กลุ่ม "สนามหลวง" ย้ำรวมมวลชนเพื่อจัดระบบป้องกันความรุนแรง เป็นฐานต้านรัฐประหาร

 

 

 

วันที่ 4 มิ..51ในช่วงเย็นที่ท้องสนามหลวงมีการชุมนุมของกลุ่ม "สภาประชาชนต่อต้านเผด็จการ" มีผู้เข้าร่วมฟังการปราศรัยบนเวทีหลายร้อยคน สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน ประธานกลุ่มสภาประชาชนฯ กล่าวว่า กลุ่มนี้จัดตั้งขึ้นจากการหารือของหลากหลายกลุ่มที่เคยร่วมกันเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 27 ..ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุการณ์การปะทะกันของกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามหลวงและพันธมิตรฯ

 

 

ทั้งนี้ สภาประชาชนฯ ไม่มีโครงสร้างการนำอย่างชัดเจน แต่เป็นการ่วมมือกันอย่างหลวมๆ ของหลายกลุ่ม อาทิ ชุมชนคนแท็กซี่ นำโดยนายชินวัตร หาบุญพาด ผู้อำนวยสถานีวิทยุชุมขนคนแท๊กซี่ 92.75, กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำโดยสมยศ พฤกษาเกษมสุข, กลุ่มพิราบขาว, กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ เป็นต้น มีวัตถุประสงค์เพื่อหาพื้นที่ เวทีในการรวมกลุ่มของประชาชนทั่วๆ ไป โดยเฉพาะการรวมกลุ่มของประชาชนบริเวณสนามหลวงซึ่งมีการรวมตัวกันอยู่แล้ว และเคลื่อนไหวกันเองในการต่อต้านการชุมนุมของพันธมิตรฯ ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดการปะทะกันรุนแรง

"จุดประสงค์หลักเพื่อจัดระบบประชาชนไม่ให้เกิดความรุนแรง ในฐานะที่ นปก.เคยปลุกให้พวกเขาต่อต้านรัฐประหาร ถึงตอนนี้เราจึงต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการทำความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งก็เป็นประชาชนทั่วๆ ไปที่สนามหลวงจากที่เน้นการต่อต้านพันธมิตร ให้รวมกันเป็นสภาประชาชนเพื่อการต่อต้านรัฐประหาร เพราะพันธมิตรฯ เป็นเพียงเครื่องมือทางการเมืองเท่านั้น และสถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่สามารถวางใจเรื่องรัฐประหาร ถ้าเราไม่มีเวทีตรงนี้คนก็ไม่รู้จะไปไหน ที่นี่จะเป็นฐาน หากเกิดรัฐประหารคนจะได้มุ่งมาที่นี่"

สุรชัยกล่าวว่า ข้อเรียกร้องหลักที่มีต่อผู้ชุมนุมคือ 1.อย่าอ้างถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื่องจากขณะนี้สถาบันฯ ถูกหยิบยกมาเป็นข้ออ้างอย่างล่อแหลม 2.อย่าพูดปลุกเร้าอารมณ์ให้เกิดความรุนแรง 3.ไม่เน้นโจมตีรัฐบาล เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้รัฐบาลก็บริหารงานได้ยากอยู่แล้ว ซึ่งเขาเชื่อว่าด้วยแนวทางเช่นนี้ทำให้สามารถลดอารมณ์ของประชาชนได้ระดับหนึ่ง พร้อมทั้งยืนยันว่า หากจะมีความรุนแรง เช่น แก๊งค์มอเตอร์ไซด์ก่อกวน จะไม่ได้มาจากส่วนนี้แน่นอน

 

เขาระบุด้วยว่า  ปัญหาสำคัญของสังคมไทยตอนนี้คือ การดึงสถาบันลงมาในการเมืองจนถึงขั้นวิกฤต ดังนั้น สังคมไทยจะต้องหนักแน่นให้มาก นอกจากนี้เขายังย้ำว่า การจะต่อสู้กับทุนนิยมนั้นจะต้องต่อสู้ในระดับจิตสำนึกทางสังคมของประชาชน ไม่ใช่การต่อสู้ในระบบการผลิต

 

ทั้งนี้ การปราศรัยที่สนามหลวงได้รับการถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ www.newskythailand.com, www.mvnews.net

 

 

 

"จรัล" เตรียมตั้งมูลนิธิประชาธิปไตย เปิดโรงเรียนการเมือง

ด้านนายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ แม้คนชั้นกลางในเมืองจะเข้าร่วมน้อยลงมาก แต่ยังคงมีพลัง เนื่องจากแกนนำยังมีสถานะทางสังคมสูง มีความจริงจัง เด็ดขาด และสื่อมวลชนส่วนใหญ่ยังให้การสนับสนุน ขณะเดียวกันกลุ่มพันธมิตรฯ ก็มีจุดอ่อนที่เผยเป้าหมายหลักในการขับไล่รัฐบาลอย่างรวดเร็ว ในขณะที่รัฐบาลเพิ่งทำงานได้เพียง 3 เดือน ซึ่งข้อเรียกร้องนี้โดยตัวมันเองก็ไม่มีความชอบธรรมแล้ว โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลยอมถอยในการยอมให้ทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเขามั่นใจว่าจะต้องผ่านประชามติอย่างแน่นอน แต่กระบวนการจะยาวนานมาก ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองยังคงไม่อาจคาดการณ์ได้

 

อย่างไรก็ตาม จรัลเชื่อว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯ จะไม่นำไปสู่ความรุนแรงจนถึงขั้นนองเลือด เพราะความรุนแรงระดับนั้นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นง่ายๆ หากจะเป็นไปได้ก็คงต้องมีการัฐประหารแล้วประชาชนออกมาต่อต้านจนถูกปราบปรามอย่างหนัก

 

เขายังกล่าวถึงข้อเสนอของ น..ประเวศ วะสี ในการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หากเกิดวิกฤตจนไม่อาจเยียวยาว่า หากวิเคราะห์ข้อเสนอดังกล่าวจะเห็นเบื้องหลังความคิดในการสนับสนุนรัฐประหาร เพราะที่ผ่านมารัฐบาลแห่งชาติเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่เกิดรัฐประหารก่อน ดังนั้น การนำเสนอเช่นนี้จึงเท่ากับเป็นการเรียกร้องให้ทหารทำรัฐประหาร

 

นอกจากนี้จรัลยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 22 มิ..นี้จะมีการแถลงข่าวเปิดตัว "มูลนิธิประชาธิปไตย" ที่เขาก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ 1.เป็นโรงเรียนการเมืองที่จะเผยแพร่ความรู้ ทฤษฎีทางการเมือง 2.การทำวิจัยทางการเมือง เช่น การวิจัยปัญหาอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยในด้านต่างๆ 3.รณรงค์ประเด็นทางการเมือง เช่น การยกเลิกกฎหมายที่จำกัดเสรีภาพด้านต่างๆ ทั้งนี้ การแถลงข่าวจะจัดขึ้นที่โรงแรมอิมพีเรียลธารา โดยมี ม..ณัฐกรณ์ เทวกุล ปาฐกถาเรื่องการสร้างประชาธิปไตยในสายตาคนรุ่นใหม่ และมีการเสวนาว่าด้วยองค์ความรู้ประชาธิปไตยในสังคม นำโดย ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท