ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 16 เมษายน 2550

 





การเมือง

 

มีชัยชงตั้ง กก.ช่วยรัฐ-คมช.สาง 4 เหตุปฏิวัติคาดเสร็จใน 2 เดือน

เว็บไซต์คมชัดลึก - นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของ สนช.ว่า ตอนนี้เราคิดกันใหม่ว่าน่าจะช่วย คมช.และรัฐบาลคิด เพื่อให้การทำงานเร็วขึ้น โดยเฉพาะ 4 ประเด็นที่ คมช.ใช้เป็นเหตุผลในการทำรัฐประหาร จะดูว่าเกิดอะไรขึ้น มีสภาพปัญหาเป็นอย่างไร แล้วมีหนทางที่จะแก้ปัญหาได้อย่างไร ในการแก้ไขปัญหาจะใช้เครื่องมืออะไร ถ้าเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่อยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่เราก็เสนอกฎหมาย ถ้าเป็นเรื่องของการบริหาร ก็จะบอกไปยังรัฐบาลให้ไปทำ ส่วนรัฐบาลจะเอาหรือไม่เอาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

นายมีชัย กล่าวว่า มูลเหตุการปฏิรูปการปกครองที่ คมช.อ้างว่า 1.ประชาชนแตกความสามัคคี ขาดความสมานฉันท์ 2.มีการทุจริตคอรัปชั่น 3.มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 4.เรื่องการแทรกแซงองค์กรอิสระ คิดว่าถ้าลงไปศึกษาแต่ละเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร ทำไมถึงเกิดขึ้น แล้วถ้าไม่อยากให้เกิดขึ้นจะทำอย่างไร จะต้องใช้เครื่องมืออะไร ถ้าศึกษา 4 ประเด็นนี้ได้ ก็จะออกมาว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ถ้าจำเป็นต้องมีกฎหมายใหม่ ก็จะได้ร่างกฎหมาย ผ่านกฎหมาย พิจารณากฎหมายไป

 

 "อย่างเรื่องการแตกสามัคคีถ้าเราพบมูลเหตุแห่งการแตกความสามัคคี เกิดเพราะอย่างนั้น เราก็ไปดูจุดต่างๆ เหล่านั้น เราสามารถเปลี่ยนมันได้ไหม อุดมันได้ไหม ถ้าอุดได้การแตกความสามัคคีจะไม่เกิด เราก็ต้องถามว่าแล้วจะใช้อะไรอุด ถ้าใช้กลไกการบริหารอุด เราก็ไปบอกรัฐบาลว่าอย่างนี้นะ แต่ถ้าใช้กลไกทางกฎหมายอุด เราก็ไปตรากฎหมายขึ้นมา" นายมีชัย กล่าว

 

ประธาน สนช.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กำลังเริ่มรวบรวมผลงานของคณะกรรมาธิการสามัญและวิสามัญประจำ สนช.ก็จะดูว่าเขาแตะไว้ตรงไหนบ้าง ถ้าเขาแตะแล้ว เราก็เอามารวมดู ถ้าครบถ้วนก็ใช้ตัวนี้มาศึกษาต่อ ถ้าไม่ครบถ้วน มีช่องโหว่ตรงไหนก็ไปอุด ศึกษาต่อให้ครบถ้วน แล้วก็ไปดูว่าจะใช้มาตรการอะไร หรือใช้กลไกอะไร เวลานี้กำลังเริ่มไปรวบรวมแล้ว โดยตั้งคณะกรรมการที่เป็น สนช.มาดู คิดว่าจะใช้เวลา 2 เดือนน่าจะเสร็จ ถ้าต้องออกกฎหมายก็จะได้ไปออกกฎหมาย แต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ คงไม่ใช่งานง่าย ซึ่งก็คงต้องเร่งเพราะระยะเวลามีจำกัด ถ้าทำได้สำเร็จก็จะมีกลไก มีเครื่องไม้ เครื่องมือไว้ป้องกัน หรือแก้ไขปัญหา รัฐบาลใหม่มาก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ต้องมานั่งคิดอ่านกันใหม่ แต่ถ้าไม่ชอบใจก็ยกเลิกกฎหมาย ยกเลิกเครื่องมือ ก็เป็นเรื่องของเขา

 

"ชนาพัทธ" แฉกลุ่มอำนาจเก่าเตรียมชุมนุมใหญ่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง ปูทางแกนนำกลับไทย

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ - นายชนาพัทธ ณ นคร แกนนำเครือข่ายเตมูจิน เปิดเผยถึงแผนการและเป้าหมายของกลุ่มอำนาจเก่าว่า ได้ทราบข้อมูลจากเครือข่ายฯว่าในช่วงระหว่างวันที่ 15-17 เมษายน 2550 จะมีการนำประชาชนจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 20,000 คน เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ โดยมวลชนดังกล่าว จะได้รับค่าตอบแทนคนละ 500 บาทต่อวัน โดยมีกลุ่มบริษัทแห่งหนึ่งสนับสนุนทางการเงิน

 

หลังจากนั้น ในวันที่ 18-27 เมษายน กลุ่มอำนาจเก่าจะจัดให้มีการชุมนุม โดยปล่อยข่าวทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ผ่านกลุ่มม็อบพีทีวี กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ สมาพันธ์ประชาธิปไตย กลุ่มพิราบขาว และกลุ่ม 19 กันยายนต้านรัฐประหาร ขณะเดียวกัน จะมีการล็อบบี้ประเทศคู่ค้าให้ปฏิเสธนำเข้าสินค้าของไทยด้วย

 

นายชนาพัทธ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 27 เมษายนนี้ กลุ่มอำนาจเก่า โดยมีกลุ่มพีทีวี เป็นแกนนำ จะนัดชุมนุมใหญ่ โดยมีมวลชนจัดตั้งเข้ามาสมทบ โดยจะมีการยั่วยุเจ้าหน้าที่ให้ใช้กำลังกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีกำลังบางส่วนมาจากข้าราชการที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอำนาจเก่าเข้ามาสนับสนุน โดยระหว่างเดือนเมษายน จนถึงเดือนพฤษภาคม จะมีการชุมนุมใหญ่จนถึงขั้แตกหัก โดยสร้างภาพความขัดแย้งทางการเมืองผ่านสื่อต่างประเทศ จนต้องมีการแทรกแซงทางการเมือง โดยอดีตนายกรัฐมนตรีจะเข้ามากอบกู้สถานการณ์ในฐานะผู้นำประเทศ

 

 "ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาล และ คมช. ดำเนินการยุติการเคลื่อนไหว เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 โดยในวันพุธนี้ (18 เม.ย.) ผมจะนำข้อมูลนี้ไปมอบกับประธาน คมช. ต่อไป" นายชนาพัทธ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แกนนำพรรคไทยรักไทย เคยออกมาระบุว่า การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่ใช่การเคลื่อนไหวของพรรคไทยรักไทย เพราะหากพรรคเคลื่อนไหวจะมีความหนักหน่วงมากกว่านี้ นายชนาพัทธ กล่าวว่า น.พ.สุรพงษ์ ต้องออกมาพูดเช่นนี้อยู่แล้ว คงไม่ออกมาพูดความจริง การชุมนุมของกลุ่มพีทีวี และคนวันเสาร์ฯ ที่ผ่านมา มีการนำภาพของอดีตนายกรัฐมนตรีออกมาแสดงตลอด นอกจากนี้ ยังมีการนำเอกสารจากเวบไซต์ที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรีมาเผยแพร่ ดังนั้น จะไม่เกี่ยวกับอดีตนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร

 

อ๋อยชี้รัฐ-คมช.เริ่มร้าวหนักขึ้นหลังสงกรานต์สารพัดม็อบรุม

เว็บไซต์คมชัดลึก - "จาตุรนต์" ฟันธงรอยร้าวรัฐ-คมช.เพิ่มมากขึ้น เชื่อหลังสงกรานต์เจอม็อบรุกหนักกว่าเดิม "เตมูจิน" แฉกลุ่มอำนาจเก่าเตรียมขนคนชุมนุมขั้นแตกหักเดือน พ.ค.นี้ ทรท.สวนกลับเรื่องไร้สาระ ขู่แจ้งจับหากไม่เลิกป้ายสี ด้าน ปชป.จี้ปรับออก รมต.เกียร์ว่าง แนะนายกฯ เลิกเกรงใจ

