วันที่ 12 ก.ย.50 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. กล่าวว่า ในฐานะประธาน คมช. มีคนบอกว่า ประธานคมช. จะสืบทอดอำนาจ เขาขอบอกว่า จะสืบทอดอำนาจ แต่จะสืบทอดด้วยคุณธรรมเท่านั้น การทำปฏิวัติรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 ซึ่งจะครบ 1 ปี ของ คมช. ซึ่งผลงานของ คตส. ได้ดำเนินการมาถึง 15 โครงการที่เกิดการทุจริตของรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งเห็นแน่ชัดว่า สิ่งที่เราทำไปนั้น สมเหตุสมผล เพราะมีการทุจริตค่อนข้างสูงมาก และมีการครอบงำองค์กรอิสระ การแทรกแซงบริหารจัดการ ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าไม่มี 19 ก.ย.49 เขาก็ไม่แน่ใจว่า ประเทศไทยจะเกิดอะไรขึ้น
พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เมื่อมี 19 ก.ย. 49 ก็จะนำไปสู่วันที่ 23 ธ.ค.50 คือการเลือกตั้ง เพื่อนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตย ซึ่ง 1 ปี ในการทำงานของ คมช. เราเตรียมที่จะแถลงผลงาน ซึ่งจะเป็นการนำเสนอในรูปแบบใหม่ แต่ขณะนี้ ยังบอกไม่ได้
สำหรับแนวทางหลังเกษียณอายุราชการ พล.อ.สนธิกล่าวว่า แนวทางทางการเมือง ต้องพิจารณาจาก 3 ปัจจัย คือ แนวร่วม กองกำลัง และเงินทุนสนับสนุน ถ้า 3 ตัวนี้ ดูแล้วเข้มแข็ง ก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน หากพรรคการเมืองในอนาคต มีความจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง และสามารถสร้างพลังอำนาจของชาติให้เข้มแข็งได้ เขาก็จะถอยออกไป แต่ไม่ถึงจุดนั้น ก็ค่อยว่ากันอีกที โดยเขาจะดูว่า มีพรรคไหนที่ได้รับการสนับสนุน เช่น ในแง่ของเงินทุน ที่นักการเมืองว่ากันมา หรือมี ส.ส. สมาชิกเท่าไหร่ และดูว่า หากสู้จะสู้ได้หรือไม่
-----------------------------------------------
ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com