Skip to main content
sharethis

การเมือง


ย้ำแก้รธน.ฟื้นชีพ 111 อดีตทรท. สมัครลั่นเป็นรัฐบาลทำแน่


ไทยรัฐ - นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าววันนี้ (23 พ.ย.) ระหว่างปราศรัยหาเสียงบนเวทีย่านห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 กทม. พรรคพลังประชาชน ตอนหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความผิดพลาดในการบริหารประเทศ ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำเป็นหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แต่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี สามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้


 


"หากพรรคพลังประชาชนได้คะแนนเสียง เกิน 300 เสียง และได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพรรคพลังประชาชนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยด่วน เพื่อเปิดโอกาสให้ อดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กลับเข้ามาทำงานด้านการเมืองได้" หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าว


 


 


กกต. เพิกถอนผู้สมัครส.ส.แบบเขตปชป.นนทบุรีโดนด้วย


คมชัดลึก - วันนี้(23พ.ย.)เป็นวันสุดท้ายในการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครส.ส.แบบเขตทั่วประเทศ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ปรากฏว่า ผอ.กกต.เขต ได้มีการประกาศตัดสิทธิ์ผู้สมัคร เนื่องจากพบว่าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเกินกว่า 1 พรรคแล้ว ประกอบด้วย


 


 1. จ.บุรีรัมย์ เขตเลือกตั้งที่ 2 นายสมศักดิ์ สนิทประโคน เบอร์ 34 พรรคไทยร่ำรวย มีชื่อสังกัดพรรคชาติไทย


 


 2. จ.พิจิตร เขตเลือกตั้งที่ 2 นายสันติ ศรีบาง เบอร์ 7 พรรคไทยร่ำรวย มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคชีวิตที่ดีกว่า


 


 3. จ.เพชรบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 นางสาวรุ่งทิพย์ ไพสิทธิ์ เบอร์ 2 พรรคคุณธรรม มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคซ้ำกับพรรคประชาธิปัตย์


 


 4. จ. แพร่ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสมาน บุกบั่น เบอร์ 10 พรรคเพื่อแผ่นดิน เนื่องจากมีชื่อซ้ำเป็นสมาชิกพรรคประชากรไทย


 


 5.กรุงเทพมหานคร เขต 3 นายบัญชา ลาดโนนเมือง เบอร์ 30 พรรคไทยร่ำรวย มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคประชากรไทย


 


 ส่วนที่ ผอ.กกต.เขต ไม่ประกาศเนื่องจากเหตุอื่น ประกอบด้วย 6. จ.ร้อยเอ็ด เขตเลือกตั้งที่ 3 นายไพรวัลย์ ปัตย์ถาทุมภ์ เบอร์ 12 พรรคประชาราช เนื่องจากมีชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในระบบสัดส่วน ในกลุ่มจังหวัดที่ 4 พรรคพลังแผ่นดิน


 


 7. จ.สุรินทร์ เขตเลือกตั้งที่ 3 นายสมบูรณ์ แก้วใส เบอร์ 22 พรรคไทยร่ำรวย เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างถูกศาลเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งตามคำสั่งศาล


 


 8. จ.สมุทรปราการ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายพูลผล แซ่เลี้ยว เบอร์ 21 พรรคไทยร่ำรวย เนื่องจากพบว่าไม่ได้ถือสัญชาติไทย เขตเลือกตั้งที่ 2 นายรุ่งเรือง จามวาศรี เบอร์ 5 พรรคประชากรไทย เนื่องจากศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย


 


 9. จ.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 2 นายพลกฤต นิลณิชวรรณ เบอร์ 30 พรรคไทเป็นไท เนื่องจากไม่ได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลา 5 ปี


 


 10 .จ.นนทบุรี เขตเลือกตั้งที่ 1 นายภทรบท วรวรรณปรีชา เบอร์ 12 พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ เหตุเนื่องจากไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินสมัยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัด


 


