Skip to main content
sharethis

20 ธ.ค.51 - เวลา 11.15 น. ที่โรงแรมอิมพีเรียล โบท เฮาส์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการประชุมสัมมนา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงหนึ่งถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ออกมาทำให้เห็นว่ากลุ่มเพื่อนเนวินที่เคยระบุว่าทำเพื่อเสียสละเพื่อชาติ แต่กลายเป็นการเดินออกจากกลุ่มหนึ่งมาสู่อีกกลุ่มที่มีผลประโยชน์มากกว่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะมาเอาผลประโยชน์ไม่ได้ รัฐมนตรีจะอยู่กระทรวงใด พรรคใด หรือกลุ่มใด ก็มีหน้าที่ทำตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ ตนเป็นหัวหน้ารัฐบาลจะดูแลให้คนเหล่านี้ทำงานให้กับบ้านเมือง ซึ่งได้มีการพูดคุยกันแล้ว แต่ถ้าไม่ดำเนินการตามนั้น ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง


 


ถามย้ำว่าถ้าคนเหล่านี้ไม่สนับสนุน อาจทำให้รัฐบาลล้มได้ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลต้องล้มเพราะความไม่ถูกต้องแล้วเราต้องรักษาความถูกต้อง เราก็ต้องยอม แต่วันนี้ตนต้องการสร้างเสถียรภาพของบ้านเมืองเพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาต่างๆของประเทศได้ ถ้าตนปล่อยให้เสถียรภาพทางการเมืองโดยเฉพาะเสถียรภาพภายในยังค้างคาอยู่ ตนเชื่อว่าแม้จะได้คนที่มีความสามารถเข้ามาหรือแม้จะมีนโยบายที่ดี ก็เดินต่อไม่ได้ ฉะนั้น ตนต้องเอาเสถียรภาพตรงนี้มาก่อนแล้วเดินหน้าไปให้ได้


 


เมื่อถามว่าการตั้งรัฐบาลครั้งนี้ทำให้พรรคต้องสูญเสียบุคลากรที่ทำงานให้พรรคมาตลอดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคุยกับทุกคน ก็รู้สึกเห็นใจ แต่ก็เชื่อว่าจะมีโอกาสได้ทำงานต่อไปในวันข้างหน้า ทั้งนี้ เส้นทางทางการเมืองของทุกคนในพรรคไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เช่น ตนก็เคยอาสาตัวแต่ก็ผิดหวัง แต่ตนเชื่อว่าความดีไม่ไปไหน และความดีของทุกคนรวมถึงนายนิพิฏฐ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รองหัวหน้าพรรค นายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กรุงเทพฯ นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน และนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ไม่หายไปไหน คนเหล่านี้โอกาสมาแน่นอน แต่ตนเข้าใจและเห็นใจความรู้สึกของเขา เพราะประชาชนในพื้นที่ของเขาย่อมมีความคาดหวัง เนื่องจากเขามี ส.ส.ที่มีคุณภาพ เส้นทางของพรรคยังอีกยาวไกล และคนเหล่านี้ยังมีอนาคต อย่างไรก็ตาม เราเป็นพรรคการเมืองที่มีระบบและข้อบังคับชัดเจนที่ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและส.ส.ของพรรค ซึ่งก็มีมติเป็นเอกฉันท์


 


 "เมื่อผมได้ตัดสินใจแล้ว ผมต้องรับผิดชอบตามนี้ แต่เป้าหมายไม่ได้ต่างกันไม่ว่าจะเป็นผมกับภาคธุรกิจหรือภาคประชาชน รวมถึงเพื่อนส.ส.ที่ได้ร่วมต่อสู้กันมา เป้าหมายก็ไม่ได้ต่างกัน วิธีการ ความคิด และการตัดสินใจแต่ละช่วงอาจต่างกันบ้าง แต่ผมยืนยันว่าสิ่งที่ผมพูดไว้ตั้งแต่แรกว่เราเชิญทุกคนมาร่วมกันทงาน ผมเห็นใจและเข้าใจความรู้สึก ไม่ตำหนิใครเลยที่แสดงความคิดเห็นออกมา น้อมรับคำวิจารณ์ แต่เป็นการตัดสินใจที่ผมอธิบายเหตุผลว่าขอให้มีเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อเดินหน้าต่อไปได้"นายกฯ กล่าว