 

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า หลังเทศกาลสงกรานต์นี้ รัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. จะต้องเจอปัญ?หาที่หนักมากๆ ก็คือ ความเสียหายทางเศรษฐกิจ ความเดือดร้อนของประชาชน ที่จะเป็นปั?ญหาพื้นฐาน ซึ่งการชุมนุมต่างๆ ของกลุ่มองค์กรที่เรียกร้องประชาธิปไตย หรือต่อต้านคัดค้าน คมช.ก็จะมีมากขึ้น และจะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นได้อีก แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของ คมช.และรัฐบาล เพราะได้ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งแล้ว และคนก็คงไม่อยากเห็นบ้านเมืองเสียหายมากไปกว่านี้

 

"ผมไม่อยากเห็นความรุนแรง แต่ส่วนที่จะน่าวิตกมากกว่า คือ ความขัดแย้งในรัฐบาลและ คมช.และพันธมิตร ซึ่งอาจจะกำหนดการอยู่หรือไปของเสถียรภาพทั้ง คมช.และรัฐบาลได้ ดังนั้น หากรัฐบาลอยู่ไม่ได้ ก็คงเป็นเพราะพันธมิตรกับ คมช. ส่วน คมช.จะอยู่ได้หรือไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเข้าไปจัดการอย่างไรกับรัฐบาล และตามใจพันธมิตรได้มากน้อยแค่ไหน ผมมองว่าความขัดแย้งของรัฐบาลและ คมช.จะหนักขึ้น เพราะมีตัวแสดงอย่างพันธมิตรที่เพิ่มบทบาทขึ้นมา"

 

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ในส่วนการชุมนุมขององค์กรต่างๆ จะเป็นกลุ่มพีทีวี กลุ่มพิราบขาว หรือองค์กรอื่นๆ พรรคไทยรักไทยเห็นว่าถ้าชุมนุมหรือแสดงความเห็นที่เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพและทำตามกฎหมาย ก็ควรได้รับการคุ้มครอง ในส่วนของเนื้อหาถ้าเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องเสรีภาพ เราก็จะเห็นด้วยหรือสนับสนุนในทางหลักการ แต่พรรคไทยรักไทยยังยืนยันว่า จะไม่ไปเข้าร่วมอย่างแน่นอน และไม่ไปดำเนินการด้วยวิธีเดียวกัน

 

ส่วนบทบาทของพรรคไทยรักไทยต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนั้น รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งยังมีอีกหลายขั้นตอน ซึ่งคาดการณ์ได้ยาก ต้องดูว่าพรรคไทยรักไทยจะอยู่ในสภาพอย่างไร เราเชื่อว่าจะไม่ถูกยุบ แต่ คมช.ก็พูดอยู่เสมอว่าถูกยุบแน่ ก็ต้องมารอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในคดียุบพรรค อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าเราจะลงสมัครรับเลือกตั้งได้ในนามพรรคไทยรักไทย ส่วนผลจะเป็นอย่างไรเป็นเรื่องที่คาดการณ์ยาก เพราะเราไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น จะเป็นการเลือกตั้งที่ยุติธรรม และหากกติกายังเป็นอย่างนี้ โดยเฉพาะประกาศ คปค. 2 ฉบับ ยังไม่ได้รับการแก้ไข เราก็ไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งจะมีคุณภาพ

 

"ในด้านความยุติธรรมนั้น พรรคไทยรักไทยถูกมองเป็นศัตรูของ คมช. ถูกมองเป็นกลุ่มอำนาจเก่าที่ต้องทำลายล้าง ถูกห้ามการเสนอข่าวต่อสังคม โดยที่ คมช.เรียกตัวแทนสื่อมวลชนทั้งประเทศไปขอความร่วมมือแกมบังคับ เพื่อไม่ให้เสนอข่าวพรรคไทยรักไทยฝ่ายเดียว จะเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมได้อย่างไร แต่เราก็หวังว่าการกระทำที่ไม่ชอบธรรมทั้งหลายเหล่านี้จะถูกสังคมคัดค้าน แต่ถ้ายังขจัดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ ก็จะเป็นการเลือกตั้งที่รู้ผลล่วงหน้า" นายจาตุรนต์ กล่าว

