฯ ระบุมีการปลูกฝิ่นเพิ่มขึ้นในพม่าเป็นปีที่ 2 ในรอบปี 2551 แม้เคยลดลงนับแต่ทศวรรษปี 1990 และพม่ายังรั้งอันดับ 2 มีพื้นที่ปลูกฝิ่นมากสุดในโลกต่อจากอัฟกานิสถาน ส่วนพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ พรมแดนพม่า ลาว และไทย พบลักลอบปลูกฝิ่นเพิ่ม 26% นับแต่ปี 2549 หลังลดลง 87% ตั้งแต่ปี 2539 ด้านพื้นที่ปลูกฝิ่นในไทยถือว่ายังน้อยอยู่.


ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 4 ก.พ. 2552 (กรอบบ่าย)


 






คุณภาพชีวิต


องค์กรสตรีดัน 2 ก.ม.แก้สามีนอกใจเมีย


เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ มูลนิธิเพื่อนหญิงจัดประชุมและแถลงข่าว "บูรณาการกฎหมายหยุดเหล้า...หยุดทำร้ายครอบครัว" โดยนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า มูลนิธิเพื่อนหญิงได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือปีละ 1,500 ราย เป็นเหตุให้ความรุนแรงในครอบครัว ร้อยละ 70 ในจำนวนนี้นอกเหนือจากความรุนแรงทางร่างกายที่พบเห็นอยู่เสมอแล้ว พบว่าเกือบร้อยละ 50 เป็นความรุนแรงทางจิตใจที่เกิดจากสามีนอกใจมีเมียน้อย มีกิ๊ก ที่เป็นสาเหตุ ให้ครอบครัวแตกแยก มูลนิธิได้เตรียมหารือเพื่อแก้ไขพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 มาตรา 5 ที่กำหนดให้ผู้พบเห็นเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัวมีหน้าที่แจ้งเหตุต่อเจ้าหน้าที่ เดิมไม่มีการลงโทษทำให้มีผู้เพิกเฉยจำนวนมาก มูลนิธิได้เตรียมหารือเพื่อเสนอให้มีการตัดสิทธิบางอย่างแก่ผู้ไม่ทำหน้าที่แจ้งเหตุความรุนแรงในครอบครัว เช่น ตัดสิทธิการรักษาพยาบาล รวมทั้งเสนอให้รื้อกฎหมายอายา มาตรา 276 เกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศด้วย


ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 4 ก.พ. 2552 (กรอบบ่าย)


 


พ่อแม่ผวาไอ้ตัวดูด ของเล่นนักเรียนฮิต เม็ดแช่น้ำพอง 20 เท่า


ไอ้ตัวดูดมาอีกแล้ว ลักษณะเป็นของเล่นเม็ดเล็กๆ บรรจุในถุงพลาสติก เมื่อแกะออกมานำไปแช่น้ำจะพองโตขึ้นอีกหลายเท่า โยนลงพื้นจะเด้งดึ๋ง เด็กเล็กๆ ชอบซื้อไปเล่น ผู้ปกครองผวากลัวว่าลูกคิดเป็นขนมกลืนเข้าไปขยายตัวในท้องหรือติดคอตาย พบตามหน้าโรงเรียนขายกันเกลื่อน วอนผู้สื่อข่าวเป็นสื่อกลางเตือนพ่อแม่ให้ระวังและแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดกวดขัน เผยก่อนหน้านี้เคยระบาดมาแล้วลักษณะเป็นรูปสัตว์หลายชนิด ผลิตจากจีน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคชี้มีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับผู้ขายและผู้ผลิต


