Skip to main content
sharethis

"สนธิ" ย้ำ ผบ.ทบ.คนใหม่ "ดีมาก่อนเก่ง" ผบ.ทร.ระบุการตัดสินใจเลือก ผบ.ทบ.ใหม่ควรให้สิทธิ ผบ.ทบ.เป็นผู้ตัดสิน เชื่อโผย้ายทหารไม่มีปัญหา และไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมือง นักวิชาการ-องค์กรเอกชนประกาศหนุน "สพรั่ง"


 



ในที่สุด การแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) คนใหม่ ซึ่งจะขึ้นดำรงตำแหน่งแทน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่จะเกษียณในวันที่ 30 กันยายน ก็ลงตัว โดยแหล่งข่าวระดับสูงจาก ทบ. เผยว่า พล.อ.สนธิ ตัดสินใจเลือก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผช.ผบ.ทบ. จาก ตท.10 ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนที่ 36 โดยในช่วงเช้า ก่อนจะลงนามในบัญชีรายชื่อการปรับย้ายนายทหารประจำปี 2550 ในส่วน ทบ.ว่าใครจะเป็น ผบ.ทบ.นั้น  พล.อ.สนธิ ได้เรียก พล.อ.อนุพงษ์ ไปหารือเป็นการส่วนตัวกว่า 10 นาที ก่อนที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม


 



"ปัจจัยหลักที่ พล.อ.สนธิ ยอมตัดสินใจเสนอชื่อพล.อ.อนุพงษ์ เพราะผู้ใหญ่หลายฝ่ายทั้งพล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี รวมทั้งบุคคลระดับสูงได้เสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมจะขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ในห้วงสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ โดยได้ระบุชื่อพล.อ.อนุพงษ์" แหล่งข่าว ระบุ


 



"สนธิ" จัดแถวลุยการเมือง


การเลือกพล.อ.อนุพงษ์ ทั้งที่พล.อ.สนธิ ต้องการเสนอชื่อ พล.อ.มนตรี ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. แต่ก็ไม่สามารถที่จะค้านได้ ทำให้ พล.อ.สนธิ ได้ขอให้ พล.อ.อนุพงษ์ เสนอรายชื่อขึ้นมา 1 คนเพื่อมานั่งร่วมทำงานในตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ได้เสนอชื่อ พล.อ.ธีระวัฒน์ บุญยประดับ เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 เข้ามาทำหน้าที่ ผช.ผบ.ทบ. ขณะนี้โผการปรับย้ายทั้งหมด พล.อ.สนธิ เป็นผู้จัดแจงจัดแถวเองทั้งหมด


 



แหล่งข่าวรายงานว่า หลังที่ พล.อ.สนธิ ตัดสินใจเลือก พล.อ.อนุพงษ์ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ก็มีการวิเคราะห์ว่า พล.อ.สนธิ จะต้องลงเล่นการเมืองอย่างแน่นอน เพราะ พล.อ.อนุพงษ์  จะมีเวลานั่งในตำแหน่ง ผบ.ทบ.ถึง 3 ปี เพราะจะเกษียณในปี 2553 ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ เป็นนายทหารที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในวันการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549


 



แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า พล.อ.สนธิ ยังได้โยก พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผช.ผบ.ทบ. ไปเป็น รองปลัดฯ กลาโหม และโยก พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสธ.ทบ. เป็น รองผบ.สส. ขณะที่ตำแหน่ง 5 เสือ ทบ.ที่ พล.อ.สนธิ ได้จัดแถวก่อนเสนอรายชื่อไปยัง รมว.กลาโหม ได้แก่ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์ ผบ.สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ข้ามกลับมาเป็น รอง ผบ.ทบ. พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็น ผช.ผบ.ทบ. พล.ท.ธีระวัฒน์ บุญยประดับ เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก เป็น ผช.ผบ.ทบ. พล.อ.มนตรี ชมภูจันทร์ รองเสธ.ทบ. เพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.สนธิ เป็น เสธ.ทบ.