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ผอ.กต.เขตอาจจะมีการประกาศตัดสิทธิผู้สมัครเพิ่มเติมในเขต 11 เนื่องจากขณะนี้ ผอ.กต.เขต .ยังไม่ตัดสินใจโดยขอรอตรวจสอบข้อมูลการเป็นสมาชิกพรรคของผู้สมัครจากพรรคการเมืองก่อน โดยเขต 11 ผู้ที่อยู่ในเขตถูกตัดสิทธิ์ประกอบด้วย ว่าที่ พ.ต.นิพนธ์ ซิ้มประยูร เบอร์ 6 พรรคมัชฌิมาธิปไตย มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคประชากรไทย นายธนะ สุขสินธารานนท์ เบอร์ 10 พรรคประชาราช มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย นายกฤษณะ ปิยะชื่นทองกุล เบอร์ 12 พรรคประชาราช มีชื่อซ้ำเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นายฮารูน มูหมัดอาลี เบอร์ 13 นายสุทัศน์ เพ็ชรกูล เบอร์ 14 นายพูลลาภ ยังธินะ เบอร์ 15 จากพรรคชาติไทย มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ นายสมาน แสงอ่อน เบอร์ 20 นายวิศิษฐ์ ดีเป็นธรรม เบอร์ 21 พรรคเพื่อแผ่นดิน มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน นายอุทัย นามวงศ์ เบอร์ 23 พรรคประชามติ มีชื่อเป็นสมาชิกพรรคนำวิถี


 


 


อดีต ผอ.สลากฯ ลั่นไม่จ่าย 2หมื่นล้าน พร้อมสู้คดีหวยบนดินถึงที่สุด


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - นายชัยวัฒน์ พสกภักดี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งถูกระบุในสำนวนลับของ คณะอนุกรรมการไต่สวนการทุจริตโครงการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล 2 ตัว 3 ตัวของ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ(คตส.) ต้องรับชอบทั้งคดีอาญาและต้องรับผิดชอบทางแพ่ง โดยต้องชดใช้เงินให้กับรัฐเป็นเงิน 2 หมื่นกว่าล้านบาท ในฐานะผู้เสนอเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร


 


โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้จะขอต่อสู้คดีจนถึงที่สุด และจะต้องทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุดแน่นอน แต่ก็มั่นใจว่าจะสามารถสู้คดีได้ เพราะที่ผ่านมาได้เตรียมการสู้คดีมานานหลายเดือนแล้วโดยปรึกษากับทนายความมาตลอด หลังจากเข้าไปชี้แจงกับ คตส.ถึงสองรอบและส่งเอกสารไปให้เพิ่มเติมด้วย แต่ก็ไม่เข้าใจการสรุปผลของ คตส.ที่ออกมาเช่นนี้


 


เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการตีความทางกฎหมาย ซึ่งหลายประเด็นที่ คตส.สรุปเช่นการบอกว่ามีการเร่งรัดนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยไม่ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองนั้น หากใช้มาตรฐานดังกล่าวเรื่องที่ผ่านคณะรัฐมนตรีหลายเรื่องจะต้องมีปัญหากฎหมายไปหมด


 


"เรื่องนี้ที่ไม่ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองเพราะนายกฯทักษิณก่อนจะนำเข้าท่านก็เรียกสำนักงานสลากไปคุยหลายรอบ เราก็ร่างวิธีการทำและการออกสลากส่งไปให้คุณวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีและคุณบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดูก่อนเอาเข้าที่ประชุม ครม.พอวันรุ่งขึ้นก็นำเข้าที่ประชุม ครม.เลยเรื่องนี้โดยหลักปฏิบัติมันไม่จำเป็นว่าทุกเรื่องต้องเอาเข้าที่ประชุมกลั่นกรองหมด เพราะกฎหมายไม่ได้เขียนไว้ หลายเรื่องรัฐมนตรีก็นำเข้าเลยแล้วคุยกันก็ออกมาเป็นมติได้"


 


เขากล่าวอีกว่า ตอนที่ไปชี้แจงกับ คตส.เขาก็บอกว่าจะสอบสวนในสองประเด็นคือบอกว่าเราทำผิดวัตถุประสงค์กับเรื่องการไปยกเว้นการเก็บภาษีที่ต้องส่งให้รัฐทำให้รัฐเสียหาย ทั้งที่กฤษฏีกาเขาก็ตีความเรื่องนี้สองครั้งไม่เหมือนกัน คตส.บอกว่าการที่เราเอาเงินไปให้เด็กเป็นทุนการศึกษาไม่เอาเข้าหลวงมันผิดต้องชดใช้สองหมื่นกว่าล้านและในส่วนที่ไปลดหย่อนภาษี จากเดิมที่ต้องเก็บอัตราเต็ม 10 เปอร์เซ็นต์แต่เราไปลดหย่อนให้เหลือ 0.5 คือหายไป 9.5


 