ของเล่นเป็นอันตรายกับเด็กกลับมาระบาดอีกครั้งโดยเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 2 ก.พ.นางซุ้มผกา ชินาภาษ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175/2 ซอยแจ้งสนิท 1 ถนนแจ้งสนิท ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี มาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า มีของเล่นซึ่งเป็นอันตรายกับเด็ก โดยได้ไปรับลูกชายอายุ 6 ขวบเรียนชั้นป.1 โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี ลูกรบเร้าให้พาไปซื้อของเล่นที่ร้านค้าใกล้โรงเรียน ของเล่นดังกล่าวเป็นเม็ดเล็กๆ มี 2 ขนาด คือขนาดเล็กกว่าหัวเข็มหมุดกับโตกว่าหัวเข็มหมุด แต่ละถุงมีหลายสิบเม็ด บรรจุในถุงพลาสติกใสขนาดเล็ก บางถุงมีสีเดียว บางถุงมีหลายสี มีตัวอักษรภาษาอังกฤษติดปากถุงว่า เซเว่น คัลเลอร์ คริสตัล บอล ผลิตในจีนและเขียนราคาติดไว้ว่าถุงละ 20 บาท


นางซุ้มผกาเล่าต่อไปว่า คนขายบอกว่าเป็นลูกดูด หรือเรียกว่าลูกดูด 7 สี เด็กจะซื้อไปแช่น้ำเล่นแล้วลูกดูดจะขยายตัวกว่า 20 เท่า พร้อมกับนำลูกดูดที่แช่น้ำแล้วมาให้ลองจับดู มีลักษณะนิ่มยืดหยุ่นคล้ายกับเจลลี่ หากโยนลงพื้นจะกระเด้งขึ้นมา ตนคิดว่าหากเด็กเล็กนำไปอมเล่นแล้วลื่นลงคอจะเป็นอันตรายมาก เพราะจะขยายตัวหรือติดคอ เมื่อขยายเต็มที่จะเท่าลูกมะนาว ได้โทรศัพท์เล่าให้เพื่อนที่อยู่ จ.ลำปางฟัง เพื่อนบอกว่าที่ลำปางมีขายมากหน้าโรงเรียน จึงคิดว่าควรมีการเตือนให้ผู้ปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรู้เพื่อหาทางป้องกันใกล้โรงเรียนต่างๆ พบว่ามีขายเกลื่อนราคาซองละ 18-20 บาท มีราว 200 เม็ด บางร้านแบ่งใส่ซองเล็กขายราคาถุงละ 5 บาท มีประมาณ 30 เม็ด ซึ่งผู้ขายบอกว่าเมื่อนำมาแบ่งขายจะขายดีกว่า เพราะเด็กนักเรียนมีกำลังซื้อไม่มาก ส่วนแหล่งที่มานั้นจะมีคนมาส่งให้ถ้าหมดก็โทรศัพท์สั่งซื้อได้ เด็กๆ นิยมซื้อไปเล่นกันมาก นอกจากนี้ใช้ปลูกต้นไม้ตั้งบนโต๊ะทำงานได้ ส่วนจะเป็นอันตรายหากเด็กเล็กกลืนเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นขนมนั้น ผู้ขายบอกว่าไม่ทราบ


นายแพทย์วุฒิไกร มุ่งหมาย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ยังไม่เคยเห็น แต่คิดว่าเป็นอันตรายต่อเด็กเล็กอย่างแน่นอน จะให้เจ้าหน้าที่ออกไปตรวจดู หากนำมาขายปะปนกับขนมขบเคี้ยวทั่วไป อาจทำให้เด็กเข้าใจผิดและกลืนกินเข้าไปได้ จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด


ที่ผ่านมาเคยมีข่าวของเล่นลักษณะเดียวกันนี้ หลายครั้งมีผู้ปกครองร้องเรียนกันมาก ซึ่งเมื่อเดือนม.ค.2548 นายประพิศ ยอดสุวรรณ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคในขณะนั้น ระบุว่ามีของเล่นอันตรายจำหน่ายตามหน้าโรงเรียน เช่น ลูกโป่งวิทยาศาสตร์และของเล่นพองตัวเมื่อแช่น้ำ หรือตัวดูดน้ำรูปร่างเป็นสัตว์ต่างๆ เป็นสินค้านำเข้าจากจีน หากตรวจพบผู้ขายมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ผลิตมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 4 ก.พ. 2552 (กรอบบ่าย)


