โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง"ยงยุทธ"นั่งปธ.สภาฯ

สยามรัฐ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 51 เวลา 16.30 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คือ1,นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร 2,นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1และ 3,พันเอกอภิวันท์ วิริยะชัย  เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 จึงแต่งตั้งให้ผู้มีนามดังกล่าวเป็นประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามความในมาตรา 124 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 24 มกราคม 2551 เป็นปีที่ 63 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี

"ยงยุทธ"นัดโหวตนายกฯ 28 ม.ค.

โพสต์ทูเดย์ - นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงพร้อมรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน ภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เย็นวันนี้ (24 ม.ค.) ว่า ตนและรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน ยืนยันว่า จะไม่ทรยศหักหลังประเทศชาติและราชบัลลังก์ จะขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน การทำงานต่อไปจะเห็นแก่ความสามัคคีของคนในชาติ โดยไม่เลือกฝักเลือกฝ่าย และมุ่งเน้นผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ดังนั้น เสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อย จะไม่สำคัญไปกว่าความจริงใจ

"สิ่งสำคัญคือการเมืองภาคประชาชน ซึ่งถูกละทิ้งมายาวนาน จะได้รับความสำคัญมากขึ้น โดยจากนี้ไปกระบวนการในรัฐสภาจะสนับสนุนการเมืองภาคประชาชน เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและตรวจสอบเป็นระยะ พวกผมทั้งสามจะมีเวลาให้การเมืองภาคประชาชนให้มากขึ้น เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์การมีส่วนร่วมของประชาชน ดังนั้น สิ่งใดที่เคยมีความบาดหมางใจ ในฐานะที่เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของการเมือง จะขอเป็นกลไกสร้างความปรองดองในชาติ

ส่วนการนัดประชุมสภาฯ เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ กล่าวว่า ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2544 กำหนดให้เรียกประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ภายใน 3 วัน หลังจากได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาฯ หรือให้เป็นอำนาจของประธานสภาฯ เรียกประชุม เมื่อพิจารณาความเหมาะสม และเพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางใจ จึงสั่งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประสานไปยัง ส.ส.เสียงข้างน้อย และพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อนัดประชุมสภาฯ ในวันจันทร์ที่ 28 ม.ค.นี้ เวลา 09.30 น.

มีผู้มาสมัคร ส.ว.ในเขต กทม.แล้ว 6 คน รวม "รสนา" ลงด้วย

แนวหน้า - นายไชยณรงค์ เทียนมงคล ผอ.กต.กทม.เปิดเผยว่าล่าสุดกทม.มียอดผู้สมัครสว.แล้วจำนวน 6 คนประกอบด้วย  1. นายประทีป พิทยะวรพงศ์  2. ร.อ.พรชัย รัศมีแพทย์  3.นายธนช รัตนศาสตร์สุข 4.นายสมควร บลูมินเหนทร์  5.นางสาวรสนา โตสิตระกูล  6. นายอนุสรณ์ ธรรมใจ   อย่างไรก็ตามกทม.ขอเชิญประชาชนที่สนใจและมีคุณสมบัติตามกฏหมายมาสมัครกันให้มาก ซึ่งขณะนี้มีผู้มาขอแบบฟอร์มสมัครไปดูรายละเอียดประมาณ  20 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจำนวนผู้สมัคร ส.ว.ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา  (21-23 ม.ค.)  มีจำนวนทั้งสิ้น 205 คนทั้งประเทศ โดยมีถึง 13 จังหวัดที่มีผู้มาสมัครเพียงคนเดียว ประกอบด้วย กาญจนบุรี นครปฐม นครราชสีมา ปัตตานี พังงา พัทลุง พิจิตร ภูเก็ต มหาสารคาม ลพบุรี ลำปาง สตูล  และ สระแก้ว   ส่วนจังหวัดที่มีผู้มาสมัครมากที่สุดได้แก่  เพชรบุรี จำนวน 9 คน

"ชลิต" ผิดหวังถ้าหลุดสเปกอยากให้งานราบรื่นรมว.กห.ต้องตามใจทหาร

ผู้จัดการรายวัน - พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ และรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)ให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทภารกิจของ คมช. หลังจากมีรัฐบาลชุดใหม่ว่า เมื่อจบภารกิจก็จบกัน และปล่อยให้เป็นหน้าที่ ผบ.เหล่าทัพทำงานตามปกติ ทั้งนี้ คมช.จะทำหน้าที่จนครบเวลาเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่

ส่วนการที่คมช.เสนอแนะ รมว.กลาโหมคนใหม่ แสดงว่า คมช. เป็นห่วง ใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เป็นการให้ข้อเสนอแนะ เพราะเป็นภาระของผู้ที่จะวางตัว ทาง คมช.จึงได้เสนอแนะไปว่าสิ่งใดที่เหมาะสม ทั้งนี้ต้องไปดูที่ห้องประชุมของ รมว.กลาโหม จะเห็นว่ามีรูปภาพเป็นพลเรือน 2 คนที่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะคนที่เข้าใจเนื้อ หา และความจำเป็น ในเนื้องานคือทหาร

ส่วนที่สมาชิกพรรคพลังประชาชนออกมาคัดค้านแนวคิดคมช. พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่า สถานการณ์เช่นนี้ควรให้ทหารเข้ามาเป็นคนคลี่คลาย เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า จะทำให้งานราบรื่นและมีประสิทธิภาพ เพราะภาระของกระทรวงกลาโหม และ เรื่องความมั่นคงยังมีอีกมากมาย ทั้งประเทศ และปัญหาในพื้นที่ภาคใต้

"ประชัย"ยอมรับติดต่อ"ทักษิณ"เคลียร์ใจกันแล้ว

คมชัดลึก - นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์  หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการติดต่อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนได้ติดต่อไปจริงโดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บอกตนว่าขอให้เห็นแก่บ้านเมืองและขอเลิกราต่อกัน ซึ่งตนก็เห็นด้วย เพราะทุกวันนี้ ประชาชนระดับรากหญ้าตกยากมาก มีแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้นมหาศาล และคนกำลังจะตกงานเป็นล้านคน หากไม่ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา อาจเกิดกลียุคขึ้น

สรุปปตท.เช่าท่อก๊าซขั้นบันได5-35%

ผู้จัดการรายวัน - นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับนายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง และนายอานนท์ สิริแสงทักษิณ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ปตท. PTT ว่า ได้ข้อสรุปที่ บมจ.ปตท.จะต้องจ่ายค่าเช่าท่อก๊าซให้กับกระทรวงการคลังแล้วโดยเงินจำนวนแรกที่ ปตท.จะต้องจ่ายจากการใช้ท่อก๊าซมาตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบันเป็นเงินประมาณ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้จากท่อก๊าซในส่วนที่จะต้องโอนให้กระทรวงการคลังจำนวน 900 ล้านบาท รวมอัตราดอกเบี้ยที่ 7.5%ต่อปีและค่าปรับ

สำหรับค่าเช่าท่อก๊าซที่ปตท.จะต้องจ่ายให้กับกระทรวงการคลังในอนาคตนั้นที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าจะคิดค่าเช่าจากฐานรายได้ที่ปริมาณก๊าซผ่านท่อของกระทรวงการคลังต่อปี โดยหากรายได้อยู่ที่ 0-3,600 ล้านบาท จะต้องจ่ายค่าเช่า 5% หรือที่ 180 ล้านบาท และจากนั้นจะเพิ่มขึ้นอีก 5% ตามสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นทุก 200 ล้านบาท ซึ่งเพดานสูงสุดที่ ปตท.จะต้องจ่ายให้กระทรวงการคลังอยู่ที่ 35% หรือคิดเป็น 550 ล้านบาท        

หาม "ปู่เย็น" เข้ารพ.หมอบอกปอดติดเชื้อ

คมชัดลึก - นายเย็น แก้วมณี หรือ "ปู่เย็น" อายุ 108 ปี ที่ใช้ชีวิตสันโดษและมีแนวคิดใช้ชีวิตแบบพอเพียง เมื่อเรื่องราวเผยแพร่ไปได้กลายเป็นคนดังแห่งเมืองเพชรบุรี ที่คนทั่วไปให้ความเคารพนับถือ ได้ล้มป่วย โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 มกราคม นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าฯ เพชรบุรี ไปเยี่ยมปู่เย็นที่อาศัยอยู่ในเรือลอยลำ บริเวณสะพานลำไย ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี หลังได้รับแจ้งว่าปู่เย็นมีอาการป่วยมาหลายวันแล้ว แต่ไม่ยอมเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เมื่อเกลี้ยกล่อมอยู่ระยะหนึ่งจึงพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี

นพ.สาธิต รัตนศรีทอง รองผู้อำนวยการ กล่าวว่า อาการป่วยเกิดจากปอดด้านขวาติดเชื้ออย่างรุนแรง มีอาการเหนื่อย หอบ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ความดันโลหิตสูง มีเสียงลมหายใจในปอดผิดปกติ ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากความชื้นของอากาศ และต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 4-5 วัน

นายเกียรติศักดิ์ กล่อมสกุล ผู้ดูแลปู่เย็น กล่าวว่า ปู่เย็นป่วยมาสัปดาห์กว่าแล้ว พยายามเกลี้ยกล่อมให้ไปหาหมอแต่ก็ไม่ยอมไป ผู้ว่าฯ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจร่างกายที่เรือทุกวัน แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายวันนี้อาการทรุดหนัก ตนจึงประสานไปยังผู้ว่าฯ ให้ช่วยพาไปโรงพยาบาล โดยหลอกว่าไปให้หมอ ตรวจดูเดี๋ยวเดียวก็กลับ ปู่เย็นจึงยอมไป

นายสยุมพร กล่าวว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดูแลปู่เย็นให้ดี และกำชับให้ตำรวจดูแลเรือของปู่เย็นที่จอดเทียบไว้ที่สะพานลำไยอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานคนใกล้ชิดให้ทราบเพื่อนอนเฝ้าอาการต่อไป