"ตรงนี้การสู้คดีก็สู้แค่สองประเด็นเท่านั้นคือเอาเงินเข้าหลวงไหม ทำตามวัตถุประสงค์ไหม เรื่องนี้ก่อนจะทำมีการคุยกันไว้แล้วตอนเข้าที่ประชุม ครม.ว่าหวยบนดินเป็นสลากการกุศลแน่นอนเพราะรายได้เข้ารัฐ เพราะตอนกฤษฏีกาตีความครั้งแรกก็ตีความแบบกำปั้นทุบดินแต่ตอนหลังมีขยายความอีกครั้ง แล้ว คตส.ก็มาบอกว่าไม่เป็นประโยชน์ ถ้าเราชี้แจงได้ทั้งสองประเด็นข้างต้นแล้วศาลเห็นว่าเราทำถูกก็จบ เพราะเงินก็เข้ารัฐ เงินรายได้ก็ไปให้เด็ก เป็นทุนการศึกษา" อดีต ผอ.สลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าว


 


 


คุณภาพชีวิต


ชาวบ้านทวงเวนคืนรถไฟฟ้าสีม่วง/ขู่ฟ้องศาล


ไทยโพสต์ - เมื่อวันที่ 22 พ.ย.50 ชาวบ้านชุมชนคลองบางไผ่เกือบ 100 คน ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นำโดย พล.อ.กิตติศักดิ์ รัฐประเสริฐ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม เพื่อให้เร่งรัดการจ่ายค่าเวนคืน โดยขอให้มีความชัดเจนภายในวันที่ 30 พ.ย.2550 หากไม่ได้รับคำตอบจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรม


 


อย่างไรก็ตาม วันที่ 25 พ.ย.2550 กลุ่มชาวบ้านจะนัดรวมตัวกันที่วัดเชิงหวาย ในเวลาประมาณ 16.30 น. เพื่อกดดันให้ภาครัฐเข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน


 


ด้านสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการศึกษารูปแบบที่เหมาะสมของระบบรถไฟสายสีแดงช่วงสถานีรถไฟจิตรลดา และช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-มักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 19 กิโลเมตร


 


นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวยการ สนข.กล่าวว่า สนข.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาออกแบบรายละเอียด (ดีเทลดีไซน์) รวม 6 เดือน (ก.ย.50-ก.พ.51) วงเงิน 130 ล้านบาท คาดว่าจะสรุปเสนอขออนุมัติเปิดประมูลก่อสร้างจากรัฐบาลใหม่ และจะก่อสร้างได้ช่วงปลายปี 2551 ซึ่งแบบก่อสร้าง เดิมกำหนดเป็นทางยกระดับและจากการศึกษาพบว่า รูปแบบทางรถไฟที่เหมาะสม คือ ทางรถไฟอยู่ต่ำกว่าระดับดิน ชนิดคลองแห้ง (Open Trench) สอดคล้องกับมติคณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมการก่อสร้างในพื้นที่ชั้นใน เขตพระราชฐาน ซึ่งค่าก่อสร้างเบื้องต้นประมาณ 25,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อเปิดให้บริการ จำนวนผู้โดยสารรวมของโครงข่ายทั้งหมดประมาณ 7 แสนคนต่อวัน


 


 


ลงเอ็มโอยูตั๋วร่วมรถไฟฟ้า


ไทยรัฐ - พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม กล่าวในฐานะประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อการดำเนินงานระบบบัตรโดยสารร่วมในระยะแรก เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2550 ที่กระทรวงคมนาคม ว่า พิธีลงนามในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะทำความเข้าใจร่วมกัน เพื่อการดำเนินงานระบบบัตรโดยสารร่วมในระยะแรก รวมถึงการกำหนดมาตรฐานของระบบบัตรโดยสารร่วม สำหรับระบบการขนส่งมวลชนที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต เพื่ออำนวยประโยชน์ แก่สาธารณชนให้ได้รับความสะดวก และสามารถใช้บัตรโดยสารเพียงใบเดียว ในการใช้บริการกับผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนบีทีเอส และบีเอ็มซีแอล เป็นโครงการนำร่องในการให้ตัวอย่างของความร่วมมือกันของระบบขนส่งมวลชนต่างๆ โดยการพัฒนาและทดลองใช้ในระยะแรก


 


ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน ได้แก่ บีทีเอส บีเอ็มซีแอล กทม. รฟท. รฟม. ได้มีการทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับการดำเนินการ ให้เกิดระบบบัตรโดยสารร่วมจะต้องตั้งอยู่บนหลักการ ที่จะต้องทำให้เป็นระบบมาตรฐานที่สามารถเปิดให้มีผู้ออกบัตรได้หลายราย รวมถึงให้บัตรเดิมที่มีอยู่ของผู้ให้ บริการปัจจุบัน คือ บีทีเอส และบีเอ็มซีแอล สามารถใช้ได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเป็นไปได้ทางเทคนิคด้วย


 


อย่างไรก็ตาม เมื่อดำเนินการต่อไปในอนาคต และคณะกรรมการระบบบัตรโดยสารร่วมซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง มีความเห็นว่าควรกำหนดคุณสมบัติของผู้ออกบัตร หรือจะลดผู้ออกบัตรเหลือเพียงรายเดียว ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้หน่วยงานภาครัฐจะเป็นผู้สนับสนุนให้มีการจัดทำ พัฒนา และกำกับดูแลให้การทดลองใช้ระบบบัตรโดยสารร่วม โดยจะต้องทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้ ในการดำเนินการ มูลค่าการลงทุนในอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็น เพื่อที่จะสามารถลงมือปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอยู่ภายใต้กรอบการพัฒนาระบบ ได้แก่ การพัฒนาระบบเพื่อให้ระบบเดิมของคู่สัญญาสามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเน้นถึงความสามารถในการเปิดให้ระบบการขนส่งมวลชนอื่นสามารถเข้าเชื่อมโยง และเข้าร่วมใช้บัตรโดยสารร่วมได้ ภายใต้มาตรฐานที่กำหนดไว้ และทดสอบการทำงานของการใช้บัตรโดยสารร่วมกันอย่างครบวงจร


 


พล.ร.อ.ธีระกล่าวต่อว่า ในการที่จะพัฒนาระบบนั้น ยังมีความจำเป็นจะต้องพิจารณาถึงการใช้ระบบที่มีอยู่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด และต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและเป็นธรรมกับบีทีเอส บีเอ็มซีแอล และทุกฝ่ายที่จะได้รับผลกระทบ เพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนที่จะได้รับความสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยจากการเดินทาง อันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯให้ดียิ่งขึ้น.


 


 


ศธ.เล็งเปิดสอบ'ซีเน็ท'อุ้มเด็กซิ่ล-ไร้โอเน็ตเข้าม.รัฐ


กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ. ) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) ตนได้หารือกับ รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ,รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดีม.นเรศวร และรองประธาน ทปอ. และ ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิกาคณะกรรมการการอุดมศึกษาแห่งชาติ เพื่อหาทางแก้ปัญหาให้ผู้ที่ไม่สามารถสมัครแอดมิชชั่นได้เพราะเจ้าตัวไม่ได้เข้าสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในปีที่จบม.6 ขณะที่มติ ทปอ.กำหนดให้ใช้คะแนน O-NET ครั้งแรกครั้งเดียวและตรงกับที่ปีที่ตัวเองจบการศึกษาเท่านั้น สำหรับสมัครแอดมิชชั่น ซึ่งมีทั้งหมด 7 กลุ่ม ได้แก่


 


1. นักเรียนที่เรียนจบ ม.6 แล้วออกไปทำงาน ไม่ได้เรียนต่อจึงไม่ได้เข้าสอบ O-NET แต่ภายหลังเปลี่ยนใจต้องการเรียนต่อระดับอุดมศึกษา 2.นักเรียนที่ติด ร หรือติด 0 ในภาคเรียนแรกและคิดว่า ตัวเองจะเรียนไม่มีจบในปีนั้นจึงไม่ได้เข้าสอบ O-NET 3.นักเรียนที่เรียนจบจากต่างประเทศ 4. นักเรียนที่ไปเข้าร่วมโครงการพิเศษต่างๆ ในต่างประเทศ ทำให้ไม่ได้เข้าสอบ O-NET 5.ผู้ที่จบ ม.6 มาแล้วหลายปีซึ่งในขณะที่จบนั้นยังไม่มีการจัดสอบ O-NET 6. นักเรียนที่ป่วยทำให้มาสอบ O-NET ไม่ได้ หรือฝืนมาสอบไหวแต่การป่วยทำให้ทำคะแนนได้ไม่ดีเท่าที่ควร และ 7.ผู้ที่เข้าสอบเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยได้แล้ว แต่อยากเปลี่ยนสาขาเรียนเพราะเพิ่งค้นพบว่า ตัวเองไม่เหมาะหรือไม่ชอบสาขาวิชาที่เรียนอยู่