หมอตะลึง-เจอเท้าที่สมองทารก คิดว่าเป็นแค่เนื้องอก-พบเพียงไม่กี่รายในโลก


แซม เอสควิเบล วัย 3 เดือน ได้รับฉายา "เจ้าหนูมหัศจรรย์" หลังจากเข้ารับการผ่าตัดสมอง เพราะคุณหมอเห็นว่ามีเนื้องอกขนาดใหญ่อยู่


ขณะที่ทิฟนี่ เอสควิเบล ซึ่งกำลังท้องแก่ ได้ให้คุณหมอที่โรงพยาบาลโคโลราโดสปริงส์เมมโมเรียลเซ็นทรัล สหรัฐอเมริกา อัลตราซาวด์ดูว่าทารกเป็นอย่างไร คุณหมอก็เห็นก้อนเนื้ออยู่ในสมอง จึงแนะนำกับนางทิฟนี่ว่าควรผ่าท้องคลอดทารกออกโดยด่วน


เมื่อทารกคลอดแล้วทีมแพทย์และพยาบาลได้ผ่าตัดสมองให้กับแซมทันที โดยบอกกับผู้ที่เป็นพ่อและแม่ว่า "ลูกของคุณมีโอกาสรอดแค่ 50-50"


นายแพทย์พอล แกร็บบ์ หัวหน้าศัลยแพทย์ กล่าวว่า "ขณะผ่าตัดผมถึงขนาดหยุดชะงัก เมื่อเห็นเท้าเด็กแทนเนื้องอก ตั้งแต่เป็นหมอผ่าตัดสมองมานาน ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน"


ด้านนางทิฟนี่ที่รอฟังข่าวการผ่าตัดอยู่นอกห้อง ประหลาดใจเช่นกันเมื่อคุณหมอบอกว่า สิ่งที่พบอยู่ในสมองของแซมไม่ใช่เนื้องอก แต่เป็นเท้า นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนที่กำลังพัฒนาไปเป็นสะโพกและมือด้วย โชคดีที่อวัยวะเหล่านี้ไม่ได้เป็นเนื้อร้าย


หลังการผ่าตัด คุณหมอสแกนสมองของ "เจ้าหนูมหัศจรรย์" อีกหลายครั้ง และไม่พบว่ามีการพัฒนาของอวัยวะอื่นในสมอง ส่วนแผลผ่าตัดก็เหลือให้เห็นบางๆ ที่ขมับด้านขวาเท่านั้น


สำหรับอวัยวะในสมองของแซมอาจเป็น "ทีราโทมา" หรือไม่ก็ "ฟีทัสอินเฟทู" ซึ่ง "ทีราโทมา" คือก้อนเนื้อที่ประกอบด้วยอวัยวะที่ยังไม่พัฒนา อาจเป็นผม ฟัน ส่วน "ฟีทัสอินเฟทู" เกิดเมื่อตัวอ่อนที่เป็นปรสิตนั้นมีการเจริญเติบโตในมดลูก แต่ไม่แยกตัวออกมาจากคู่เอ็มบริโอ แต่เอ็มบริโอปรสิตกลับหยุดการเจริญเติบโต 


แพทย์หญิงแนนซี่ ชไนเดอร์แมน บ.ก.แพทย์จากข่าวเอ็นบีซี กล่าวว่า "ฉันเคยเห็นทีราโทมาเพียงไม่กี่ครั้ง คือเคยเห็นที่คอ หน้าอกและช่องท้อง ไม่เคยเห็นในสมองมาก่อน ส่วนฟีทัสอินเฟทูหรือฝาแฝดปรสิตพบในโลกไม่ถึง 100 เคส คาดว่าในกรณีของแซมน่าจะเป็นทีราโทมา"


ข่าวสด ฉบับวันที่ 4 ก.พ. 2552 (กรอบบ่าย)--

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net