 



พล.อ.จิรพงศ์ วรรณรัตน์ ผคท.พิเศษ ทบ. เป็น ประธานที่ปรึกษา ทบ.(อัตราจอมพล) พล.ต.ต่อศักดิ์ คงเมือง ผช.เสธ.ทบ.ฝกพ. เป็นที่ปรึกษาพิเศษ ทบ.(อัตราพลเอก) พล.ท.กมล แสนอิสระ ผบ.รร.จปร.เป็น ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ.(อัตราพลเอก) พล.ท.กิตติพงษ์ เกษโกวิท รองเสธ.ทบ.เป็น หัวหน้า ฝสธ.ประจำผู้บังคับบัญชา พล.ท.จริยะ ทองทับ ผช.เสธ.ทบ.ฝกร.เป็น รองเสธ.ทบ.


 



พล.ท.บดินทร์ ลักษมีวาสิน ผช.เสธ.ทบ.ฝกบ.เป็น รองเสธ.ทบ. พล.ต.ทวนชัย พันธุ์เพิ่มศิริ รองเจ้ากรมทหารช่าง เป็น ผช.เสธ.ทบ.ฝกบ. พล.ต.อรุณ สมตน จก.กพ.ทบ. เป็น ผช.เสธ.ทบ.ฝกพ. พล.ต.กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก เป็น ผช.เสธ.ทบ.ฝกร. พล.ต.อดุล อุบล ผบ.พล.ร.9 เป็น จก.ยศ.ทบ. พล.ต.คำนวณ เธียรประมุข รองเจ้ากรมสรรพาวุธ ทบ. เป็น เจ้ากรมสรรพาวุธ ทบ. พล.ต.วิลาส เย็นบำรุง เป็น รองเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก


 



พล.ต.สำเริง ศิวาดำรง รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็น แม่ทัพน้อยที่ 3 พล.ต.กสิกร คิรีศรี รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็น แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.พิเชษฐ วิสัยจร รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็น แม่ทัพน้อยที่ 2 พล.ต.ดุลกฤต รักษ์เผ่า รองแม่ทัพภาคที่ 1 เป็น ที่ปรึกษา ทบ. พล.ต.จิรชัย เดชดำรง รองแม่ทัพน้อยที่ 1 เป็น ที่ปรึกษา ทบ.(อัตราพลโท)


 



พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ผบ.พล.1 รอ. เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.จิระเดช โมกขะสมิต ผบ.บชร.1 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ฤทธิ์ไกร อุ่นพันธ์ ผบ.มทบ.13 เป็น รองแม่ทัพน้อยที่ 1 พล.ต.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.มทบ.11 เป็น ผบ.พล.1 รอ. พล.ต.อุทิศ สุนทร ผบ.จทบ.เพชรบุรี เป็น ผบ.มทบ.11 พล.ต.องอาจ คงศักดิ์ เสธ.ทน.1 เป็น ผบ.พล.ร.9 พ.อ.ธวัชชัย นุ่มนิ่ม เป็น เสธ.ทน.1


 



พ.อ.วินัย สร้างสุขดี รองผบ.มทบ.14 เป็น ผบ.มทบ.14 พ.อ.วิเชียร มัญญะหงส์ รองผบ.มทบ.13 เป็น ผบ.มทบ.13 พ.อ.อุกฤษณ์ ณรงค์วิทย์ รองผบ.มทบ.11 เป็น ผบ.บชร.1 พ.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รองผบ.พล.1 รอ. เป็น ผบ.จทบ.เพชรบุรี พล.ต.ธวัชชัย สมุทรสาคร ผบ.พล.ร.6 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.พจน์ เหรียญมณี ผบ.มทบ.21 เป็น รองแม่ทัพน้อยที่ 2 พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผบ.จทบ.บุรีรัมย์ เป็น ผบ.พล.ร.6 พล.ต.ต่อศักดิ์ เหลืองตระกูล ผบ.จทบ.สุรินทร์ เป็น ผบ.มทบ.21


 