 

บุญรอดแย้ม ปรับ ครม.แน่

เว็บไซต์ไทยรัฐ - เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.) พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะมีการปรับ ครม.ว่า เท่าที่ได้ฟัง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะพิจารณาดูจากข่าวคราวต่างๆที่รับฟังมา หากต้องการเสริมคนเข้ามาก็จะเสริม แต่จะไม่ปรับรัฐมนตรีออก เพราะโควตารัฐมนตรียังมีเหลือ สามารถปรับเพิ่มได้ ต้องการเสริมคนทำงานให้เต็มที่

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นต้องมีรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงหรือไม่ พล.อ.บุญรอดตอบว่า รองนายกฯด้านความมั่นคงมีความสำคัญ ต้องดูแลหลายด้านทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม แม้มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. รับผิดชอบดูแลด้านความมั่นคงอยู่แล้ว แต่ก็ดูแลเฉพาะทหารและ กอ.รมน. นอกจากนี้ ประธานคมช.ไม่สามารถเข้าร่วมประชุม ครม. ซึ่งความสำคัญอยู่ตรงนี้ ถือเป็นจุดอ่อน เราต้องการรองนายกฯ ที่เข้ามาดูแลด้านความมั่นคง ซึ่งตำแหน่งสมควรจะเป็นทหารที่มีความรู้ความสามารถ

 

ต่อข้อถามว่าในส่วนของกระทรวงอื่นจำเป็นต้องเพิ่ม รมช.หรือไม่ พล.อ.บุญรอดกล่าวว่า ขณะนี้หลายกระทรวงมีแต่ รมว. ไม่มี รมช. แต่จำนวนเนื้องานก็ต้องดู เช่นกระทรวง มหาดไทยแม้จะมี รมช.แล้ว แต่งานเยอะจริงๆ จึงน่าจะเพิ่ม รมช.อีก 1 คน อย่างไรก็ตาม อยู่ที่นายกฯกับ รมว.มหาดไทยจะหารือกัน

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องรีบปรับ ครม.หรือไม่ พล.อ. บุญรอดตอบว่า หลังสงกรานต์น่าจะมีการประชุมปรึกษาหารือกัน เพราะอีกฝ่ายหนึ่งต้องการให้เราแสดงความกระตือรือร้นบ้าง เพราะระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลเหลืออีกไม่มาก

 

"แก้วสรร" ค้านต่ออายุ คตส.ชี้เป็นแค่องค์กรเฉพาะกิจขอทำงานปีเดียว

ผู้จัดการออนไลน์ - นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)กล่าวถึงกรณีที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)จะเสนอให้มีการต่ออายุ คตส.ว่า สำหรับส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยที่จะมีการต่ออายุการทำงานของ คตส. เพราะ คตส.เองเกิดมาจากเหตุการณ์รัฐประหาร อีกทั้ง คตส.ก็เป็นองค์กรเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐก่อน ว่าได้กระทำอย่างหนึ่งอย่างใด แล้วเกิดความเสียหายต่อประเทศหรือไม่ ที่ผ่านมาก็มีการตรวจสอบไปกว่า 14 เรื่อง ก็มีความคืบหน้าไปมาก ส่วนจะมีการพิจารณาเรื่องอื่นอีกหรือไม่นั้น คงต้องดูในรายละเอียดของข้อมูล เนื้อหาว่ามีความพร้อมครบถ้วนหรือไม่ เพราะหากต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกคงไม่ได้ จะเสียเวลา เท่าที่ดำเนินการตรวจสอบ ไต่สวนอยู่ก็คงต้องให้เวลาอีกระยะหนึ่ง

 