 


รมช.ศธ. กล่าวอีกว่า ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า ควรจะมีการจัดทดสอบวัดความรู้ขึ้นมาพิเศษอีก 1 ช่องทาง อาจใช้ชื่อว่า C-NET หรือชื่ออื่น เพื่อให้ผู้ที่พลาดโอกาสสอบ O-NET ด้วยเหตุผลต่างๆ หรือเด็กซิลที่ต้องการเปลี่ยนสาขา มาเข้าสอบแล้วนำคะแนนสอบที่ได้ใช้ควบคู่กับคะแนนผลการเรียน สมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย โดยจะขอให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง กั้นโควต้าไว้รับเด็กกลุ่มนี้โดยเฉพาะ แยกออกมาจากการรับผ่านแอดมิชชั่นส์ และในการพิจารณารับผ่านทางนี้ จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป อย่างไรก็ตาม การสอบ C-NET นี้ ห้ามนักเรียนที่เพิ่งจบ ม.6 เข้าสอบเด็ดขาด นักเรียน ม.6 จะต้องเข้าสอบ O-NET และสมัครเข้ามหาวิทยาลัยผ่านแอดมิชชั่นหรือรับตรงเท่านั้น


 


"ในการประชุม ทปอ. วันที่ 15 ธ.ค.นี้ จะมีการนำเรื่องเข้าหารือและขอความเห็นชอบจาก ทปอ. แต่เชื่อว่า ทปอ.น่าจะเห็นด้วย เพราะอย่างอธิการบดี ม.แม่ฟ้าหลวง และอธิการบดี ม.นเรศวรที่เข้าประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ด้วยกัน ต่างก็เห็นด้วย และหากผ่านความเห็นชอบจาก ทปอ.แล้ว เชื่อว่า สามารถจัดสอบ C-NET ได้ทันปีหน้า โดยจะจัดสอบและประกาศผลให้ใกล้เคียงกับการสอบ O-NET ส่วนใครจะเป็นผู้รับผิดชอบจัดสอบนั้น จะพิจารณาภายหลังว่า ควรเป็น สทศ.หรือ สกอ." รมช.ศธ. กล่าว


 


รศ.ดร.วรากรณ์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อมีช่องทางรับนักศึกษาผ่าน C-NET ขึ้นมา จะช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ที่ไม่สามารถสมัครแอดมิชชั่นเพราะไม่มีคะแนน O-NET ซึ่งที่ผ่ านมาไม่เคยมีประตูใดๆ ให้พวกเขาได้มีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัย รวมทั้ง ให้โอกาสผู้ที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วพบว่า ตัวเองไม่ชอบสาขาที่เรียนอยู่ ได้มีโอกาสเปลี่ยนมาเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ ดีกว่าให้พวกเขาทนเรียนต่อไปให้จบซึ่งไมเป็นผลดีสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์


 


"ส่วนที่กลัวกันมา จะเป็นการส่งเสริมให้เด็กพากันทิ้งคณะที่เรียนอยู่ มาสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่นั้น ในความเป็นจริงแล้ว คณะต่างๆ คงไม่มีที่นั่งมากนักสำหรับรับเด็กกลุ่มนี้เข้าเรียน โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยยอดนิยมอาจจะไม่มีที่นั่งเหลือให้สำหรับรับเด็กกลุ่มนี้หรือมีก็น้อยมาก ที่จะพอรับได้มากน่าจะเป็นมหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด" รมช.ศธ. กล่าว


 


ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะการกำหนดให้นักเรียนมีโอกาสสอบ O-NET ได้แค่ครั้งเดียวและในปีที่เขาจบการศึกษานั้น และให้ใช้ O-NET ครั้งแรกครั้งเดียวสมัครแอดมิชชั่นส์นั้น เป็นการปิดโอกาสเด็กมากเกินไป จะต้องหาช่องทางอื่นให้เด็กที่มีปัญหาคะแนน O-NET สามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นทางออกที่ดีและไม่กระทบต่อแอดมิชชั่นส์ด้วย


 


"ส่วนที่เกรงว่าเด็กกลุ่มนี้จะไปแย่งที่เด็กที่เข้ามหาวิทยาลัยผ่านแอดมิชชั่นนั้น จริงๆ แล้ว ความยุติธรรม หมายถึงทุกคนได้สิทธิสมัครเข้ามหาวิทยาลัยอย่างทัดเทียมกัน ไม่ได้หมายถึงสิทธิในการจองที่นั่งเรียน เพราะฉะนั้น เมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งไม่มีโอกาสสมัครเข้ามหาวิทยาลัยเช่นเดียวกันคนกลุ่มอื่น การแก้ไขให้เขามีสิทธิเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว" รมว.ศธ. กล่าว