 


ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำงานของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เรื่องรับปากประชาชนไว้คือ นโยบาย 99 ทำได้จริง เช่น เรื่องการดูแลผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพ เบี้ยอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และเรื่องเศรษฐกิจค่าครองชีพ การยกระดับฐานะประชาชนโดยเอาเงินอัดฉีดในระดับล่าง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้บอกกับตนตั้งแต่เมื่อวานว่า พอเปิดปีใหม่หลังมีการประชุมอาเซียนเสร็จ ก็จะประชุมเรื่องงบกลางปีเลย เรามีตารางเวลาทำ ดังนั้น จึงต้องรีบทำ


 


ผู้สื่อข่าวถามว่าภายใน 3 เดือนจะเห็นผลเป็นรูปธรรมได้เมื่อไหร่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราคงรอนานไม่ได้ หลังปีใหม่ต้องทำหลายเรื่อง บางเรื่องก็ทำได้ง่าย เช่น เรื่องผู้สูงอายุ การจัดเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ นักเรียนเรียนฟรี ส่วนอย่างอื่นต้องใช้เวลา เช่น การอัดฉีดเงินลงไปในหมู่บ้านต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะนำไปจ้างงาน และนำไปใช้งานได้


 


ต่อข้อถามว่าเป็นรองนายกฯ ที่ดูแลด้านงานตำรวจมีแนวคิดจะปฏิรูปโครงสร้างตำรวจหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า จะมอบหมายอะไรขอให้รอ 1-2 วัน ให้ได้รับตำแหน่งจริงๆ ก่อน ส่วนแนวคิดเกี่ยวกับตำรวจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้างนั้น ก็ยังคิดไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ ตนอาจจะคิดต่าง เพื่อนๆ ในพรรคก็อาจจะคิดอีกอย่าง ดังนั้น ต้องมีการปรึกษากัน แต่ที่สำคัญที่สุดคืออยากให้ตำรวจมีความเข้มแข็ง ไม่ใช่ไปรวมศูนย์อำนาจไว้ที่กทม. เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าตำรวจนครบาลจะขึ้นตรงกับกทม. และมาบริหารเอง นายสุเทพ กล่าวว่า มีรายละเอียดที่จะต้องพูดกัน แต่มีความเป็นไปได้ในลักษณะคล้ายๆ แบบนี้ เช่น ในแต่ละภูมิภาคสามารถที่จะดูแลกิจการตำรวจของเขาได้ภายในพื้นที่


 


เมื่อถามว่าจะสามารถสลายรัฐตำรวจอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า อยู่ที่การรวมเสียงข้างมาก อย่างไรก็ตาม ตนก็จะลองทำ เมื่อถามว่าปัญหาอยู่ที่ว่ายังมีกลุ่มก้อนเก่า จะเป็นอุปสรรคกับการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ในสังคมยุคปัจจุบันคนมีความรู้สึกนึกคิดไม่ต่างกัน แม้จะไม่ใช่ตำรวจต้องมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราเปลี่ยนแปลงแล้วดีขึ้น


 


ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงระบุว่าจะมีการปิดล้อมสภาในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล จะดูแลเรื่องความปลอดภัยอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า สิ่งแรกคือ ตนจะดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง ถ้าเขาไม่ให้เข้าก็ไม่เข้า แต่ถ้าเข้าได้ก็ต้องเข้าไป เพื่อทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ สิ่งที่สองคือ พวกตนไม่คิดว่าจะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง ทุกคนเป็นประชาชน เรามีหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน ดังนั้น จะค่อยๆ พูด ค่อยๆ คิดทำความเข้าใจกัน


 


 "ยืนยันว่าจะไม่มีภาพการสลายการชุมนุม ไม่มีน้ำตา และไม่มีแก็สน้ำตา ไม่มีน้ำตาให้ไหลกันอีกแล้วสำหรับพี่น้องประชาชน เพราะไม่มีการใช้แก็สน้ำตา" นายสุเทพกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net