จากเหตุสลดใจนายนิโรจน์ศักดิ์ หรือโอ  อินทาโชติ อายุ 16 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 1 แผนกช่างไฟฟ้า โรงเรียนโพลีเทคนิคพณิชยการกรุงเทพ ย่านทวีวัฒนา กทม. ถูกรุ่นพี่ ปวช.ปี 3 และรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว พาไปรับน้องใหม่ที่บังกะโลวงศ์จันทร์ ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมืองเพชรบุรี ถูกสั่งให้ทิ้งดิ่งกับพื้นทรายได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งไปรักษาตัวที่ รพ.พระจอมเกล้าเพชรบุรี อาการอยู่ในขั้นโคม่า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดี น.ส.ณัฐกานต์ ศรีคลัง อายุ 20 ปี รุ่นพี่ที่สั่งให้ทิ้งดิ่งในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น

ความคืบหน้าการช่วยเหลือนายนิโรจน์ศักดิ์ เหยื่อรับน้องโหด  เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 ต.ค. ที่ห้องไอซียู รพ.พระจอมเกล้าเพชรบุรี นพ.ศรัณย์ นันทอารีย์ แพทย์ อายุรกรรมสมอง รพ.ศิริราช พร้อมคณะแพทย์จาก รพ. ศิริราช เดินทางมาตรวจดูอาการนายนิโรจน์ศักดิ์ หรือน้องโอ ตามรับสั่งของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถโดยมีนายชาย พานิชพรพันธุ์ ผวจ.เพชรบุรี ร่วมเดินทางมาด้วย หลังจากตรวจอาการแล้ว 

นพ.ศรัณย์ได้เปิดเผยว่า  อาการของน้องโอ น่าเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากตอนนี้เยื่อสมองตาย ความดันโลหิตลดต่ำลง ม่านตาเปิด ตนได้คุยกับคุณพ่อคุณแม่ของน้องโอแล้วว่า ทางคณะแพทย์ ของ รพ.พระจอมเกล้าเพชรบุรี ได้พยายามยื้อชีวิตของน้องโออย่างเต็มความสามารถ ตัวยาที่ให้เป็นตัวยาที่ดีที่สุดแล้ว แต่เยื่อสมองของน้องโอตาย และมีความดันโลหิตที่ลดต่ำลงด้วย โอกาสที่จะรอดชีวิตมีน้อยแต่จะยื้อชีวิตให้ถึงที่สุด

ส่วนนายชาย พานิชพรพันธุ์ ผวจ. จ.เพชรบุรี กล่าวว่า เมื่อเวลา 15.30 น. ตนได้รับมอบเงินจำนวน 1 แสนบาท จากกองราชเลขาฯในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถซึ่งได้โอนเข้าบัญชีของเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรี โดยตน และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบุรีพร้อมคณะ จะนำเงินจำนวน 1 แสนบาทไปมอบให้กับทางคุณพ่อคุณแม่ของนายนิโรจน์ศักดิ์ หรือน้องโอ เวลา 09.30 น. วันที่ 28 ต.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 8 โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเพชรบุรี

ทางด้านนายประสิทธิ์ อินทาโชติ พ่อน้องโอกล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเมตตาให้แพทย์มาดูแลอาการป่วยของลูกชาย และมีความมั่นใจว่าน้องโอต้องหายในเร็ววันนี้ เพราะพระบารมีสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงแผ่ไพศาลช่วยปกป้องคุ้มครองให้ น้องโอปลอดภัยอย่างแน่นอน พร้อมยกมือไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในห้องแพทย์ด้วยความปีติยิ่ง