 

 


เปลี่ยนเครื่องแบบตร.สไตล์ใหม่รับโลกร้อน


คมชัดลึก-การประชุมฝ่ายบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา มีเรื่องให้ฮือฮาอีกครั้ง เมื่อ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งเป็นประธานการประชุม มีแนวคิดเปลี่ยนเครื่องแบบตำรวจแบบใหม่ พร้อมนำตัวอย่างเครื่องแบบดังกล่าวให้นายแบบลองสวมใส่ด้วย เพื่อให้ตำรวจไทยสวมใส่ให้เข้ากับสภาวะโลกร้อน


 


 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเพิ่มใหม่ ที่ผ่านมาตำรวจมีชุดเครื่องแบบหลักสีกากีที่เห็นๆ กันอยู่ในปัจจุบัน แต่บ้านเราเป็นเมืองร้อน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงาน เช่น ตำรวจจราจร ใส่แขนยาว สวมหมวกปฏิบัติหน้าที่ก็จะร้อนและมีปัญหาต่อสุขภาพร่างกาย เจ้าหน้าที่ธุรการทั่วไปใส่เครื่องแบบก็ร้อน ไม่กระชับเวลานั่งทำงาน เมื่อร้อนก็เปิดแอร์มาก ทำให้เปลืองพลังงานอีก จึงให้ช่วยกันพิจารณาชุดตำรวจแบบใหม่เพิ่มเข้ามา เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ควบคู่กับชุดเดิม เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานคล่องตัว โดยหาเสื้อบางๆ ผ้าบางๆ สีกากีนวลๆ กางกางก็เป็นสีดำ หรือสีกากี ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นสอบถามหัวหน้าหน่วยทุกหน่วย


 


 ขณะเดียวกัน ในส่วนเครื่องหมายต่างๆ ที่ใช้ติดเครื่องแบบ ผบ.ตร. บอกว่า ก็กำลังพิจารณาว่าจะปักติดไปเลย หรือใช้ตีนตุ๊กแก ถอดเข้าออกได้ ส่วนหมวกใช้หมวกเบเร่ต์ รองเท้าก็ไม่ใช่คอมแบต แต่เป็นรองเท้ายางดูดีเพื่อความคล่องตัว เมื่อตกลงใจได้ผ่านมติทุกอย่างก็จะใช้เงินสวัสดิการซื้อผ้ามาตัดใช้ได้ ซึ่งยังไม่ทราบงบประมาณว่าต้องใช้เงินเท่าใด แต่ตำรวจทำได้อยู่แล้ว เครื่องแบบนี้ใช้ได้ทุกระดับ ใส่ได้ตลอดเวลา ถ้าผ่านการประชุมก็สั่งซื้อผ้าตัดได้เลย


 


"ผมคิดว่าไม่มีการต่อต้าน เพราะผ่านการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาทุกท่าน ซึ่งเท่าที่ฟังก็เห็นด้วย ถ้าใครเห็นอย่างไรสามารถเสนอแนะติชมได้ ผมเองก็ใส่ได้ แต่คงไม่ได้ใส่บ่อย เครื่องแบบใหม่ก็คงใช้เวลาไม่นาน ก่อนผมเกษียณก็น่าจะนำมาใช้ได้ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความประหยัด และก็เป็นส่วนช่วยเรื่องโลกร้อนด้วย ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยและให้เสนอแนะว่ารองเท้า เข็มขัด จะเป็นแบบไหน" ผบ.ตร. กล่าว


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงการประชุมดังกล่าว มีตำรวจ 2 นายทดลองแต่งเครื่องแบบใหม่ที่คาดว่าจะนำมาใช้ เพื่อนำมาแสดงเป็นตัวอย่างต่อสื่อมวลชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมประชุม เพื่อให้ร่วมพิจารณาเสนอแนะความคิดเห็นเพิ่มเติม


 


