Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 18 ก.ค. 50 จากกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ให้เปิดปิดเขื่อนปากมูนตามสภาพความเป็นจริงของธรรมชาติ โดยให้กระทรวงมหาดไทยตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายเห็นด้วยและ ไม่เห็นด้วยเป็นกรรมการ โดยมอบอำนาจให้คณะกรรมการชุดนี้ดำเนินการโดยไม่จำเป็นต้องนำเรื่องมาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นครั้งๆ นั้น


 


โดยนายณัฐฐวัฒน์ สุทธิโยธิน ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงต่อสื่อมวลชนถึงเรื่องดังกล่าวว่า มติดังกล่าว สืบเนื่องมาจากที่คณะรัฐมนตรีรับทราบแนวทางแก้ไขปัญหา ตามที่ประชุมร่วมกับกลุ่มสมัชชาคนจน และกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมาประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ก.ค. 2550 ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล


 


นายนันทโชติ ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน กล่าวว่า สมัชชาคนจนไม่ได้มีการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรที่ตึกไทยคู่ฟ้า ในวันที่ 4 ก.ค. มีเพียงแต่ตัวแทนสมัชชาคนจนที่ได้เข้าพูดคุยกับที่ปรึกษาของนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ผู้ชุมนุมกลุ่มสมัชชาคนจนถูกลากออกจากประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เพราะเข้าไปหลบฝนและรอคอยผลการเจรจาว่าเหตุใดจึงไม่มีการนำปัญหาเขื่อนปากมูนเข้าที่ประชุมครม. ในวันดังกล่าว


 


นายนันทโชติ กล่าวว่า การที่ที่ประชุมครม.ตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาเขื่อนปากมูน เป็นเพียงการซื้อเวลาโยนปัญหาให้ชาวบ้านทะเลาะกันเอง เพราะขณะนี้ ทางราชการก็เข้าไปจัดตั้งชาวบ้านกลุ่มหนึ่งร่วมกับฝ่ายกำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้เห็นด้วยกับการปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูน แล้วอ้างว่าเพื่อใช้ในการเกษตร ทั้งที่ข้อเท็จจริงมีอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่า ชาวบ้านต้องการให้เปิดประตูเขื่อนให้ปลาจากแม่น้ำโขงสามารถขึ้นมาวางไข่ที่แม่น้ำมูน เพื่อสามารถทำประมงได้ตามฤดูกาล ซึ่งจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบของการปิดประตูเขื่อน


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net