Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


คนขอนแก่นประท้วงหน้าจวน ผวจ.เหตุ 8 เคเบิลงดฉายASTV


มติชนออนไลน์ - เวลา 19.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีโทรทัศน์เคเบิลทีวีรวมทั้งหมด 8 ราย ใน จ.ขอนแก่น ได้หยุดแพร่ภาพสัญญาณช่องเอเอสทีวีแบบกะทันหัน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการถ่ายทอดสดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำให้ประชาชนชาวขอนแก่นประมาณ 300 คน รวมตัวประท้วงกันที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดในเวลาต่อมา


 


พันธมิตรยื่นศาลปค.ถอดถอน "เฉลิม" ห้ามถ่ายทอดเอเอสทีวี


เว็บไซต์คมชัดลึก - (13 มิ.ย.) นายสุริยใส กตศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงมาตรการตอบโต้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งห้ามเคเบิล ท้องถิ่น ถ่ายทอสัญญาณของเอเอสทีวี 5 ข้อได้แก่ 1.จะฟ้องร้องรัฐมนตรีมหาดไทยต่อศาลปกครอง เพื่อเพิกถอนคำสั่งที่ไม่ชอบ และข้อให้คุมครองชั่วคราวให้เคเบิ้ลท้องถิ่นถ่ายทอดรายการของเอเอสทีวีต่อไปได้


 



2.การออกคำสั่งที่ไม่ชอบ เป็นการส่อขัดต่อหน้าที่ พันธมิตรฯ จึงมีมติให้วุฒิสภาเข้าชื่อเพื่อถอดถอน ร.ต.อ.เฉลิม พ้นจาก รมว.มหาดไทย 3.ขอย้ำผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจ ข้าราชการที่สั่งให้เคเบิลท้องถิ่น ยุติการออกอากาศ ถือว่าเป็นผู้ทรยศต่อชาติและประชาชน จะต้องถูกลงโทษอย่างสาสม และขอให้ผู้ที่ถูกปิดกั้นร่วมกันเป็นโจทก์ผื่นฟ้องต่อผู้ทรยศต่อประเทศชาติ ต่อ ปปช.4.พันธมิตรเป็นกำลังใจต่อผู้ประกอบการเคเบิ้ล และ 5.พันธมิตรขอให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ได้รับชมเอเอสทีวี ช่วยกันแสดงพลัง ออกมาร่วมมาชุมนุมกันที่สะพานมัฆวานรังสรรค์


 


สรุปผลสอบ "สินบน" ปธ.วุฒิฯไม่พบหลักฐาน


มติชนออนไลน์-ที่ประชุมวุฒิสภา มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน พิจารณารายงานพิจารณาศึกษาสอบสวนข่าวการให้ค่าตอบแทนในการเลือกประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว ใช้เวลาประชุมลับกว่า 3 ชั่วโมง ผลสรุปของ กมธ.ไม่พบพยานหลักฐานว่าการเสนอให้เงิน 1 ล้านบาท และรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ 1 คัน แต่เชื่อได้ว่ามีอดีตผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้ามาแทรกแซงการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา มีการรวมกลุ่ม ส.ว.เพื่อสนับสนุนให้ได้เป็น มีการเสนอผลตอบแทน


 


ข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมมีการระบุชื่ออดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิการเมือง ติดต่อผ่านสามีของ ส.ว.คนหนึ่งให้สนับสนุนนายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ เป็นประธานวุฒิสภา และมีอดีต ส.ส.ขอนแก่นติดต่อ ส.ว.ให้สนับสนุน ส.ว.ขอนแก่นเป็นประธาน มี ส.ว.หลายคนท้วงติงรายงานว่าไม่มีหลักฐานการให้ค่าตอบแทน อาจถูกฟ้องร้องได้ ในที่สุดที่ประชุมลงมติให้ กมธ.นำกลับไปปรับปรุงรายงานมิให้พาดพิงบุคคลภายนอก 


 


ไม่ถอนอายัด "คตส." ยืนยันแม้พ้นอำนาจ


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - คตส.มีมติไม่ถอนอายัดทรัพย์ "ชินวัตร" หลังทนายครอบครัว "แม้ว" ขู่แบงก์เลิกแช่แข็งเงิน 6.5 หมื่นล้าน นายสัก กอแสงเรืองโฆษก คตส.แจงคดีมีมูลรอฟ้องศาลเพียบ แม้คำสั่งยึดครบ 1 ปีก็ตาม ถึง คตส.หมดวาระยังมีกฎหมาย ป.ป.ช.อยู่ พร้อมหอบสำนวนส่งอัยการฟ้องแก๊งท่อร้อยสายไฟฟ้า ตร.ยันดำเนินคดี "สุนัย" ตามขั้นตอน ก.ม. โยนบาปให้ศาลฐานอนุมัติหมายจับ