"หาก สนช.จะต่ออายุให้ คตส. ผมไม่เห็นด้วย เพราะเป็นระบบเฉพาะกิจ ที่มีอายุการทำงานในระยะเวลาสั้นเพียง 1 ปี ดังนั้นหลังจากที่ครบอายุ คตส. ผู้ที่เกี่ยวข้องควรพุ่งเป้าไปเน้นที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ให้มีอำนาจในการดำเนินการตรวจสอบการทุจริต การป้องกันจะดีกว่า เพิ่มอำนาจให้ คตส. เพราะ คตส.เอง ขณะนี้ก็เหมือนจะไม่มีอำนาจ อีกทั้งบุคลากรก็ไม่มี ต้องไปหยิบยืมคนของเค้ามา และพวกที่มาช่วยเราทำงาน ในอนาคตต่อไปก็ไม่รู้จะมีความดีความชอบหรือไม่"นายแก้วสรรกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเวลาที่เหลือ คตส.จะสามารถบรรจุเรื่องทุจริตได้อีกกี่เรื่อง นายแก้วสรร ตอบว่า ต้องดูที่ข้อมูลเบื้องต้นว่ามีการทุจริตหรือไม่ หลักฐานสมบูรณ์หรือไม่ และหาก คตส.จะรับเรื่องใหม่เข้ามาดำเนินการตรวจสอบ ก็ต้องเอากำลังพลมาเพิ่มก็เท่านั้น

 





ความมั่นคง

 

ใต้ปะทะเดือด 15 นาทีโจรบุกถล่มทหารพรานดับ1เจ็บ3

เว็บไซต์คมชัดลึก - โจรใต้ปฏิบัติการโหด จ่อยิงหัวคนตัดยาง แถมใช้น้ำมันราดจุดไฟเผาซ้ำ ที่นราธิวาส ด้าน ร.ฟ.ท. ประกาศหยุดเดินรถเส้นทางนราธิวาส-สุไหงโก-ลก 2 วัน หลังถูกคนร้ายซุ่มยิงขบวนรถ

สถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ตรวจสอบศพนายทองมี หมายมั่น อายุ 70 ปี อาชีพรับจ้างตัดยางพารา ซึ่งถูกคนร้ายใช้ปืนยิงศีรษะและลำตัว รวม 2 นัด ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากตลาดมาตามถนนภายในหมู่บ้านไอยาดา หมู่ 8 ต.รือเสาะ เกือบถึงบ้านพักในระยะเพียง 500 เมตร นอกจากนี้ คนร้ายยังใช้น้ำมันราดก่อนจุดไฟเผาซ้ำ พร้อมนำรถจักรยานยนต์ของนายทองมี หลบหนีไปด้วย เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานที่เกิดเหตุไว้สืบตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 





สิ่งแวดล้อม

 

ทส.เตรียมฟันเรือน้ำตาลต้นเหตุน้ำเน่า เกษตรกรไม่ปักใจเชื่อ-รง.ยันเป็นแพะทำปลาตาย

เว็บไซต์ข่าวสด - เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผวจ.อ่างทอง เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้สรุปผลการวิเคราะห์หาสาเหตุน้ำเน่าเสียจนเป็นเหตุทำให้ปลาในแม่น้ำเจ้าพระยาตายในเขต จ.อ่างทอง และจ.พระนครศรีอยุธยา โดยนำข้อมูลรายงานต่อคณะรัฐมนตรีชัดเจนว่า สาเหตุที่ทำให้ปลาตายมาจากอุบัติเหตุเรือน้ำตาลทรายแดงล่ม ทำให้ปริมาณออกซิเจนในแม่น้ำเจ้าพระยาค่อยๆ ลดลงตามระยะทางที่น้ำไหลผ่าน จนกระทั่งถึงจุดที่ทำให้ปลาตายซึ่งมีออกซิเจนน้อยที่สุด

 

เมื่อถามว่าเกษตรกรยังสงสัยโรงงานผงชูรสว่าเป็นต้นเหตุและไม่ยอมรับผลการพิสูจน์ นายวิบูลย์ กล่าวว่า ทส.เป็นตัวแทนกลางที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ได้วิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ ทำแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ สามารถเทียบจากแผนภูมิในการวิเคราะห์ว่าค่าดีโอ (ออกซิเจนละลายน้ำ) ในบริเวณที่ปลาตายมีต่ำมาก ในส่วนโรงงานอุตสาหกรรมคณะทำงานได้เชิญสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (ว.ส.ท.) มาพิสูจน์วิเคราะห์ สมดุลมวล มีการขุดรื้อท่อพิสูจน์ จนได้ข้อสรุปว่าไม่มีการต่อท่อน้ำเสียลงแม่น้ำเจ้าพระยาแต่อย่างใด