พล.ต.ชัยณรงค์ ธนารุณ ผบ.พล.ร.4 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ต.ชาญชัย นาคประไพ เสธ.ทภ.3 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 3 พ.อ.เอนก อินทร์อำนวย รองเสธ.ทภ.3 เป็น ผบ.พล.ร.4 รอ. พ.อ.ธงชัย เทพารักษ์ รองผบ.มทบ.33 เป็น เสธ.ทภ.3 พล.ต.กิตติ อินทรสร ผบ.มทบ.42 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.เดชา กิ่งวงษา ผบ.จทบ.สุราษฎร์ธานี เป็น ผบ.มทบ.42 พล.ต.เอกนันท์ รัตนโสภา ผบ.มทบ.14 เป็น เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก พ.อ.สุชาติ หนองบัว รองจก.กพ. เป็น จก.กพ.


 



นายกฯ ให้รอโปรดเกล้าฯ


ก่อนหน้านี้ เมื่อเช้าวันที่ 11 กันยายน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่าช่วงเช้า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้พบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และได้รับแจ้งจาก ผบ.ทบ. ว่าได้ส่งบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีของกองทัพบก ไปยัง พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์  ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) แล้ว ซึ่งจากนี้ไป ก็รอขั้นตอนต่างๆ ซึ่งโดยขั้นตอนแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะส่งรายชื่อมาให้นายกฯ ต่อไป


 



ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุป พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรายชื่อ เมื่อถามว่า กำหนดเส้นตายหรือไม่ว่าต้องส่งรายชื่อถึงนายกฯ วันไหน พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้กำหนด เพราะทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องทำให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนกันยายน เพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ให้ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และถึงแม้รายชื่อจะมาถึงตน  ตนก็พูดไม่ได้ ต้องรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งก่อน


 



ต่อข้อถามว่า หากเสนอรายชื่อมา จะมีโอกาสเปลี่ยนแปลงรายชื่อหรือไม่  นายกฯ กล่าวว่า หากมีอะไรก็น่าจะคุยกันก่อนได้ ส่วนคำถามที่ว่า จะยืนยันรายชื่อตามที่ ผบ.ทบ.ส่งมาใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรายชื่อ และตอบคำถามที่ว่า จะนำรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายขึ้นทูลเกล้าฯ ได้วันไหน ว่ายังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้รับรายชื่อ หากได้รับแล้วรายชื่อไม่มีปัญหา ก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ


 



เรียกรมว.กห.-ผบ.ทบ.หารือนอกรอบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าก่อนประชุม ครม. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์  นายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม และ พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. เข้าหารือเป็นการส่วนตัว โดยใช้เวลาไม่นานนัก ซึ่งคาดว่า เป็นการหารือเกี่ยวกับรายชื่อ ผบ.ทบ.คนใหม่ จากนั้นทั้งสามคนก็กลับเข้าไปในห้องประชุมและใช้เวลาประชุมนอกรอบ 1 ชั่วโมง


 



ส่วนการประชุม ครม.นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนใหญ่จะใช้เวลาหารือเรื่องการแผนงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเร่งรัดการเบิกจ่าย โดยกล่าวเรื่องนี้ว่า อย่าเร่งรัดจนเกินไป มันอาจไม่เกิดผลดี เพราะกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว การลงทุนต่างๆ ก็ไปดูให้ดี


 



มีรายงานว่า ในที่ประชุม ครม. มีรัฐมนตรีบางคนพูดว่า มีข่าวว่า ครม.หลายคนไม่ทำงาน ใส่เกียร์ว่าง หลังจากที่รัฐธรรมนูญผ่านประชามติ ทำให้มีบางคนบ่นว่า ครม.ทุกคนก็ทำงานกันหนัก จนอึดอัด ทั้งๆ ที่บางกระทรวงก็มีผลงาน เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม มีแผนงานการลงทุน กระทรวงคมนาคม มีโครงการรถไฟฟ้า จึงไม่ควรจะกล่าวหากันแบบนี้


 



"สนธิ"ย้ำ"ดีมาก่อนเก่ง"


เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. เปิดเผยก่อนเดินทางไปประเทศเวียดนาม เพื่ออำลาตำแหน่งว่า ได้ส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปีในส่วนของกองทัพบกไปแล้ว โดยส่งไปสักประมาณ 2-3 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งส่งสำเนาไปทุกทาง ทั้งที่ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส.