 


จนท.ศาลยันมีเงิน2ล.ในถุงขนมจริง


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - วันนี้ (13 มิ.ย.) องค์คณะผู้ไต่สวนข้อเท็จจริงโดยนายมงคล ทับเที่ยง รองประธานศาลฎีกา นายวีระพล ตั้งสุวรรณ และนายอิศเรศ ชัยรัตน์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ได้ประชุมกรณีทนายความอดีตนักการเมืองนำถุงขนม ซึ่งมีเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท ให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยองค์คณะผู้ไต่สวนได้เรียกเจ้าหน้าที่ธุรการซี 7 ซึ่งเป็นผู้รับถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาท มาสอบถามข้อเท็จจริง ถึงการสนทนากับทนายความอดีตนักการเมืองเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.โดยวันดังกล่าวตรงกับวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมารายงานตัวต่อศาล หลังกลับจากต่างประเทศในคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดา โดยมีนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ เดินทางมาด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ธุรการซี 7 ยืนยันว่าภายในถุงมีขนมและเงินสดจำนวนดังกล่าวจริง


 



อย่างไรก็ตาม หลังองค์คณะไต่สวนเจ้าหน้าที่แล้ว สัปดาห์หน้าจะนำภาพเทปทีวีวงจรปิดบริเวณแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองชั้นธุรการ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุมาตรวจสอบภาพบุคคลและการสนทนาเพื่อเป็นหลักฐาน จากนั้นจะเชิญบุคคลดังกล่าวเข้ามาทำการไต่สวนความจริง ส่วนจะต้องเปิดบัลลังก์ไต่สวนอย่างเปิดเผยหรือไม่ องค์คณะผู้ไต่สวนจะมีการใช้ดุลพินิจหารือกันก่อน


 


เศรษฐกิจ


 


ไทยผนึกสหรัฐจ่อร้อง WTO ห้ามญี่ปุ่นส่งออกข้าวสต็อก


เว็บไซต์ไทยโพสต์-นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับนางบาร์บารา วีเซล ผู้ช่วยผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) และกระทรวงเกษตรสหรัฐ ในการเยือนสหรัฐเมื่อวันที่ 12-13 มิ.ย.ถึงกรณีญี่ปุ่นจะนำข้าวสารในสต็อกประมาณ 1.5 ล้านตัน ที่นำเข้าภายใต้ข้อตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) มาส่งออกให้ประเทศต่างๆ เช่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายไม่เห็นด้วย เพราะการนำเข้าภายใต้ WTO เพื่อใช้บริโภคในประเทศเท่านั้น ดังนั้นญี่ปุ่นต้องปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นจะทำให้ประเทศผู้ส่งออกรายอื่นได้รับผลกระทบ เช่น ราคาข้าวในตลาดโลกตกต่ำหรือไม่มีคำสั่งซื้อ


 


ขณะเดียวกันไทยจะนำประเด็นดังกล่าวไปหารือกับผู้ส่งออกข้าวประเทศอื่น ถึงผลประโยชน์ที่ควรเป็นตามข้อตกลง WTO หากญี่ปุ่นยังดึงดันที่จะขายข้าวให้ได้ และจะหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาและวางกรอบไม่ให้ญี่ปุ่นทำได้อีก เช่น อาจจะฟ้องร้องต่อ WTO ให้ญี่ปุ่นยกเลิกการกระทำดังกล่าว เป็นต้น


 


ส่วนการเจรจาจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐ ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบที่จะจัดให้มีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างไม่เป็นทางการ โดยผลัดกันเป็นเจ้าภาพเพื่อหารือถึงประเด็นปัญหาทั้งด้านการค้า การลงทุน และหาแนวทางแก้ไข รวมถึงจะติดต่อกันโดยตรงเพื่อเป็นการเตือนภัยกันล่วงหน้าในสิ่งที่เป็นข้อกังวลของทั้ง 2 ประเทศ


 


