Skip to main content
sharethis

15 มิ..51 เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนรวม 20 เครือข่าย อาท เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก สภาเครือข่ายองค์กรประชาชนแห่งประเทศไทย เครือข่ายหนี้สินชาวนา เครือข่ายสลัมสี่ภาค กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอวอชท์) ร่วมกันประกาศยุทธศาสตร์และแผนปฎิบัติการของภาคประชาชน ในวันสุดท้ายของการประชุม "สมัชชาประชาชนเพื่อความมั่นคงและอธิปไตยทางอาหาร" ซึ่งจัดขึ้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ 14-15 มิ..โดยมีเกษตรกร และองค์กรภาคประชาชนเข้าร่วมราว 200 คน จาก 20 เครือข่ายทั่วประเทศ

นางสาวกิ่งกร นรินทรกุล ณ อยุธยา คณะทำงานสมัชชาประชาชนเพื่อความมั่นคงและอธิปไตยทางอาหาร แถลงว่าที่ประชุมได้ประกาศยุทธศาสตร์ 4 ประการ คือ 1) เกษตรกรและภาคประชาชนต้องมีบทบาทหลักในการกำหนดนโยบายและแผนพัฒนาเรื่องอาหารและการเกษตร 2) ยุทธศาสตร์การปฏิรูปที่ดิน และการปลดเปลื้องหนี้สินเกษตรกร 3) ยุทธศาสตร์การพัฒนาตนเองเพื่อให้รอบรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตการตลาด การรู้เท่าทันบรรษัทขนาดใหญ่ และ 4) ยุทธศาสตร์การพัฒนาทางเลือกและความร่วมมือระหว่างเกษตรกรและผู้บริโภคและคนจนเมือง


นางกิมอัง พงษ์นารายณ์ ตัวแทนคณะทำงานจากสภาเครือข่ายองค์กรประชาชน ได้แถลงเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้ประกาศแผนปฏิบัติการรวม 12 ข้อเพื่อให้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวบรรลุเป้าหมาย ดังนี้






  1. ผลักดันให้มีการปฎิรูปที่ดิน การบังคับใช้กฎหมายการเช่าที่ดินเพื่อให้คุ้มครองชาวนาเช่าอย่างจริงจัง



  2. เคลื่อนไหวร่วมกันเพื่อหยุดการบังคับคดียึดที่ดินของเกษตรกรขายทอดตลาด และเร่งรัดโอนหนี้สินเกษตรกรเข้าสู่ระบบกองทุนฟื้นฟู



  3. ร่วมมือกันต่อต้านต่างชาติเข้ามาครอบครองที่ดิน และการลงทุนทางการเกษตรที่ทำลายความมั่นคงของเกษตรกรรายย่อยและอธิปไตยของประเทศ



  4. เปิดโปงปัญหาการเกษตรแบบพันธสัญญาของบริษัทขนาดใหญ่ที่ผลักภาระให้เกษตรกรผู้บริโภคเป็นผู้รับความเสี่ยง อีกทั้งยังไม่คำนึงถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ



  5. ต่อต้านการส่งเสริมพืชจีเอ็มโอและคัดค้านพันธุ์ข้าวลูกผสมที่นำไปสู่การผูกขาดและปัญหาอื่นๆต่อเกษตรกรและผู้บริโภค



  6. สร้างระบบการแลกเปลี่ยนผลผลิตระหว่างเครือข่าย ชุมชน และส่งเสริมระบบการค้าที่เป็นธรรม



  7. ผลักดันเกษตรกรรมยั่งยืน เกษตรกรรมอินทรีย์ ที่ยืนอยู่บนฐานความหลากหลายทางชีวภาพโดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี



  8. ผลักดันให้มีการพัฒนาพลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทนในระดับชุมชน



  9. สร้างฐานข้อมูล ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและทางออกที่เกี่ยวกับฐานทรัพยากร การเกษตร และอาหารระหว่างเครือข่าย และ



  10. ร่วมกันฟื้นฟูภูมิปัญญาของท้องถิ่นที่เกี่ยวกับการผลิต การจัดการทรัพยากร และการรักษาสิ่งแวดล้อม



  11. ผลักดันให้คนจนเมืองได้รับหลักประกันในเรื่องการเข้าถึงอาหาร ซึ่งรวมถึงการพัฒนาความร่วมมือโดยตรงระหว่างเกษตรกร กรรมกร และคนจนในเมือง



  12. ร่วมมือกันเพื่อให้เกิดขบวนการของเกษตรกรที่เข้มแข็ง เปลี่ยนแปลงระบบสหกรณ์ที่เป็นอยู่ให้เป็นองค์กรของชาวไร่ชาวนา และทำให้เกิดสภาเกษตรกรที่เป็นของเกษตรกรอย่างแท้จริง




นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี (BioThai) และรศ.สุริชัย หวันแก้ว สถาบันวิจัยสังคมจุฬาซึ่งเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนการจัดประชุมครั้งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ร่วมกันว่าที่ประชุมได้ตกลงจะจัดตั้ง "คณะทำงานประชาชนเพื่อความมั่นคงและอธิปไตยทางอาหาร"ขึ้น เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนให้แผนปฏิบัติการดังกล่าวให้เกิดขึ้นได้จริง โดยจะมีองค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันทางวิชาการ เป็นจำนวนมากให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ 20 เครือข่ายองค์กรประชาชนข้างต้น


อนึ่ง ในวันที่ 24 มิ..นี้ เครือข่ายสลัมสี่ภาคจะร่วมกับเครือข่ายของเกษตรกรและองค์กรภาคประชาชนจะชุมนุมเรียกร้องร่วมกันเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับมาตรการการเข้าถึงอาหารของคนจนเมือง ราคาสินค้าเกษตรที่เป็นธรรม และประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิกฤติอาหารที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน



ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net