ขณะที่ พ.ต.อ.ประภากร  ริ้วทอง รอง ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี กล่าวว่า ตนได้รวบรวมรายงานทั้งหมดเกี่ยวกับคดีมอบให้ ผวจ.เพชรบุรี ซึ่งทางจังหวัดจะได้ส่งรายงานให้กับทางสำนักพระราชวังทราบต่อไป ส่วนความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวนกำลังเร่งดำเนินการ ตอนนี้เราได้รับคลิปวีดิโอที่ผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายเอาไว้แล้ว และทาง พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี มีคำสั่งแต่งตั้งคณะติดตามเร่งรัดคดีให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย คดีนี้มีรุ่นพี่ที่เข้าข่ายกระทำความผิดจำนวนกว่า 10 คน ซึ่งจะต้องเรียกตัวมาสอบสวน โดยจะต้องมีอัยการ นักสังคม� สงเคราะห์ นักจิตวิทยา ร่วมสอบปากคำ โดยผู้ปกครองร่วมฟังการสอบสวนด้วย อาจทำให้ผลคดีล่าช้าไปบ้าง และหากนายนิโรจน์ศักดิ์เสียชีวิต ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ น.ส.ณัฐกานต์ ผู้ต้องหาทันที

สำหรับน.ส.ณัฐกานต์ ศรีคลัง รุ่นพี่ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี และถูกส่งไปควบคุมตัวที่เรือนจำจังหวัดเพชรบุรี ตลอดทั้งวันไม่มีญาติหรือเพื่อนมาเยี่ยม และยังไม่มีญาติมาติดต่อขอประกันตัวแต่อย่างใด 

ที่กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน นายอนุพงศ์ ทรงกำพล รองผู้อำนวยการโรงเรียนโพลีเทคนิคพณิชยการกรุงเทพ ได้ยื่นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนายนิโรจน์ศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บจากการทำกิจกรรมที่หาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี ต่อนายศรีเมือง เจริญศิริ รมว. ศึกษาธิการ จากนั้น นายอนุพงศ์ได้เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรม ครั้งนี้ เป็นการจัดกันเองโดยพลการ แต่เมื่อผู้ประสบอุบัติเหตุเป็นนักศึกษาของโรงเรียน  จึงได้ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว ซึ่งผู้ปกครองผู้บาดเจ็บก็พอใจในการช่วยเหลือของโรงเรียน

ด้านนายศรีเมือง เจริญศิริ รมว.ศึกษาการ (ศธ.) กล่าวว่า ได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ไปตรวจสอบหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนว่า มีการสอนนักเรียนด้วยรูปแบบใด และหลักสูตรการเรียนการสอนได้เป็นไปตามที่ ศธ. กำหนดไว้หรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องหน้าที่พลเมือง และวิชาศีลธรรม ซึ่งหากโรงเรียนสอนครบตามหลักสูตรที่กำหนด แต่ยังมีนักเรียนนักศึกษามีพฤติกรรมรุนแรงแบบนี้อยู่ ก็คงจะต้องเพิ่มหลักสูตรให้มีความเข้มข้นมากกว่าเดิม และยังมีข้อสงสัยและไม่พอใจในบางประเด็นเกี่ยวกับประวัติของรุ่นพี่ที่ก่อเหตุด้วย เนื่องจากโรงเรียนยังไม่ได้มีการสอบประวัตินักเรียนคนดังกล่าว จึงมอบให้โรงเรียนไปสอบสวนด้วยว่า รุ่นพี่คนดังกล่าวสมัยที่เคยเรียนอยู่มีพฤติกรรมอย่างไร และไปเรียนต่อหรือทำงานที่อื่นมีพฤติกรรมรุนแรงลักษณะนี้ติดตัวไปด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ชะลอการให้เงินอุดหนุนรายหัวของนักเรียนกับโรงเรียนดังกล่าวไว้แล้ว ซึ่งหลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้นก็จะจ่ายชดเชยให้ภายหลัง และหากสถานศึกษาใดปล่อยให้นักเรียนนักศึกษาออกไปก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะวิวาท หรือกิจกรรมรับน้อง ศธ.ก็จะไม่ให้เงินอุดหนุนเช่นกัน