คลังหวั่นแห่นำเข้าสินค้าเวียดนาม


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ้งว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้วิเคราะห์การลดค่าเงินดองของเวียดนาม มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยว่า ในส่วนของการส่งออก โดยภาพรวมจะไม่กระทบ เนื่องจากไทยส่งออกไปเวียดนามเพียง 2.5% ของการส่งออกทั้งหมด แต่อาจทำให้ไทยนำเข้าจากเวียดนามมากขึ้น เนื่องจากสินค้าของเวียดนามจะถูกลง


 


อย่างไรก็ดี ธุรกิจไทยที่ลงทุนในเวียดนามอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดการเก็งกำไรในค่าเงินบาทจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติเช่นเดียวกับเวียดนาม "รัฐบาลควรสนับสนุนการกระจายตลาดส่งออกให้มากขึ้น และป้องกันการเก็งกำไรจากนักลงทุนต่างชาติ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยควรดูแลค่าเงินบาทไม่ให้มีความผันผวนมากเกินไป และภาครัฐควรร่วมมือกับภาคเอกชนไทยในเวียดนามวางแผนรองรับผลกระทบ" รายงานข่าวระบุ


 


ส่วนปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมากของประเทศต่างๆ ในเอเชีย ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นมาก มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ราคาสินค้าเกษตร ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ที่เพิ่มขึ้นมากจากการลดลงของอุปาทาน เป็นผลให้นักลงทุนต่างกลัวว่าภาวะเงินเฟ้อจะทำให้การบริโภคภาคประชาชนลดลง ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางจำเป็นต้องใช้การมาตรการทางการเงิน เช่น การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อชะลอภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น


 


คุณภาพชีวิต


 


ย้ำขยับราคาก๊าซกค.นี้ รถยนต์ใช้ "แอลพีจี" โดนแน่


เว็บไซต์แนวหน้า - นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภายหลังหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจ.ตาก ว่า กรมธุรกิจพลังงาน ขอความร่วมมือควบคุมการส่งออกก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการและต้องนำเข้าเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นเดือนแรก 20,000 ตัน และเดือน พ.ค.นำเข้า 40,000 ตัน


 



ขณะนี้ทุกหน่วยงาน เช่น กรมศุลกากร ทหาร ตำรวจ พร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการควบคุมการส่งออกแอลพีจี โดยราคาแอลพีจีในประเทศ มีการอุดหนุนราคาอยู่ที่ 18.13 บาท/กิโลกรัม หรือราคา 270-280 บาท ต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านจำหน่ายในราคาตลาดโลก คือ กิโลกรัมละ 40 บาท หรือประมาณ 700-800 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม โดยที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้ออกประกาศป้องกันการส่งออก ด้วยการควบคุมการส่งออกแอลพีจีมาตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา และยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการลักลอบจำหน่ายแอลพีจีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ


 



นายเมตตาย้ำว่า ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน จะมีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจีออกเป็น 2 ราคา คือก๊าซในครัวเรือน และก๊าซสำหรับรถยนต์-อุตสาหกรรม ซึ่งตามเป้าหมายเดิมเดือน ก.ค. จะแยกราคาดังกล่าว อย่างไรก็ตามขึ้น อยู่กับความพร้อมของ ปตท.ในการจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวีด้วย โดยในส่วนก๊าซแอลพีจีสำหรับครัวเรือนจะไม่มีการปรับขึ้น แต่ราคาก๊าซแอลพีจีสำหรับรถยนต์-อุตสาหกรรมจะทยอยขยับขึ้น แต่จะปรับราคาเมื่อใดนั้น ไม่ขอแจ้งล่วงหน้าเพื่อป้องกันการกักตุนสินค้า แต่ยืนยันว่าการปรับขึ้นราคาก๊าซจะทยอยปรับราคา เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบหนักเกินไป


 


ชาวจันท์ประท้วงไม่เอาโรงงานน้ำยางข้น


มติชนออนไลน์-วันที่ 13 มิถุนายน ที่ศาลาการเปรียญวัดมาบไผ่โภชนาราม ต.มาบไพ อ.ขลุง จ.จันทบุรี มีการจัดเวทีประชาพิจารณ์การขอสร้างโรงงานผลิตน้ำยางข้น ของบริษัท ซินเท็กซ์ รับเบอร์ จำกัด ซึ่งขออนุญาตก่อสร้างในหมู่ 5 และได้รับอนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2549 ต่อมาชาวบ้านคัดค้านว่าส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประท้วงโดยการปิดถนนสายขลุง-อ.มะขาม จนผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้ยุติการก่อสร้าง ซึ่งการประชาพิจารณ์ครั้งนี้ นายประเสริฐ ตปนียางกูร ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งการประชาพิจารณ์ได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ก่อนที่จะทำประชามติประชาชน 6 หมู่บ้าน ปรากฏว่าไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงงาน 503 คน และเห็นด้วย 21 คน


