อูโก้ ชาเวซ (Hugo Chavez) ประธานาธิบดีแห่งเวเนซุเอลา กำลังโดนโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม โดยพรรคฝ่ายค้าน ได้เรียกร้องให้มีการตรวจหาสารเสพย์ติดในตัวเขา หลังจากที่ชาเวซได้ออกมาบอกว่าเขาชอบเคี้ยวใบโคคา พืชพื้นเมืองของชาวละติน
"เราต้องการให้ท่านประธานาธิบดีออกมาตรวจหาสารเสพย์ติด เช่นเดียวกับนักกีฬาเบสบอล หรือนักฟุตบอล" อันโตนิโอ เลเดซมา (Antonio Ledezma) นักการเมืองฝ่ายค้านจากพรรค พันธมิตรประชาชนคนกล้า (Brave People's
โดยชาเวซได้โฆษณาสรรพคุณใบโคคานี้ในการพบปะกับอีโว โมราเลส (Evo Morales) ประธานาธิบดีแห่งโบลิเวีย ผู้ที่เป็นพันธมิตรแนบแน่นกับชาเวซ โดยทั้งคู่ได้สนับสนุนให้การปลูกโคคาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย
ใบโคคาคือวัตถุดิบในการผลิตโคเคน แต่ทั้งนี้ชาวพื้นเมืองในทวีปอเมริการู้จักนำใบโคคานี้มาใช้ประโยชน์เชิงสมุนไพรมากว่าหลายร้อยปีแล้ว
"โคคาไม่ใช่โคเคน
.ผมเคี้ยวมันทุกเช้า ดูผมนี่สิ" ชาเวซกล่าวถึงสรรพคุณของใบโคคา ทั้งนี้ในตำแหน่งประธานาธิบดีที่ต้องทำงานหนัก เขาได้นอนวันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น
สื่อและรัฐบาลอเมริกันก็กำลังเล่นงานเขาอย่างหนักในข้อหาใหม่นี้ หน่วยปราบปรามยาเสพติด ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมากล่าวหาว่า สวรรค์ของยาเสพติดได้เปลี่ยนจากโคลอมเบียมาเป็นเวเนซุเอลาเสียแล้ว
ส่วน Reuters ได้อ้างคำกล่าวของ จอห์น วอลเตอร์ (John Walters) จากหน่วยงาน Office of National Drug Control Policy (ONDCP) ว่าชาเวซกำลังจะทำให้การค้าขายยาเสพติดในภูมิภาคสะดวกขึ้น --- แต่ทั้งนี้ชาเวซได้ออกมาตอบโต้ว่าข่าวเหล่านี้เป็นเพียงการรณรงค์โค่นล้มเขา ที่สหรัฐอเมริกาสนับสนุนเสมอมา
ไร่โคคา พืชเกษตรตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ของชาวอเมริกา (ที่มาภาพ: www.rain-tree.com)
สรรพคุณของใบโคคาคือเป็นยาแก้อาการวิงเวียนอันเกิดจากการอยู่ในที่สูง และมีสารกระตุ้นประสาทเช่นเดียวกับกาแฟ จึงเป็นที่นิยมของชาวพื้นเมืองซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในที่สูงคล้ายหลังคาของทวีปอเมริกาใต้
ใบโคคาเข้าไปในยุโรปและอเมริกาตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19 ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) ได้นำสารที่สกัดจากใบโคคาเป็นยารักษาโรคจิต ซึมเศร้าและภาวะติดยาเสพติดอื่นๆ ต่อมาทางการแพทย์ ใช้โคเคนเพื่อเป็นยาชาเฉพาะที่
โคเคนเริ่มมีการนำมาใช้เป็นสารเสพติดชนิดกระตุ้นประสาทตั้งแต่ปี 1920 แต่การแพร่ระบาดหนักที่สุด
ก็คือ ตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมา สาเหตุเนื่องจากได้มีพัฒนาการการผลิตโคเคน ที่ทำให้ได้โคเคนในราคาถูก ใช้ได้ง่าย และออกฤทธิ์เร็ว โคเคนเป็นสาร alkaloid cocaine ซึ่งมักจะเป็น cocaine hydrochlorite อยู่ในรูปของผง หรือเกล็ดสีขาว ไม่ทนต่อความร้อน ต้องใช้โดยวิธีฉีด พัฒนาการของโคเคนที่เกิดขึ้นในช่วงหลังคือ การทำให้เป็น cocaine base ซึ่งจะทนความร้อน หลังละลายและกลายเป็นไอที่อุณหภูมิมากกว่า 98 องศาเซลเซียส ทำให้ง่ายต่อการเสพย์โดยการสูบ เหมือนบุหรี่
จอห์น เพมเบอร์ตัน (John Pemberton) นักเคมีชาวอเมริกันได้ค้นพบวิธีสกัดใบโคคาให้กลายเป็นสารเสพติดได้ ซึ่งต่อมาได้ขายความลับนี้ให้กับบรรษัทผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่อเมริกัน โคคา-โคล่า (coca cola) ซึ่งใช้ใบโคคาเป็นวัตถุดิบมาตั้งแต่เริ่มผลิต จนกระทั่งในต้นศตวรรษที่ 20 ทางบริษัทจึงได้ยอมที่จะสกัดเอาสารโคเคนออกจากใบโคคาก่อนนำไปปรุงเครื่องดื่ม
โดยในสงครามโลกครั้งที่ 2 กองกำลังฝ่ายพันธมิตรในแอฟริกาได้สั่งซื้อโคคา-โคล่า จำนวนถึง 3 ล้านขวด ส่วนโคคา-โคล่าที่เป็นกระป๋องเพิ่งมีในปี 1955
ที่มา:
Venezuela opposition demands drug test for Chavez (Reuters via Yahoo! News - January 22, 2008)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)