 



ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เสนอชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่ไปเพียงคนเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "คนเดียวซิ" ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในการพบกับนายกรัฐมนตรีก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเช้านี้ มีการหารือเรื่องโผทหารอย่างไรบ้าง พล.อ.สนธิ ตอบว่า ส่วนใหญ่ก็จะเล่าเรื่องให้ฟังว่ากองทัพบกคิดอย่างไร ให้ได้รับทราบแนวความคิดของการบริหารกองทัพต่อไป


 



เมื่อถามว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีทราบหรือยังว่าผู้จะมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.คนใหม่เป็นใคร พล.อ.สนธิ นิ่งไปสักครู่ แล้วหัวเราะ ก่อนตอบว่า "ทุกคนคงอยากรู้ว่าผมจะบอกหรือไม่บอก เอาเป็นว่าไปถามท่านนายกฯ เองดีกว่า"


 



ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อที่เสนอไปใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "อันนี้แล้วแต่ท่าน" เมื่อถามต่อว่า รายชื่อที่เสนอขึ้นไปตัดสินใจเอง หรือได้มีการคุยกันก่อน พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "เราคุยกันก่อน สื่อมวลชนก็คงได้รับทราบข่าวสารมาพอสมควร"


 



เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และ พล.อ.สนธิ เห็นพ้องต้องกันในการเลือกผู้นี้ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.อย่างเป็นเอกฉันท์หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ก็คิดเหมือนกัน ในการที่จะทำให้กองทัพมีความเข้มแข็ง และเมื่อถามว่า  ผบ.ทบ.คนใหม่มีคุณสมบัติอย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เคยบอกไปแล้วว่า บู๊ และบุ๋น ผู้สื่อข่าวถามว่า คนดี คนเก่ง เกี่ยวข้องหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า  "ต้องเก่งมาก่อนดี" ก่อนที่จะบอกว่าตนพูดผิด โดยกล่าวว่า "ดี มาก่อนเก่ง"



 


ต่อข้อถามว่า เป็น 1 ใน 2 คน คือ พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.มนตรี ที่ยืนอยู่ด้านหลัง พล.อ.สนธิ หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "ถามเขาดูซิ" เมื่อถามว่า เห็นวันนี้ พล.อ.สนธิ อารมณ์ดี แสดงว่าปลดล็อกหัวใจตัวเองได้แล้วว่าเลือกใคร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "ไม่ใช่ คิดผิดอีกแล้ว แต่ไม่บอกแล้วกัน อยู่ในใจ"


 



เมื่อถามว่า ผลพวงที่จะตามมาหลังจากมีการเลือก ผบ.ทบ. เช่น กรณีของ  พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ที่มีกลุ่มพันธมิตรหนุนหลัง จะเคลียร์อย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าใครจะได้"


 



ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มพันธมิตรจะแถลงใหญ่เพื่อกดดันกองทัพ หาก พล.อ.สพรั่ง ไม่ได้ตำแหน่ง ผบ.ทบ. พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "ไว้ให้โปรดเกล้าฯ ลงมาก่อนถึงจะรู้ เราเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าออกมารูปไหน"


 



เมื่อถามย้ำว่า หากยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ แสดงว่าโผสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "ใช่ เปลี่ยนแปลงได้ตลอด จนกว่าจะโปรดเกล้าฯ ลงมา" ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แสดงว่ายังไม่ชัดเจน พล.อ.สนธิ กล่าวว่า "ก็ใช่ ต้องรอ" ผู้สื่อข่าวซักว่า เป็นตัวอักษร ม.ม้า หรือ อ.อ่าง กันแน่ พล.อ.สนธิ กล่าวติดตลกว่า ส.เสือ พร้อมขยายความว่าเป็น "สนธิ"