 

นายสุเทพ กาแก้ว นายกอบต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก กล่าวว่า เราพบแนวท่อ 3-4 ท่อพุ่งจากโรงงานไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ครม.กลับแถลงว่า สาเหตุเนื่องจากเรือน้ำตาลล่ม ด้านนายวิชัย สุทธิเลิศวรกุล ผู้บริหารบริษัทเคทีเอ็มเอสจี จำกัด ผู้ผลิตผงชูรสอายิโนะทะกะระ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับโรงงาน เราเยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจพิสูจน์

 

รายงานแจ้งว่าสำหรับกรณีเรือน้ำตาล เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา เรือบริษัทเจ้าเพชรสมุทรการขนส่ง จำกัด บรรทุกน้ำตาลทรายแดง 650 ตัน จากท่าเรือบริษัทสยามส่งออกไปส่งต่างประเทศ เมื่อแล่นมาถึงท่าเรือคลังสินค้า บมจ.ยูไนเต็ดสแตนดาร์ดเทอร์มินัล อ.เมือง มีน้ำเข้าทางกาบเรือด้านซ้ายคาดว่ากระแทกก้นแม่น้ำ เรือจึงค่อยๆ ล่ม โดยเจ้าของเรือได้แจ้งความต่อ ร.ต.ต.จีรโชติ จันทเนตร พงส.(สบ.1) สภ.อ.เมืองอ่างทอง

 

สังเวยน้ำป่าทะลุ39ศพ! จี้ตั้งสัญญาณเตือนชี้หลายน้ำตกเสี่ยง

เว็บไซต์คมชัดลึก - สรุปเหยื่อน้ำป่าถล่มน้ำตกเมืองตรังเป็น 37 ศพ ยังไม่หยุดค้นหาผู้สูญหาย ญาติร่ำไห้รับศพล้น รพ. พบตระกูลใหญ่ปักษ์ใต้เสียคนในครอบครัวพร้อมกันหลายตระกูล มท.2 ตรวจเยี่ยมพร้อมสั่งสอบหาเหตุหลังพบฝนตกน้อยกลับเกิดน้ำป่าถล่ม คาดเกิดจากรุกป่า กระทรวงทรัพยากรฯ ยอมรับมีการรุกป่าเทือกเขาบรรทัดบางส่วน ดันตั้งสัญญาณเตือนภัยบริเวณน้ำตก ขณะที่กรมอุตุฯ เตือนหลายพื้นที่ระวังน้ำป่าถล่มซ้ำช่วงนี้

 

โศกนาฏกรรมในช่วงเทศกาลวันครอบครัว หลังน้ำป่าและโคลนถล่มน้ำตกสายรุ้งและน้ำตกไพรสวรรค์ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ขณะนักท่องเที่ยวกำลังเล่นน้ำ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ล่าสุดพบศพแล้วถึง 37 ศพ

 

 





การศึกษา - คุณภาพชีวิต

 

