Skip to main content
sharethis

 


 



 


 



 



 



 


 


ประชาไท - 18 ก.ค. 50 เมื่อวันที่ 16 ก.ค หลังจากที่บริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) เข้าไปในพื้นที่ของนางเน๊าะ หัดยุมสา หมู่ที่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา แล้วเจาะลอดใต้ผิวทีดิน เพื่อวางแนวท่อส่งก๊าซจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย - มาเลเซียไปใช้สำหรับโรงไฟฟ้าจะนะ ผ่านพื้นที่กลางชุมชนบ้านป่างามท่ามกลางการคัดค้านของชาวบ้านที่หวั่นวิตกผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากผ่านกลางชุมชน กระทบวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมและเป็นโครงการที่สร้างความแตกแยกให้กับชุมชนมุสลิม


 


นางขอ หัดยุมสา เล่าว่า หลังจากที่บริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) เริ่มเจาะลอดใต้ผิวดินประมาณเวลา 11.00 น.ของวันที่ 16 ก.ค. ปรากฎว่าเวลาประมาณ 15.30 น. มีสารเบนโทไนต์จำนวนมากผุดทะลักขึ้นมาจากใต้ดิน โดยตอนที่เพิ่งผุดขึ้นมาใหม่ๆ เป็นลักษณะโคลนสีดำ เมื่อผุดขึ้นมาแล้วไหลทะลักมายังใต้ถุนขนำที่พวกตนอยู่


 


จากนั้นบางจุดมีลักษณะเป็นน้ำสีขาวขุ่น ไหลทะลักออกมาและมีกลิ่นฉุนของสารเคมีด้วย พวกตนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงไปตามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนอารักขาคนงานของบริษัทปตท.ให้มาดู เมื่อตำรวจมาดูแล้วไม่ทำอะไรและรีบเดินออกไปจากบริเวณดังกล่าวทันที


 


นางขอกล่าวว่า แม้แต่ตัวเขียดซึ่งตกลงไปในน้ำ ยังตายทันที แล้วจะไม่กระทบต่อคนและสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นได้อย่างไร ซึ่งชาวบ้านบอกมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า หากมีการเจาะลอดและใช้สารเบนโทไนต์ จะเจอปัญหาสารเคมีทะลัก และจะเกิดผลกระทบตามมาอย่างแน่นอน


 


ล่าสุด ปรากฏว่าเช้าวานนี้ (17 ก.ค.) นี้ยังมีการไหลทะลักจากใต้ผิวดินจนบริเวณดังกล่าวนองไปด้วยโคลนสีขาว ซึ่งบริษัทปตท.ไม่เข้ามาดูแลและจัดการกับสารเบนโทไนต์ที่เกิดขึ้น ซึ่งชาวบ้านหวั่นวิตกว่าจะซ้ำรอยเดิมที่ชาวบ้านแปดร้อยไร่ หมู่ที่ 8 สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา เคยประสบปัญหามาก่อน จนบ่อน้ำแหล่งน้ำกินไม่ได้ และต้นยางยืนต้นตายมาแล้วเมื่อคราวที่บริษัทปตท.และทีทีเอ็มเจาะลอดในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อครั้งวางแนวท่อส่งก๊าซไปเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย       


 


นางขอกล่าวว่า ในวันนี้หมดความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล ต่อระบบราชการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพราะเหตุการณ์เมื่อวานนี้ชัดเจนแล้วว่า ผู้ปกครองบ้านเมืองนี้และเจ้าหน้าที่ตำรวจเลือกที่จะเข้าข้างและปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทเอกชน มากกว่าปกป้องดูแลสิทธิของชาวบ้าน รัฐและเจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่าเราเป็นเพียงชาวบ้านมุสลิมไม่ต้องดูแล ปล่อยให้ปตท.รังแกข่มแหงอย่างไรก็ได้


 


นอกจากนี้นายอำเภอจะนะและผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอ.จะนะ ยังส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าตำรวจชายแดนชุดที่เคยปฏิบัติการดูแลความมั่นคงและลาดตระเวนดูแลปัญหาการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดและ 4 อำเภอจ.สงขลา ประจำการอยู่ที่อ.จะนะ มีสัญลักษณ์คือผูกผ้าพันคอสีแดง ซึ่งเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมรังแก ละเมิดสิทธิของชาวบ้านและสร้างความไม่ยุติธรรมในสังคมเสียเอง เพราะร่วมมือกับนายทุนเข้ามาอารักขาบริษัทให้บุกรุกที่ดินของชาวบ้าน


 


นางขอกล่าวอีกว่า เมื่อครั้งพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ออกมาขอโทษพี่น้องมุสลิมที่ถูกละเมิดสิทธิและไม่ได้รับความยุติธรรม แต่วันนี้รัฐบาลกลับปลดเกียร์ว่างไม่แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นปล่อยให้นายทุน บริษัทเอกชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจละเมิดสิทธิและรังแกพี่น้องมุสลิมเสียเอง และการที่นายประสิทธิ์ วิสุทธิ์จินดาภรณ์ นายอำเภอจะนะให้สัมภาษณ์ทางสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ว่า โครงการได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านแล้ว แต่ชาวบ้านไม่ฟังทำให้โครงการล่าช้า จึงต้องจัดเจ้าหน้าที่คุ้มกันเพื่อให้บริษัททำงานได้เท่านั้น ทำให้ชัดเจนว่านายประสิทธิ์เห็นกับผลประโยชน์ของบริษัทปตท.ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ทั้งที่โครงการดังกล่าวนายก อบต.ตลิ่งชันผู้บริหารระดับท้องถิ่นซึ่งใกล้ชิดกับชุมชนได้สั่งระงับและยุติโครงการไว้แล้ว เพราะกระทบกับชุมชน วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม นายประสิทธิ์ไม่สนใจต่อหนทางการแก้ไขปัญหาของกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าที่ไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลายและกดดันความรู้สึกของพี่น้องมุสลิม จึงขอความร่วมมือถึงปตท.ให้ระงับโครงการชั่วคราวจนกว่าจะแก้ไขปัญหาเสร็จ หรือแม้แต่องค์กรที่เป็นกลางอย่างคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ทำหนังสือเร่งด่วนที่สุดถึงนายอำเภอโดยตรง แต่ทางอำเภอก็ไม่สนใจเห็นกับผลประโยชน์ของปตท.เป็นหลักจึงสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมา


 


"อยากถามว่าใครกันแน่ที่ดื้อดึงไม่ยอมฟัง ซึ่งทำให้เห็นว่าเราไม่สามารถพึ่งพิงหน่วยงานรัฐได้เลย


ในเมื่อนายประสิทธิ์มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ปตท.ดำเนินการเจาะลอดใต้ผิวดินของนางเน๊าะได้สำเร็จโดยการใช้สารเบนโทไนต์วันนี้นายอำเภอจะนะต้องออกมาประกาศรับผิดชอบต่อการไหลทะลักของสารเบนโทไนต์และผลกระทบทบที่เกิดขึ้นด้วย" นางขอกล่าว


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net