แม่ทัพภาคสามโยงรณรงค์ไม่รับร่าง รธน. เข้ากับเงินคาสิโน - ขายตรง

พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้เปิดเผยประเด็นนี้กับสถานีวิทยุ อสมท. เชียงใหม่ ว่าขณะนี้มีการพยายามนำเงินจากบ่อนคาสิโนในประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาตามชายแดนภาคเหนือเพื่อใช้ในการแจกจ่ายคว่ำรัฐธรรมนูญ จากการข่าวยังอยู่ในระหว่างเตรียมการ ยังไม่พบการขนเงินเข้ามา ซึ่งได้กำชับให้ทุกหน่วยเตรียมการสกัดไว้แล้ว

นอกจากนี้แม่ทัพภาคที่ 3 ยังกล่าวว่าใน 17 จังหวัดภาคเหนือพบว่ามีการเคลื่อนไหวล้มรัฐธรรมนูญ ในทุกพื้นที่โดยใช้ระบบ 1 ต่อ 10 เช่นเดียวกับระบบขายตรง โดยจะแจกจ่ายเงินให้กับหัวหน้าทีมให้นำไปแจกจ่ายให้ลูกทีมอีก 10 คน จำนวนเงินรายหัวขึ้นอยู่กับพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้พยายามสกัดกั้นอย่างเต็มที่

โดยแม่ทัพภาคที่ 3 ยังห่วงการออกมาใช้สิทธิ์ในวันที่ 19 ส.ค. เพราะหากออกมาใช้สิทธิ์น้อยและยังมีการแจกเงิน จะทำให้ผลประชามติไม่ตรงกับความเป็นจริง แต่ยังตั้งเป้าว่าในภาคเหนือจะมีผู้มาใช้สิทธิ์ถึงร้อยละ 70

ส่วนกองทัพอากาศร่วมกับคณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนภาคเหนือ จัดเครื่องบินกระจายเสียงรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ระหว่าง 14-17 สิงหาคม นี้

นายวิชัย ศรีขวัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กองทัพอากาศ ร่วมกับคณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชนภาคเหนือ สภาร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมมือกันรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยกองทัพอากาศ จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 9 (บ.ล.9) NOMAD จากฝูงบิน 461 กองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก มาบินกระจายเสียงในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ระหว่างวันที่ 14-17 สิงหาคม 2550 ภาคเช้าระหว่างเวลา 08.00-11.00 น. และภาคบ่ายเวลา 13.00-16.00 น. โดยใช้ชั่วโมงการฝึกบิน

ทางด้านนาวาอากาศเอกสิทธิพร เกสจินดา ผู้บังคับการกองบิน 41 เชียงใหม่ กล่าวกับ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่ ว่า พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้มอบนโยบายให้หน่วยขึ้นตรงในกองทัพอากาศ ให้การสนับสนุนการรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์ออกเสียงประชามติต่อร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 อย่างเต็มขีดความสามารถ และได้สั่งการให้มีการสนับสนุนเครื่องบิน บินกระจายเสียงในทุกภาคอย่างทั่วถึง ซึ่งเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2550 เป็นต้นมา และจะปฏิบัติการถึงวันที่ 17 สิงหาคม 2550

หน่วยจรยุทธ์ ไทยรักไทย แจกใบปลิวรณรงค์ไม่รับรัฐธรรมนูญ 50 ทั่วเมืองเชียงใหม่ สมาชิกไทยรักไทยเปิดตัวเต็มที่ หวั่นโดนกล่าวหาเป็นเบื้องหลัง

2 - 3 วันที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่บางส่วนของผู้สื่อข่าวประชาไทในเขต อำเภอเมือง, อำเภอสารภี และอำเภอสันกำแพง พบว่ายังไม่มีการเคลื่อนไหวด้านการใช้เงินจ้างวานชาวบ้านให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 50 หรือมีการเก็บบัตรประชาชนใดๆ ไว้ทั้งสิ้น

แต่มีการเคลื่อนไหวในลักษณะลงพื้นที่ของนักการเมือง หัวคะแนน และการแจกใบปลิวรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 50 โดยในใบปลิวนี้มีการชูประเด็นเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ 50 ไม่บรรจุศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ รวมถึงบทความที่วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ50 จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และ มติชน

 ใบปลิวรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 50

และจากการพูดคุยกับนักการเมืองท้องถิ่นระดับตำบลคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นหัวคะแนนของพรรคไทยรักไทย กล่าวว่าหลังจากที่กลุ่ม นปก. ได้มาเปิดปราศรัยที่ลำพูนเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีนักการเมืองท้องถิ่นของพรรคไทยรักไทยไปรวมตัวกันมาก จากนั้นก็มีการเคลื่อนไหวผ่านสื่อของนักการเมืองไทยรักไทยหลายคนเริ่มเคลื่อนไหวอย่างเต็มตัวเพื่อรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 50

