Skip to main content
sharethis

ประชาไท, 30 มิ.ย. 50 กลุ่มศึกษาเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) ออกจดหมายเปิดผนึก "หยุดใช้อำนาจจักรวรรดิ บีบคอประเทศกำลังพัฒนา" เรียกร้องให้มาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ ไม่ต่ออายุกฎหมายฟาสแทร็ก ไม่ให้ฝ่ายบริหารและสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ นำไปใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาผลประโยชน์ผูกขาดของบรรษัทยักษ์ใหญ่ ทำลายโอกาสการพัฒนา และการดูแลประชาชน และทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมในประเทศกำลังพัฒนา


 






จดหมายเปิดผนึก


กลุ่มศึกษาเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch)


หยุดใช้อำนาจจักรวรรดิ บีบคอประเทศกำลังพัฒนา


 


ในวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้เป็นวันที่กฎหมายสำคัญฉบับหนึ่งของสหรัฐอเมริกาจะหมดอายุลง กฎหมายฉบับนี้ คือ "Bipartisan Trade Promotion Authority Act of 2002" หรือที่เราเรียกกันย่อ ๆ ว่ากฎหมาย "Fast track" กฎหมายนี้ให้อำนาจการเจรจาแก่ฝ่ายบริหารและสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ สามารถดำเนินการเจรจาการค้าโดยขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเพียง 2 ครั้ง คือ กรอบการเจรจาและข้อตกลงที่ไปเจรจาเสร็จแล้ว โดยเป็นการขอความเห็นชอบทั้งฉบับว่าให้ผ่านหรือไม่ผ่าน โดยไม่มีอำนาจแก้ไขข้อตกลง และต้องพิจารณาภายใต้ขอบเขตเวลาจำกัด


 


และเมื่อระยะหลังนับตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา สหรัฐฯ ประสบกับความล้มเหลวในการผลักดันการเจรจา และข้อตกลงที่เอื้อผลประโยชน์ของตนในเวทีเจรจาการค้าพหุภาคี เช่น ในองค์การการค้าโลก (WTO) อำนาจแบบ "Fast track" นี้ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญของสหรัฐฯ ในการเร่งรัดกระบวนการเจรจาการค้าระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค


 


ประเด็นสำคัญยิ่งประเด็นหนึ่งที่สหรัฐฯ มุ่งหน้าผลักดันภายใต้กรอบกฎหมาย Fast track คือการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งสหรัฐฯ ผลักดันอย่างหนักให้ปรับปรุงระบบทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้มีการคุ้มครองระดับสูงกว่ามาตรฐานในข้อตกลงทริปส์หรือเราเรียกกันว่า "ทริปส์ผนวก" (TRIPS-plus) ซึ่งหลักการที่กว้างขวางครอบคลุมทรัพย์สินทางปัญญาทุกประเภท ทั้งลิขสิทธิ์อินเตอร์เน็ต สิทธิบัตรสิ่งมีชีวิต การคุ้มครองพันธุ์พืชโดยอนุสัญญายูปอฟ เครื่องหมายการค้าที่ไม่อาจสัมผัสด้วยสายตาและประเด็นที่ได้รับการต่อต้านขัดขวางอย่างเข้มแข็งจากขบวนการภาคประชาชนทั่วโลก ได้แก่ สิทธิบัตรยา


 


เฉพาะเรื่องยา ข้อเรียกร้องของสหรัฐที่มีการเปิดเผยออกมาระหว่างการเจรจาการการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหรัฐโดยสรุปคือ


 


1. ให้เอื้ออำนวยความสะดวก และความรวดเร็วตลอดจนเงื่อนไขการจดสิทธิบัตรยาให้ง่ายขึ้น เช่น


ไม่ให้มีการคัดค้านคำขอรับสิทธิบัตรก่อนการออกสิทธิบัตร


2. การขยายอายุสิทธิบัตรเพื่อชดเชยความล่าช้าจากกระบวนการพิจารณาสิทธิบัตร และการขึ้นทะเบียนตำรับยาตลอดจนให้การผูกขาดข้อมูลคลินิกยาใหม่ เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งจะส่งผลให้สามารถผูกขาดตลาดยาชนิดนั้นไปได้ 5 ถึง 10 ปี


3. เรียกร้องให้ไทยให้สิทธิบัตรวิธีการวิเคราะห์โรค การรักษาโรค และการผ่าตัด


4. จำกัดการใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิให้เป็นไปอย่างยากลำบากหรือไม่สามารถใช้ได้ จำกัดให้ใช้ได้เฉพาะเมื่อประเทศมีอุบัติเหตุฉุกเฉินเท่านั้น และการจ่ายค่าตอบแทนต้องครอบคลุมอย่างสมบูรณ์ทั้งหมดของการใช้สิทธิ


 


นี่เป็นเพียงตัวอย่างข้อเรียกร้องที่ละโมบอย่างมากของบรรษัทยาผ่านทีมเจรจาสหรัฐฯ โดยฉกฉวยเอาประโยชน์ในทุกวิถีทาง ทั้งๆ ที่เป็นการรับประโยชน์ซ้ำซ้อน ต้องการผูกขาดตลาดสินค้ายาและการรักษาโรคที่เป็นสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิต ทำลายระบบสาธารณสุขโดยเฉพาะระบบหลักประกันสุขภาพและทำลายโอกาสการพัฒนาเพื่อพึ่งตนเองทางยาของประเทศไทย


 


และนี่เป็นเพียงตัวอย่างที่กำหนดในกฎหมายฟาสต์แทร็กที่พยายามบีบบังคับให้ประเทศคู่เจรจามีกฎหมายเทียบเท่ากับสหรัฐฯ โดยไม่ใส่ใจว่าระดับการพัฒนาของประเทศนั้นๆ


 


ในวาระที่กฎหมายฟาสต์แทร็กฉบับนี้กำลังหมดอายุลง และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่าจะต่ออายุหรือไม่


กลุ่มศึกษาเขตการค้าเสรีภาคประชาชน ขอเรียกร้องต่อสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯทั้งหลายผ่านทางสื่อมวลชนให้พิจารณาไม่ต่ออายุกฎหมาย ที่ฝ่ายบริหารและสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาผลประโยชน์ผูกขาดของบรรษัทยักษ์ใหญ่ ขณะที่ทำลายโอกาสการพัฒนา และการดูแลประชาชน และทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมในประเทศกำลังพัฒนา


 


กลุ่มศึกษาเขตการค้าเสรีภาคประชาชนเห็นว่า เราจำเป็นต้องเคารพพื้นฐานจริยธรรมในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าและกระบวนการพัฒนากฎหมาย  มิใช่มุ่งกำหนดกฎหมาย และนำไปใช้ในการรักษาผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม บนความสูญเสียของคนส่วนใหญ่


 


ขณะนี้ กลุ่มศึกษาเขตการค้าเสรีภาคประชาชนและนักวิชาการกำลังเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเจรจาระหว่างประเทศผ่านการยกร่างรัฐธรรมนูญ และการออกกฎหมายประกอบการเจรจาเพื่อให้กระบวนการจัดทำสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศมีประสิทธิภาพ ความโปร่งใส มีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง และสร้างความสมานฉันท์ในสังคม


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net