ขณะเดียวกัน นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนโพลีเทคนิคพณิชยการกรุงเทพ ได้มีหนังสื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุอยู่ระหว่างโรงเรียนปิดเทอม คณาจารย์และคณะผู้บริหารเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศจีนและฮ่องกง จากการสอบถามผู้ปกครองนักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บ ได้ความว่า นายนิโรจน์ศักดิ์ อินทาโชติ เดินทางไปส่วนตัวระหว่างปิดภาคเรียน โดยมีบุคคลภายนอกซึ่งเป็นศิษย์เก่าชักชวนไปเที่ยว บิดามารดาเห็นว่ามีพี่ชายร่วมเดินทางไปด้วย จึงอนุญาตให้ไปที่หาดเจ้าสำราญ อ.เมืองเพชรบุรี และได้จัดกิจกรรมและเล่นการทิ้งดิ่ง จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตามกฎระเบียบของโรงเรียนในการจัดกิจกรรม จะต้องขออนุญาตโดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการโรงเรียนก่อน ต้องผ่านความเห็นชอบของอาจารย์ใหญ่ และได้รับการอนุมัติจากผู้อำนวยการ หากไม่ผ่านขั้นตอนทั้ง 3 จะไม่สามารถจัดกิจกรรมได้

นอกจากนี้โรงเรียนไม่มีนโยบายให้นักศึกษาจัดกิจกรรมรับน้อง โดยได้ออกหนังสือและประกาศแจ้งผู้ ปกครองและนักศึกษาทราบล่วงหน้า ตามประกาศลงวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียน และหนังสือลงวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสอบวันสุดท้ายก่อนปิดภาคเรียน หลังเกิดเหตุมีการประชุมคณะกรรมการโรงเรียน มีผลการประชุมสรุปว่า 1. การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ไม่ได้รับอนุญาตจากโรงเรียน เป็นการจัดกันเองโดยพลการ 2. แม้การจัดกิจกรรมจะไม่ได้รับอนุญาต แต่ โรงเรียนถือว่าผู้ประสบเหตุเป็นนักศึกษาของโรงเรียน ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เบื้องต้นทางโรงเรียนจะช่วยเหลือเป็นเงิน 50,000 บาท นอกจากนี้ คณะครูอาจารย์ และนักศึกษา กำลังรวบรวมเงินเพื่อให้ความช่วยเหลือสมทบ นอกจากนี้ ตนได้มอบเงินส่วนตัว 5,000 บาท เพื่อช่วยเหลือสมทบด้วย ซึ่งบิดาผู้บาดเจ็บก็พอใจในการช่วยเหลือของโรงเรียน

ด้านนายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา กล่าวถึงเรื่อง เดียวกันว่า นายนิโรจน์ศักดิ์ไม่ใช่เหยื่อรายแรกของพฤติกรรมต่ำทรามในการรับน้องใหม่ และเชื่อว่าคงไม่ใช่ รายสุดท้าย ซึ่งคณะกรรมาธิการฯเคยทำการศึกษาเรื่องนี้ สามารถประมวลเป็นข้อเรียกร้องต่อกระทรวงศึกษาธิการและผู้เกี่ยวข้องได้ดังนี้ 1. ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการป้องกันปัญหา โดยต้องส่งเสริมกิจกรรมนักศึกษาที่สร้างสรรค์ ปลูกฝังให้มีความคิดที่ยึดเหตุผล เคารพสิทธิผู้อื่น โดยเฉพาะการยอมรับหลักความเสมอภาค ไม่นิยมอำนาจที่ไม่เป็นธรรม และไม่นิยมความรุนแรง 2. สถาบันการศึกษาต้องเร่งพัฒนาครู อาจารย์ ให้ตระหนักและมีความเข้าใจในปัญหาของนักศึกษาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะครูอาจารย์สายกิจกรรม ซึ่งมีน้อยและไม่ได้รับการส่งเสริม และ 3. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจะต้องมีมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นซ้ำซากเป็นพิเศษ เพราะปัญหาเกิดขึ้นมากและรุนแรงกว่าสถาบันการศึกษาที่สังกัดหน่วยงานอื่น

ที่มาของข่าว: เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตร.รวบ "รุ่นพี่" สั่งรับน้องโหดแล้ว ยังให้การปฏิเสธ ด้าน นศ.ที่เจ็บ อาการทรง-ไม่ได้สติ, 24 ต.ค. 51 http://www.prachatai.com/05web/th/home/14202