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเดินทางไปประเทศเวียดนามเพื่ออำลาตำแหน่งครั้งนี้ มีเพียง พล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.มนตรี ที่มาส่ง ขณะที่ไม่มี พล.อ.สพรั่ง มาส่งด้วย โดย พล.อ.มนตรี มีสีหน้าเคร่งเครียด ไม่ยิ้มแย้ม ทักทายผู้สื่อข่าวเหมือนครั้งก่อน ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ ยังคงนิ่งเฉย และปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ ต่างจาก พล.อ.สนธิ ที่อารมณ์ดี ให้สัมภาษณ์กลั้วหัวเราะตลอดการให้สัมภาษณ์ ซึ่งต่างจากช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้


 



ผบ.สส.เผยรับชื่อโผแล้ว


พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. ให้สัมภาษณ์ถึงโผบัญชีรายชื่อการปรับย้ายนายทหารในส่วนกองทัพบก ว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ได้ส่งโผมาให้เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 กันยายน  โดยให้นายทหารนำรายชื่อบัญชีการปรับย้ายนายทหารในส่วนกองทัพบกมายัง บก.สส.เรียบร้อยแล้ว  โดยรายชื่อทั้งหมดรวมถึงตำแหน่ง ผบ.ทบ.ก็อยู่ในโผบัญชี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ และบ่ายวันนี้ตนจะนำส่งให้ พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ส่วนของกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ได้ส่งมาตั้งแต่วันที่ 10 กันยายนแล้ว


 



ด้าน พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาปรับย้ายนายทหารในส่วนของกองทัพเรือ ว่าได้ส่งบัญชีรายชื่อให้  ผบ.สส.ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่  10 กันยายน  คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนที่มีความพยายามเชื่อมโยงการพิจารณาแต่งตั้งในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ให้เกี่ยวข้องกับการเมืองนั้น ส่วนตัวเห็นว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เพราะผู้ที่จะมาเป็น ผบ.ทบ. ต้องทำหน้าที่ในส่วนของกองทัพบก ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเมือง


 



เมื่อถามว่าการตัดสินใจเลือก ผบ.ทบ.ใหม่ในส่วนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องและก้าวก่ายการพิจารณาของ พล.อ.สนธิ ใช่หรือไม่ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว เพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของ ผบ.ทบ. ที่จะพิจารณาคนที่จะมารับหน้าที่ต่อ คนอื่นอาจให้ข้อเสนอแนะได้ แต่ไม่สมควรจะมาผลักดัน และที่ผ่านมา พล.อ.สนธิ ก็รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย


 



นักวิชาการหนุน"สพรั่ง"


วันเดียวกัน สมาคมสภาธรรมทานสื่อสีขาว และองค์กรความร่วมมือเพื่อไทยฝ่าวิกฤติ จัดสัมมนาหัวข้อ "อนาคตของประเทศไทยกับการแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบกในวิกฤติปัจจุบัน" โดยมีนายคณิน บุญสุวรรณ อดีต ส.ส.ร. และนักวิชาการอิสระ นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อดีต ส.ส.ร. นางฐิติปิยลักษณ์  โชคชัยกุล นายกสมาคมสภาธรรมทานสื่อสีขาว พล.ต.ต.รุ่งโรจน์  เภกะนันท์ นายกสมาคมสันติสุขโลก นายพสุธร เอมอุดม ชมรมข้าราชการบำนาญรักชาติ ร่วมกันอภิปราย


 



นายคณิน กล่าวว่า ตั้งแต่มีการทำรัฐประหาร มีคนบอกว่าเป็นการทำรัฐประหารที่สำเร็จ แต่ความจริงคือล้มเหลว บ้านเมืองยังไม่สงบ ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังแก้ไขไม่ได้  รวมถึงการคอรัปชั่นยังไม่หมดไป ฉะนั้นคนที่ทำรัฐประหารไม่ควรได้รับรางวัล โดยเฉพาะการให้อำนาจ ผบ.ทบ.คนปัจจุบันแต่งตั้ง ผบ.ทบ.คนใหม่ ยามที่ประเทศชาติวิกฤติ ฉะนั้น ผบ.ทบ.คนใหม่จะต้องไม่เป็นหนี้บุญคุณ ผบ.ทบ.คนเดิม เพราะถ้า ผบ.ทบ.คนเดิมได้รับตำแหน่งทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อกองทัพในอนาคต


