Skip to main content
sharethis

"แก้วสรร-แอ๊ด" ชูจัดระเบียบใหม่สวนจัตุจักร


เมื่อวันที่ 20 .. นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาวได้ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดนัดสวนจตุจักร โดยกล่าวว่าหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. มีนโยบายจะปรับปรุงตลาดนัดจตุจักรใหม่ เนื่องจากปัจจุบันร้านค้าแออัดเกินไป ผู้คนเดินไม่สะดวก จึงจะจัดให้มีที่นั่งพักเป็นช่วง ๆ ซึ่งเห็นว่าลูกค้าจะเดินซื้อสินค้าเฉพาะร้านที่ติดถนนสายหลัก ทำให้ร้านชั้นในเสียเปรียบ


 


"ผมจะจัดโซนร้านค้าใหม่ให้เป็นสัดส่วน แบ่งประเภทสินค้าชัดเจน เพราะปัจจุบันสินค้าคละ ปะปน ดูแล้วสับสนไม่เป็นระเบียบ รวมทั้งจะปรับปรุงหลังคา และร้านค้าริมถนนที่ยังตั้งขายระเกะระกะอีกด้วย"นายแก้วสรร กล่าว


 


ด้านนายยืนยง กล่าวว่า ตอนนี้เป็นโอกาสดีของคน กทม. ที่จะได้ผู้ว่าฯ ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนดีมาอาสาทำงานเพื่อบ้านเมือง แต่ปฏิเสธที่จะได้รับตำแหน่งใด ๆ หากนายแก้วสรรได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.


 


ส่วนการหารือเสียงในช่วงเช้าที่สวนลุมพีนี นายแก้วสรร กล่าวถึงนโยบายการสร้างสวนสาธารณะว่า จะสร้างสวนสาธารณะใน 3 ระดับ ตั้งแต่สวนชุมชนใกล้บ้าน สวนแขวงห่างจากบ้านประมาณ 15 นาที และสวนระดับเมือง กระจายให้ทั่วกทม. โดยสร้างเสริมกิจกรรม กีฬา ดนตรี และสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพื่อสร้างความสุขใหม่ใกล้ตัวให้แก่ชาว กทม.


 


"สุขุมพันธุ์" ชู 4 นโยบายเอาใจโจ๋เรียน-เล่นเน้นไฮเทค


20 ธ.ค. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ตนเตรียมสร้างเครือข่ายเยาวชน 50 เขต คล้ายสภาเยาวชนในกรุงเทพฯ มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการสร้างกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ดีกว่าเล่นเกม ติดยาเสพติด นอกจากนี้ มีนโยบายติดไฟส่องสว่างให้กับพื้นที่เสี่ยงให้ทั่วกรุงเทพฯ กว่า 50,000 จุด


 


ผู้สมัครผู้ว้ากทม.จากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนเพื่อในอนาคตจะได้เป็นกลไกขับเคลื่อนให้ กทม.เป็นมหานครชั้นนำประกอบด้วย 4 แนวทาง ดังนี้


 


1.สนับสนุนการมีส่วนร่วมของเยาวชน โดยส่งเสริมให้มีการจัดการเลือกตั้งตัวแทนเยาวชนของแต่ละพื้นที่เพื่อเข้ามาแสดงความคิดเห็นในฐานะคณะทำงานประจำเขต เป็นกระบอกเสียงให้เยาวชนเพื่อ ส่งผ่านความคิดเห็นไปสู่ผู้บริหารในการผลักดันสู่การปฏิบัติจริง


 


2.สร้างความสุขในการเรียนรู้ เด็กกทม. จะต้อง work hard play smart 4 ปีต่อจากนี้ เด็ก กทม.เกือบล้านคน จะต้องได้เรียนดี เรียนฟรี แบบมีคุณภาพทั้งวิชาการในห้องเรียนและวิสัยทัศน์นอกห้องเรียน ยกระดับโรงเรียนสังกัด กทม.ให้เทียบชั้นกับโรงเรียนสาธิตและโรงเรียนเอกชน สร้างวิสัยทัศน์เด็ก กทม.ให้กว้างไกลด้วยการเรียนรู้นอกห้องเรียน ต่อยอดการสร้างห้องสมุดที่ทันสมัยใช้ฟรีให้ทั่วกรุงเทพ เพิ่มเติมศูนย์เยาวชนระดับมาตรฐานให้เด็กทุกคนสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้


 


3.สร้างความสุขด้วย GREEN WIMAX ที่จะครอบคลุมพื้นที่ทั่ว กทม. ยกระดับเด็กกทม. ด้วยการเปิดโลกกว้างแห่งการติดต่อสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตได้จากทุกมุมของกทม. 4. สร้างความสุขด้วยความสนุกที่สร้างสรรค์ โดยจะเพิ่มเติมพื้นที่สำหรับวัยรุ่นทั่ว กทม.เพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ในทุกด้าน เช่น ลานอินดี้ ฮิปฮอป ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์กีฬา ศูนย์เยาวชน


 


ก่อนหน้านี้วันเดียวกัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่สวนสาธารณะหลังสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งร่วมออกกำลังกายกับประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ พร้อมกล่าวว่าหากได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ จะเร่งประสานเอกชน หาพื้นที่รกร้างว่างเปล่าจัดทำประโยชน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กรุงเทพ จัดทำเป็นสวนสาธารณะในการออกกำลังกาย หากเป็นหมู่บ้านจัดสรรในพื้นที่ชั้นนอก อาจหาพื้นที่สวนสาธารณะในการพักผ่อนออกกำลังกาย หรือกิจกรรมอื่น ๆ ยามว่าง