 


แฉนักการเมืองรับหัวคิวฝายแม้ว20%


เว็บไซต์คมชัดลึก - จากกรณีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำเสนอโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและป่าไม้ในพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะวิกฤติโลกร้อน เพื่อดำเนินกิจกรรมสร้างฝายต้นน้ำแบบผสมผสานและเพาะชำหญ้าแฝก เป็นโครงการเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล ทำให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ต้องเปลี่ยนแปลงรายการงบรายจ่ายปี 2551 วงเงิน 770 ล้านบาท รองรับกิจกรรมดังกล่าว


 



อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใสว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์ค่าก่อสร้างฝายให้แก่นักการเมืองคนหนึ่ง เพราะถึงแม้จะมีการโอนงบไปยังสำนักพื้นที่ฯ เพื่อส่งไปยังสำนักอนุรักษ์ต้นน้ำแล้วก็ตาม แต่การเบิกจ่ายเงินจะใช้วิธีให้เจ้าพนักงานที่รับผิดชอบเซ็นเป็นเงินยืมจ่าย และส่งเงินคืนให้นักการเมือง 20% ส่วนอีก 10% ให้หัวคิวในพื้นที่ ทำให้เจ้าหน้าที่บางแห่งไม่กล้าทำตามแนวนโยบายและร้องเรียนผ่านมายังสื่อ


 



นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือร้องเรียน แต่จะตรวจสอบ หากพบว่ามีมูลจะตั้งกรรมการสอบสวนทันที เท่าที่ทราบโครงการนี้มีการตั้งกรรมการในระดับพื้นที่ และมีการทำวิจัยเพื่อประเมินโครงการด้วย ยืนยันว่าการตัดงบ 20% จากกรมไปดำเนินโครงการนี้ จะไม่กระทบการทำงานในพื้นที่อย่างแน่นอน


 


ต่างประเทศ


 


ออสซี่-อิเหนาหารือชื่นมื่น รัดด์ยันฟื้นสัมพันธ์เฟสใหม่


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ แห่งออสเตรเลีย กล่าวชื่นชม "มิตรภาพที่แน่นแฟ้นยิ่ง" ระหว่างสองประเทศ หลังพบปะหารือกับประธานาธิบดีสุสีโล บัมบัง ยุทโธโยโน อินโดนีเซีย พร้อมกับเปิดเผยว่าสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันที่จะขยายความร่วมมือในประเด็นนิวเคลียร์ การเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศโลก และการรับมือภัยพิบัติ


 



ผู้นำแดนจิงโจ้ชี้ว่า ภัยธรรมชาติครั้งล่าสุดในพม่าและจีนแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่เอเชียต้องมีระบบรับมือกับภัยพิบัติดังกล่าว "เราไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าภัยธรรมชาติจะมาเมื่อไหร่ แต่ทั้งออสเตรเลียและอินโดนีเซียต่างเชื่อว่าเราสามารถเสนอเรื่องระบบรับมือภัยพิบัติในภูมิภาคต่อที่ประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ที่จะมีขึ้นในปีหน้าได้" รัดด์เสริม


 



นอกจากประเด็นข้างต้นแล้ว ผู้นำทั้งสองยังได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการของผู้นำออสเตรเลียที่เสนอให้มีการจัดตั้งประชาคมเอเชีย-แปซิฟิกตามแบบสหภาพยุโรปให้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างภายในปี 2563 เพื่อรับมือกับปัญหาต่างๆ อาทิ ภาวะโลกร้อน ความมั่นคง และวิกฤติอาหารแพ


 



รัดด์เดินทางเยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก หลังคว้าชัยชนะเหนือจอห์น โฮเวิร์ด ได้เมื่อเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้เขาแวะเยือนญี่ปุ่นเป็นเลกแรกของการทัวร์เอเชีย และในวันเสาร์นี้ เขามีกำหนดเดินทางเยือนจังหวัดอาเจะห์เพื่อเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปี 2547


 