 



"ผบ.ทบ.คนใหม่จะต้องเป็นคนที่กล้าหาญ มุ่งมั่น เสียสละ ต้องแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ภายใน 1 ปี ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ก็ไม่สมควรมาเป็น ซึ่งเรื่องนี้ ผบ.ทบ.คนใหม่ควรจะเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เพราะเท่าที่ดูรัฐธรรมนูญปี 2550 จะเห็นว่า นายกรัฐมนตรีคนต่อไปก็แก้ไขปัญหาไม่ได้  เนื่องจากติดกับดักหลายประการ" นายคณิน กล่าว


 



นางฐิติปิยลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกคนมีความห่วงใยว่าประเทศชาติจะเดินไปในทิศทางใด เนื่องจากประเทศชาติกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ซึ่งการแต่งตั้งตำแหน่ง ผบ.ทบ.ในภาวะที่ไม่ปกติ บ้านเมืองกำลังประสบปัญหาหลายด้าน รวมถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มอำนาจเก่าที่พยายามจะกลับเข้ามาแสวงหาอำนาจ ซึ่งปัจจุบันตนยังไม่เห็นว่าจะมีผู้นำในบ้านเมืองที่กล้าออกมาแสดงจุดยืนต่อสู้กับอำนาจเก่า มีแต่ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ที่แสดงจุดยืนว่าพร้อมต่อสู้เพื่อรักษาบ้านเมือง พร้อมสละชีพเพื่อชาติ และเป็นทหารคนแรกที่ประกาศต่อสู้กับระบอบทักษิณก่อนพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยด้วยซ้ำ


 



"การแต่งตั้ง ผบ.ทบ.ในยามชาติวิกฤติควรจะมองปัจจัยหลายด้าน ไม่ใช่มองแค่เหลืออายุราชการน้อย เป็นคนก้าวร้าว แต่ ผบ.ทบ.คนใหม่ควรจะเป็นคนดี คนเก่ง และคนกล้า ยอมสละชีวิตส่วนตัวเพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ ซึ่งเห็นว่าวันนี้หากสถาบันทหารถูกทำลาย สถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ก็อยู่ไม่ได้ และคนดีก็จะท้อแท้ ข้าราชการจะทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม" นางฐิติปิยลักษณ์ กล่าว


 



ด้าน นายพสุธร กล่าวว่า ตนขอฟันธงว่าคนที่เหมาะสมจะนั่ง ผบ.ทบ.คือ พล.อ.สพรั่ง เพราะเป็นคนที่กล้าหาญ กล้าตัดสินใจ ซื่อสัตย์ ที่สำคัญรู้เท่าทันนักการเมืองและนายทุน การที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ  พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ระบุว่า พล.อ.สพรั่ง ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าว ตนคิดว่าเป็นการพูดแบบเล่นพรรคเล่นพวกมากกว่า ถ้าเป็นเช่นนี้บ้านเมืองจะพัง


 



ขณะที่นายพิเชียร ให้สัมภาษณ์ว่า การแต่งตั้ง ผบ.ทบ.คนใหม่ จะต้องคำนึงถึงสถานการณ์ประเทศในปัจจุบัน ผบ.ทบ.คนใหม่จะต้องดำเนินการทหารภายใต้อุดมการณ์ เนื่องจากที่ผ่านมาสถานการณ์ทางการทหารของประเทศอ่อนแอมาโดยตลอด ฉะนั้น ผบ.ทบ.คนใหม่จะต้องมีความเข้มแข็ง  สามารถนำเหล่าทัพกลับสู่ภาวะปกติให้ได้ ส่วนรายชื่อแคนดิเดต 3 คนนั้นจะมีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่ยอมรับว่าทุกคนมีความเหมาะสม สิ่งที่สำคัญคือการพิจารณาของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน  ผบ.ทบ. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี รวมถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่จะต้องพิจารณาเลือก ผบ.ทบ.คนใหม่ในภาวะบ้านเมืองไม่ปกติอย่างรอบคอบ


 


         


-------------------------------------------


ที่มา: http://www.komchadluek.net


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net