เศรษฐกิจ


"ยำยำ-ไวไว" ขยับขึ้นราคาตาม "มาม่า" ซองละ 1 บาท


ผู้จัดการออนไลน์ -นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้หารือร่วมกับผู้บริหารบริษัท วันไทยอุตสาหกรรมอาหาร ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา ยำยำ และบริษัท ผลิตภัณฑ์ อาหารไทย หรือ ไวไว ในเรื่องการขอปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นอีกซองละ 1 บาท โดยหลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ประกอบการมีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจริงจากราคาวัตถุดิบหลัก ซึ่งประกอบไปด้วย แป้งสาลี และน้ำมันปาล์มโดยมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากเดิมซองละ 1.04 บาท เป็นซองละ 1.79 บาท และเมื่อรวมกับวัตถุดิบชนิดอื่นรวมทั้งค่าบริหารจัดการทำให้ผู้ประกอบการไม่คุ้มทุน จึงอนุมัติให้สามารถปรับราคาสินค้าได้ซองละ 1 บาท หลังเทศกาลปีใหม่ หลังจากเมื่อวานนี้ได้อนุมัติให้ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา "มาม่า" ปรับขึ้นราคาไปแล้ว 1 บาทเช่นกัน โดยให้ปรับขึ้นราคาได้ตั้งแต่ปีใหม่ เป็นต้นไป


 


ทั้งนี้ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบหลังสูงขึ้นถึง 72% โดยแป้งสาลี่สูงขึ้น 67% และน้ำมันพืชสูงขึ้นเกือบ 100% ทำให้มีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 1.79 บาท/ซอง หรือเพิ่มขึ้น 0.75 บาท/ซอง จากต้นทุนเดิม 1.04 บาท


 


นายยรรยง กล่าวต่อว่า การอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาครั้งนี้ต้องการให้ผู้ประกอบการอยู่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้นจริง ขณะที่มีส่วนเหลื่อมกำไรเพียงแค่ 6% เท่านั้น หากไม่ให้ปรับขึ้นราคาผู้ประกอบการอาจฉวยโอกาสปรับลดคุณภาพสินค้า ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบอยู่ดี


 


กรมการค้าภายในได้อนุมัติให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรายใหญ่ 3 ราย ปรับขึ้นราคาขายครบแล้ว โดยมาม่ามีส่วนแบ่งการตลาด 52% ยำยำ 25% และไวไว 22% และเชื่อว่า คงไม่มีรายอื่นอีก


 


นอกจากนี้ อธิบดีกรมการค้าภายใน ยังกล่าวอีกว่า ทางกรม ได้ยื่นข้อเสนอให้กับทั้ง 2 บริษัท ได้ทำตามเช่นเดียวกับ "มาม่า" โดยตรึงราคาไปอย่างน้อย 5 ปี และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้ผู้บริโภค ไม่ต้องซื้อสินค้าเต็มราคา


 


 


"ปิยสวัสดิ์" ยืนยันไม่ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง


 ผู้จัดการออนไลน์ -นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานยังไม่ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเข้ามาแทรกแซงราคา หลังราคาน้ำมันดีเซลจ่อใกล้ลิตรละ 30 บาท เพราะจะเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นเท่านั้นและสุดท้ายประชาชนจะต้องใช้ราคาน้ำมันที่สูง พร้อมกับแนะให้ผู้ประกอบการขนส่งหันใช้ไบโอดีเซลและก๊าซเอ็นจีวีทดแทน


 


สำหรับสถานการณ์ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ภายในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นใกล้ถึงระดับลิตรละ 30 บาท เป็นไปตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


 


รมว.พลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้เร่งสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีในภาคการขนส่งทั้งการเร่งขยายเครือข่ายปั๊มเอ็นจีวีให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศและส่งเสริมเงินในการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์สำหรับรถแท็กซี่และตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีที่กิโลกรัมละ 8.50 บาทต่อไปจนถึงเดือนธันวาคม 2551


 


ด้าน นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า กรมธุรกิจพลังงานได้เฝ้าติดตามสถานการณ์การลักลอบนำเข้าและส่งออกน้ำมันในช่วงราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบสิ่งผิดปกติเพราะราคาน้ำมันในประเทศก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามราคาน้ำมันในตลาดโลก


 


ส่วนกรณีการเร่งก่อสร้างปั๊มเอ็นจีวีนั้นได้เพิ่มในส่วนสถานที่ราชการ 10 แห่ง และก่อสร้างปั้มเอ็นจีวีขนาดใหญ่เพื่อรองรับความต้องการของรถบรรทุกไม่ให้มาใช้กับปั้มของรถแท็กซี่ และได้สั่งการให้ บมจ.ปตท.(PTT) เร่งการจัดส่งเอ็นจีวีให้เพียงพอกับความต้องการ โดยยืนยันว่ามีก๊าซเอ็นจีวีเพียงพอกับความต้องการของประชาชน