หลังการหารือ ผู้นำออสเตรเลียและอินโดนีเซียได้ลงนามข้อตกลงด้านป่าไม้และการซื้อขายคาร์บอน (Carbon Trading) นอกจากนี้ นายกฯ ออสเตรเลียยกย่องความร่วมมือของอินโดนีเซียในการจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายมุสลิม แต่ปฏิเสธที่จะระบุกรอบเวลาว่าเมื่อไหร่ออสเตรเลียจึงจะยกเลิกคำเตือนให้พลเรือนเลี่ยงเดินทางเยือนบางพื้นที่ของอินโดนีเซีย


 



ชาวออสเตรเลียจำนวนมากสังเวยชีวิตในเหตุระเบิดบนเกาะบาหลีเมื่อปี2545 และ 2548 รวมถึงเหตุระเบิดสถานทูตออสเตรเลียในกรุงจาการ์ตาเมื่อปี 2547 ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลแคนเบอร์ราชุดก่อนหน้านี้สนับสนุนสงครามอิรักและอัฟกานิสถานอย่างแข็งขัน


 



ความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเซียและออสเตรเลียถึงจุดตกต่ำที่สุดเมื่อ 9 ปีก่อน เมื่อกองทัพออสเตรเลียเป็นแกนนำกองกำลังนานาชาติเข้าไปช่วยดูแลความสงบในติมอร์ตะวันออกหลังดินแดนแห่งนี้โหวตแยกตัวออกจากอินโดนีเซีย


 


"บาดาวี" ตกลงยกเก้าอี้ให้ "นาจิบ"


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - นายกฯอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี แห่งมาเลเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้เคยปฏิเสธทำตามเสียงเรียกร้องทั้งจากภายในพรรคองค์การสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) และจากฝ่ายค้านและประชาชน ให้ลาออกจากตำแหน่งผู้นำ ได้ประกาศว่าเขาเตรียมจะส่งมอบอำนาจให้รองนายกฯ นาจิบ ราซัก


 



"ดะโต๊ะสรีนาจิบและผมได้ตกลงใจกันถึงช่วงเวลาเหมาะสมที่ผมจะส่งมอบตำแหน่งผู้นำให้ท่าน เราไม่มีปัญหาอะไรกัน และเราพอใจกับความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน" สำนักข่าวเบอร์นามารายงานคำพูดของบาดาวีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา "การเปลี่ยนตำแหน่งผู้นำจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างแน่นอน"


 


บาดาวีเคยกล่าวไว้ว่า เขาจะหารือถึงการส่งมอบอำนาจต่อเมื่อผ่านการเลือกผู้นำภายในพรรคเดือน ธ.ค.แล้วเท่านั้นในการสนทนาระหว่างมื้อเที่ยงกับข้าราชการและผู้นำชุมชนที่กลันตัน บาดาวียังเรียกร้องให้ทุกคนยุติการคาดเดาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับรองนายกฯ นาจิบ เพราะมีแต่จะสร้างความเสียหายแก่พรรคอัมโนและการบริหารของรัฐบาล


 



พรรคอัมโนซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลผสมบาริซันเนชั่นแนล ปกครองมาเลเซียมายาวนานตั้งแต่เป็นเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 2500 การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม อัมโนมีผลงานย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์โดยสูญเสียการครองเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสภา และเสียที่นั่งใน 5 รัฐให้แก่ฝ่ายค้าน ทำให้พรรคเข้าสู่ภาวะวิกฤติ


 



นอกจากปัญหาภายใน นายกฯ บาดาวียังเผชิญความโกรธแค้นของประชาชนหลังจากประกาศขึ้นราคาน้ำมันตามภาวะตลาดโลก ซึ่งราคาน้ำมันดิบพุ่งพรวดแตะสถิติ 139 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาตรการนี้จะทำให้อัตราเงินเฟ้อของมาเลเซียปีนี้เพิ่มเป็น 4.2% สูงที่สุดในรอบ 10 ปี


 



ในวันศุกร์ ฝ่ายค้านยังได้นัดชุมนุมเดินขบวนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการขึ้นราคาน้ำมันหรือลาออก แต่มีผู้ประท้วงเข้าร่วมเพียงประมาณ 1,000 คน ทั้งที่ผู้จัดชุมนุมตั้งความหวังว่าการประท้วงครั้งนี้จะเป็นครั้งใหญ่ที่สุดและมีประชาชนร่วมชุมนุมกว่า 20,000 คน


 