 


"แซม-ลีน่าจัง" ลุยพื้นที่หนองจอกชูแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม


วันที่ 19 ธ.ค. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 10 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงที่มัสยิดดารุ้ลมุตตะกีน (คู้) เขตหนองจอก โดยเปิดเผยว่า พื้นที่หนองจอกเป็นเสน่ห์ในเรื่องธรรมชาติ และวิถีชีวิตที่เป็นชุมชนรามัญ และมุสลิม ประชาชนในพื้นที่ยังประกอบอาชีพทำนาข้าว เลี้ยงโค กระบือ แพะ และยังมีตลาด 100 ปี เป็นตลาดเก่าแก่ หากตนเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะพัฒนาให้พื้นที่หนองจอกเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เนื่องจากอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติให้แวะมาเที่ยวระหว่างรอเครื่อง โดยประสานกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้จัดท่องเที่ยวในชุมชน โชว์การไถนา เกี่ยวข้าว ทั้งการนั่งรถสามล้อ และการท่องเที่ยวทางน้ำที่ตลาด 100 ปี ริมคลองแสนแสบ ทำพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นแสดงเอกลักษณ์ของเขตหนองจอก พัฒนาในเขตหนองจอกให้เป็นต้นแบบ ก่อนขยายไปเขตอื่นต่อไป


 


ทั้งนี้เวลา 12.00 น. นางลีนา จังจรรจา ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 อิสระ ลงพื้นที่เขตหนองจอก โดยพบเกษตรกรในพื้นที่สุเหร่าศาลาแดง แต่งกายด้วยชุดม่อฮ่อมสีน้ำเงินเข้มสวมหมวกงอบ  ยืมจากเกษตรกรในพื้นที่ พร้อมทั้งนั่งรถเกี่ยวข้าวและสาธิตการเกี่ยวข้าว นางลีนา กล่าวว่า ทดลองเกี่ยวข้าวเพราะอยากรู้วิถีชีวิตของชาวนาในหนองจอกจะลำบากมากเพียงใด หากเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะส่งเสริมให้ชาวนามีชีวิตที่ดีขึ้น จะให้งบประมาณแต่ละชุมชนรวมกลุ่มกันทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ลดการใช้สารเคมี ช่วยให้ข้าวปลอดสารและลดค่าใช้จ่ายซื้อสารเคมี นอกจากนี้จะนำผลิตภัณฑ์ชุมชนปลอดสารพิษออกจำหน่ายตราสินค้าชื่อว่า กรีน มาร์ท (Green Mart) ส่วนปัญหาราคาข้าวตกต่ำจะให้เกษตรรวมกลุ่มแล้ว กทม.เข้าไปช่วยเหลือประกันราคาข้าวให้อยู่ได้ในภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ อีกทั้งมีแนวคิดอนุรักษ์พื้นที่เกษตรกรในกรุงเทพฯ ซึ่งทุก ๆ ปีพื้นที่การเกษตรลดลงร้อยละ 2-4 รวมทั้งจะพัฒนา   แหล่งท่องเที่ยวตามวิถีชีวิตของชุมชนเชิงนิเวศ เช่น ดูการทำนา ไถนา เกี่ยวข้าว ค่าใช้จ่าย 100 บาทต่อคน ให้ชุมชนบริหารจัดการกันเอง เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้ชาวบ้านได้เลี้ยงตัวเองเป็นรายได้เสริม


 


"ปลื้ม" ขอเสียงสาวโรงงาน


เมื่อวันที่ 19 .. ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 8 สังกัดอิสระ ลงพื้นที่หาเสียงพบปะกลุ่มผู้ใช้แรงงานในโรงงานผลิตชุดชั้นในย่านบางกอกน้อย และบริษัทนันยางการทออุตสาหกรรม จำกัด ถนนเพชรเกษม พร้อมกล่าวถึงนโยบายการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมว่า ตนมองว่าลูกจ้างพนักงานในบริษัทมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีหรือไม่ โดยหลักแล้วขึ้นอยู่กับนโยบายการบริหารของบริษัท ซึ่งในส่วนงานที่ กทม. ต้องเข้าไปดูแลนั้นก็จะเข้าไปพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย เรื่องการขนส่งโดยระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การรักษาความปลอดภัยในจุดเปลี่ยว


 


"ผมจะให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม. ปรับบทบาทการทำงาน โดยให้เข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ที่ออกลาดตระเวน และออกตรวจพื้นที่ อำนวยความสะดวก และปลอดภัยให้ผู้ที่ใช้เส้นทางเปลี่ยวต่างๆ และที่สำคัญในเรื่องการรักษาพยาบาลนั้น จะปรับปรุงศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ให้เป็นมาตรฐาน อาทิ การทำทันตกรรม จะต้องให้มีครบทุกศูนย์บริการ รวมไปถึงการบริการที่เป็นมาตรฐาน โดยผู้ใช้แรงงานหรือผู้มีรายได้น้อยจะต้องได้รับสิทธิ์การเข้ารับการรักษาพยาบาลในศูนย์ด้วย" ม.ล.ณัฏฐกรณ์ กล่าว


 


 


เรียบเรียงจาก: เว็บไซต์คมชัดลึก,เว็บไซต์เดลินิวส์


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net