 


 


เทมาเซคตั้งกฎลงทุนต่างชาติเลี่ยงกระทบความรู้สึกชาตินิยม


คมชัดลึก - หนังสือพิมพ์เดอะ สเตรท ไทม์ส ของสิงคโปร์ รายงานเมื่อวันศุกร์ (23 พ.ย.) อ้างคำพูดของนายเอส ธนาบาลัน ประธานบริษัทเพื่อการลงทุนเทมาเซค โฮลดิ้ง ที่รัฐบาลสิงคโปร์ถือหุ้นอยู่ ได้ประกาศยุทธศาสตร์ "คราดสามง่าม" เป็นยุทธศาสตร์ใหม่ในการลงทุนข้ามชาติ โดยจะเพิ่มความระมัดระวังไม่ให้กระทบความรู้สึกด้านชาตินิยมของประเทศนั้นๆ ที่ต่อต้านกองทุนข้ามชาติ จนกลายเป็นปัญหาที่ท้าทายมากขึ้น


 


นายธนาบาลัน กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ข้อแรกคือ หลีกเลี่ยงไม่ถือครองหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ซึ่งอาจทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากความรู้สึกชาตินิยม เช่น กรณีของไทยที่เทมาเซคได้เข้าซื้อหุ้น 49% ของชินคอร์ปจากครอบครัวของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ด้วยมูลค่าราว 7 หมื่นล้านบาท โดยไม่เสียภาษี ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และการประท้วงจนนำไปสู่การปฏิรูปการปกครองเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ยิ่งกว่านั้น ข้อตกลงซื้อหุ้นยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสิงคโปร์ด้วย


 


ส่วนยุทธศาสตร์ข้อสอง คือ การมองหาพันธมิตรท้องถิ่นที่จะร่วมลงทุน และสามคือ การเลือกที่จะถือหุ้นส่วนน้อยเมื่อต้องการลงทุนในบริษัทที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ


 


ทั้งนี้ เทมาเซคประกาศแนวทางการลงทุนข้ามชาติหลังจากที่คณะกรรมการกำกับการแข่งขันทางธุรกิจของอินโดนีเซีย ระบุว่า เทมาเซคทำผิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดด้วยการลงทุนในบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่สุด 2 แห่งของอิเหนา แต่เทมาเซคยืนกรานว่าไม่ผิด เช่นเดียวกับการซื้อหุ้นชินคอร์ป


 


ต่างประเทศ


อาเซียน-อียูชื่นมื่นปิดซัมมิต


ไทยรัฐ - การประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ครั้งที่ 13 ร่วมกับหุ้นส่วนการเจรจาอื่นๆที่สิงคโปร์ ปิดฉากลงเมื่อ 22 พ.ย. โดยวันเดียวกัน ผู้นำอาเซียน 10 ชาติได้ร่วมประชุมสุดยอดกับเหล่าผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) 27 ชาติ เพื่อรับรองแผนปฏิบัติการ 5 ปี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงและการค้า และผลักดันข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างกันภายในสิ้นปี 2552


 


ในแถลงการณ์ร่วม ผู้นำอาเซียนและอียูได้เรียกร้องให้เร่งส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้า และให้รัฐบาลทหารพม่าเร่งปฏิรูปประชาธิปไตย ปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด รวมทั้งนางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้าน แต่ไม่ได้ระบุเวลา แต่อย่างใด ฝ่ายอียูยังแสดงความยินดีที่รัฐบาลพม่าเริ่มเจรจากับนางซูจีมากขึ้น และเตือนว่า ข้อตกลงการค้าเสรียังมีอุปสรรคหลายอย่าง รวมทั้งปัญหาเรื่องกฎหมาย รักษาความลับของธนาคารและปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนพม่า


 


อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเจรจาของรัฐมนตรีด้านการค้า ทั้งอาเซียนและ อียูยืนยันจะไม่ตัดพม่าออกจากเวทีเจรจาการค้าเสรี ขณะที่นายกรัฐมนตรี ลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์ ยืนยันว่า ภูมิภาคอาเซียนต้องก้าวเดินไปข้างหน้าโดยต้องไม่ปล่อย ให้ข้อถกเถียงเรื่องพม่ามาเป็นอุปสรรค แม้เรื่องพม่าจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับอียูต้องไม่ถูกปัญหาพม่าจับเป็นตัวประกัน.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net