การชุมนุมยุติลงอย่างสันติ ภายหลังตำรวจปราบจลาจลขัดขวางผู้ประท้วงไม่ให้เคลื่อนขบวนไปยังตึกแฝดปิโตรนาสใจกลางเมืองหลวง ทำให้ผู้ชุมนุมสลายตัวหลังหยุดอยู่ที่สำนักงานของพรรคปาสซึ่งร่วมเป็นหนึ่งในผู้จัดชุมนุมครั้งนี้


 



มาเลเซียมีกฎหมายเข้มงวดเรื่องการชุมนุมในที่สาธารณะ ตำรวจขู่ด้วยว่าจะจับกุมผู้เข้าร่วมการชุมนุมนี้ กองกำลังตำรวจปราบจลาจลนับพันนายได้วางกำลังตลอดเส้นทาง และมีเฮลิคอปเตอร์บินวนตรวจตรา แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลหวั่นเกรงความเคลื่อนไหวครั้งนี้เช่นกัน


 



รัฐบาลมาเลเซียประกาศขึ้นราคาน้ำมันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับอินเดีย, อินโดนีเซีย, ไต้หวัน และศรีลังกา แต่ที่ประชาชนไม่พอใจอย่างมาก เพราะมาเลเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย แม้บาดาวีจะให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะไม่ขึ้นราคาน้ำมันอีกในปีนี้ พร้อมกับประกาศรัดเข็มขัดลดเงินตอบแทนรัฐมนตรี แต่ฝ่ายคัดค้านโดยเฉพาะอันวาร์ อิบราฮิม บอกว่ามาตรการนี้ไม่เพียงพอ และเกิดคำถามว่าเหตุใดจึงต้องขึ้นราคาน้ำมัน ทั้งที่ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 76.8 ล้านดอลลาร์สำหรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นทุกๆ 1 ดอลลาร์


 


ปัญหาเร่งด่วน


เว็บไซต์เดลินิวส์ - นายคิม จอง-ฮูน รัฐมนตรีการค้าเกาหลีใต้ เผยว่า จะเดินทางไปสหรัฐ เพื่อพยายามแก้ไขข้อตกลงนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐที่เป็นชนวนให้เกิดการประท้วงใหญ่ในกรุงโซล และทำให้ประธานาธิบดีลี มุง-บัค มีคะแนนนิยมตกต่ำ นายคิมแถลงข่าวว่า สิ่งที่ควรทำคือ ใช้วิธีการที่ให้ผลเหมือนเดิม โดยไม่ทำลายความน่าเชื่อถือของเกาหลีใต้ เช่น ขอเจรจาใหม่ โดยจะหามาตรการที่ได้ผลและมีสาระสำคัญในการป้องกันไม่ให้เนื้อวัวนำเข้าจากสหรัฐมาจากวัวอายุมากกว่า 30 เดือน


 


ม้าเหล็กตกราง


เว็บไซต์เดลินิวส์ - สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของทางการ รัสเซีย รายงานว่า รถไฟขบวนหนึ่งประสบอุบัติเหตุตกรางและพลิกคว่ำเมื่อวันพฤหัสบดีในตะวันออกไกลของรัสเซีย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 60 คน ในจำนวนนี้ บาดเจ็บสาหัส 6 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 คน โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้นในเขตอามูร์ รถไฟขบวนนี้กำลังเดินทางจากเมืองเนอร์ยุงรีในเขตไซบีเรีย ไปยังเมืองคาบารอฟส์ค ทางการรัสเซียได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยเหลือแล้ว


 




โอปราห์ วินฟรีย์


เว็บไซต์เดลินิวส์ - นิตยสารฟอร์บส์ ได้ดำเนินการสำรวจจัดอันดับ 10 บุคคลที่มีชื่อเสียงที่ทรงอำนาจมากที่สุดในโลก ปรากฏว่า โอปราห์ วินฟรีย์ วัย 54 ปี เจ้าแม่รายการทอล์กโชว์ชื่อดังของสหรัฐติดอันดับ 1 เป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยการสำรวจดังกล่าว อิงจากรายได้ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งการปรากฏในเว็บไซต์ และการตกเป็นข่าว ตลอดจนการขึ้นปกนิตยสารชั้นนำต่าง ๆ ส่วนคนดังที่ติดโผดังกล่าว อาทิ เจ.เค.โรว์ลิ่ง ผู้ประพันธ์นวนิยายพ่อมดน้อย แฮร์รี่ พอตเตอร์ และไทเกอร์ วูดส์ โปร กอล์ฟชื่อก้อง รวมทั้งเดวิด เบคแคม นักฟุตบอล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net