นักการเมืองระดับตำบลคนนี้ยอมรับว่ามีการเคลื่อนไหวของเครือข่ายหัวคะแนนและสมาชิกพรรคไทยรักไทย แต่เป็นการเคลื่อนไหวในเชิงการเมือง ชิงไหวพริบทางการเมือง รัฐบาลทำแบบไหน ฝ่ายตรงข้ามก็จะทำแบบนั้นในแบบตรงกันข้าม มีการเดินสายพบปะชาวบ้านของทั้งนักการเมือง หัวคะแนน กับชาวบ้านแล้ว

ประเด็นการใช้เงินซื้อชาวบ้านไม่ให้ไปรับร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยจำนวนเงิน 200 - 500 บาทนั้น สำหรับตัวเองเชื่อว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ - ลำพูน ถ้าใครกล้าทำถือว่าเสี่ยงมาก เพราะทั้งฝ่ายตรงข้ามและทหารกำลังจ้องจับผิดอยู่ โดยเฉพาะนักการเมืองรายใหญ่ๆ ในท้องที่ ต้องออกมาเคลื่อนไหวอย่างเปิดตัวมากที่สุดในตอนนี้เพราะไทยรักไทยส่วนกลางประกาศตัวเคลื่อนไหวแล้ว ในส่วนเครือข่ายของตนเอง ในตอนนี้มีเพียงการแจกใบปลิวเท่านั้น

"ในส่วนตัวคิดว่าคนที่ชอบนโยบายพรรคไทยรักไทยยังคงมีมากอยู่ เราไปบอกข้อเสียของรัฐธรรมนูญฉบับนี้เขาก็มีข้อมูลเพิ่ม บวกกับความชอบในตัวอดีตนายก จะทำให้คนไปลงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ในพื้นที่ภาคเหนือพอสมควร"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่แม่ทัพภาค 3 ระบุว่า มีการพยายามนำเงินจากบ่อนคาสิโนในประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาใช้ในการแจกจ่ายคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ และใช้จ่ายเงินคว่ำร่างด้วยระบบขายตรง 1 ต่อ 10 นักการเมืองระดับตำบลคนนี้กล่าวว่าเรื่องเงินจากบ่อนนั้นตนเองไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร จะเอาเข้ามาแบบยาบ้าหรืออย่างไรไม่ทราบ การขนย้ายเงินมากๆ ย่อมเป็นสิ่งที่น่าสงสัย และทั้งนี้ถ้ามันเป็นจริงแม่ทัพภาค 3 น่าจะรอดักจับแล้วค่อยเอาข่าวกรองมาเปิดเผยไม่ดีกว่าหรือ

"โอ๊ย ... ท่านแม่ทัพภาค 3 เป็นทหาร และทหารก็ทำปฏิวัติมา จะพูดอย่างไรให้พวกเราเสียก็ได้ ในเมื่อท่านมีอำนาจ แต่แค่นี้คนก็จับโกหกได้ เพราะพูดลอยๆ อ้างสายข่าว และยังอยู่ในระหว่างการเตรียมการ โดยปกติแล้วเขาไม่เอามาเปิดเผยกันหรอก เขาต้องเก็บเป็นความลับแล้วรอจับคาหนังคาเขา"

ส่วนในประเด็นระบบขายตรง 1 ต่อ 10 นั้น นักการเมืองระดับตำบลคนนี้กล่าวว่าไม่เป็นความจริง มีแต่การจ้างคนที่ไว้ใจได้ หรือคนที่กินเงินเดือนนักการเมืองท้องถิ่นอยู่แล้วให้ไปแจกใบปลิว

"ถ้าการจ้างคนแจกใบปลิวเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ก็ไม่อยากพูดเท่าไร แต่ที่กล้าเปิดเผยเพราะมันมีแค่จ้างแจกใบปลิวเท่านั้น ไม่มีการแจกเงินให้เป็นซุ้มๆ ดังที่ท่านแม่ทัพภาค 3 กล่าวไปหรอก ไม่เชื่อลงมาสืบในทุกพื้นที่ 17 จังหวัดที่ท่านว่าก็ได้ จับให้ได้ว่าใครได้เงินบ้าง คนมีตั้งหลายล้านถ้าจ้างกันจริงซัก 10 - 20 คนก็น่าจะจับได้แล้ว" แหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวรายนี้กล่าวปิดท้าย