หนุน ก.ม.ฟันธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์

ไทยรัฐ - จากกรณีที่มีข่าวการจ้างทำวิทยานิพนธ์ ซึ่งหลาย ฝ่ายพยายามแก้ไขปัญหา โดยมีข้อเสนอทั้งออกกฎหมายลงโทษผู้จ้างทำและรับจ้างทำ ขณะเดียวกันก็รณรงค์ให้ นิสิตนักศึกษารักในศักดิ์ศรีของตนเองและสถาบันการศึกษา จะต้องทำวิทยานิพนธ์ด้วยตนเองนั้น นายรัฐพงศ์ บุญญานุวัตร กรรมการและเลขานุการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กล่าวว่า การจ้างทำและรับจ้างทำวิทยานิพนธ์เป็นการ สมยอมกันทั้ง 2 ฝ่าย  ตนเห็นด้วยที่กระทรวงศึกษาธิการจะออกกฎหมายเป็นการเฉพาะเพื่อลงโทษทั้ง 2 ฝ่าย ในส่วนของสถาบันการศึกษาเองก็จะต้องดูแลการสอบวิทยานิพนธ์อย่างเข้มงวด ทั้งนี้ ในการสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์ จะประกอบด้วยคณะกรรมการไม่น้อยกว่า 5 คน จะซักถามเกี่ยวกับปัญหาการวิจัย ระเบียบวิธีวิจัยก็จะทำให้ทราบว่า นิสิตนักศึกษาคนนั้นทำวิทยานิพนธ์ด้วยตนเองหรือไม่ ส่วนที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ก็ควรมีเวลากับนิสิตนักศึกษาให้มาก ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาการจ้างทำวิทยานิพนธ์ได้ในระดับหนึ่ง เท่าที่ตนทราบ การจ้างทำวิทยานิพนธ์ ส่วนใหญ่จะเป็นระดับปริญญาเอก โดยเฉพาะผู้เรียนที่ทำงานแล้ว หรือเป็นข้าราชการระดับสูงที่ไม่ค่อยมีเวลาก็มักจะจ้างทำ เป็นเงิน 2-4 แสนบาท ธุรกิจของผู้รับจ้างจะมีนักวิชาการกลุ่มหนึ่งทำงานด้วย เป็นลักษณะธุรกิจสีเทา ตนจึงเห็นด้วยที่ควรจะมีกฎหมายลงโทษ

 

สังคมวิกฤติเปิดช่อง 'ละเมิด' ทางเพศ

เว็บไซต์ไทยรัฐ - นางชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยระหว่างการสัมมนาเรื่อง สิทธิทางเพศสิทธิมนุษยชนพื้นฐานที่ถูกละเลยว่า   ในขณะที่สังคมไทยกำลังเรียกร้องความเป็นประชาธิปไตยอย่างหนักหน่วงนั้น กลับเปิดโอกาสให้มีการละเมิดสิทธิทางเพศได้ เพียงเพราะขาดเมตตาและความอดทนอดกลั้นต่อความแตกต่างหลากหลาย โดยเฉพาะความแตกต่างในวิถีชีวิตทางเพศ

 

ด้าน น.ส.ณธกมล รุ้งทิน ตัวแทนจากเครือข่ายผู้หญิงพิการ กล่าวว่า ตนอยากบอกกับทุกคนว่า คนพิการก็มี "เพศ" เช่นกัน โดยการที่ผู้หญิงมาพูดเรื่องเพศ ก็หนักใจอยู่แล้ว ผู้หญิงพิการมาพูดเรื่องเพศก็ยากยิ่งกว่า ที่ผ่านมา หญิงพิการถูกบังคับให้ทำหมัน ไม่ควรจะมีลูก เพราะว่าเลี้ยงตัวเองไม่ได้ มีผู้หญิงพิการมากมายที่ถูกข่มขืน คำถามคือ การทำหมันแก้ปัญหาไม่ให้เราถูกข่มขืนได้หรือไม่ ผู้หญิงพิการไม่ได้ต้องการข้าวสาร อาหารแห้ง แต่ต้องการสิทธิ ต้องการการปกป้อง ไม่ได้ต้องการอยู่ในบ้านเท่านั้น หรืออยากจะอยู่แต่ในสถานสงเคราะห์

 

สำหรับข้อเสนอแนะที่ได้จากการสัมมนาองค์กรสิทธิมนุษยชนกว่า 20 องค์กร ที่ทำงานในเรื่องของความหลากหลายทางเพศ ผู้หญิงพิการ ผู้หญิงมุสลิม เอชไอวี/เอดส์ และการส่งเสริมเพศศึกษาในเยาวชน ฯลฯ จะรวบรวมกรณีการละเมิดสิทธิที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศจากตัวแทนกลุ่มต่างๆ เพื่อร่วมกันกำหนดขอบเขตความหมายของคำว่าสิทธิทางเพศ และรณรงค์สร้างความเข้าใจเรื่องสิทธิทางเพศต่อสาธารณะ รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลจัดกลไกคุ้มครองสิทธิทางเพศ และดูแลเยียวยาบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการถูกเลือกปฏิบัติ ถูกตีตรา ถูกกระทำความรุนแรง หรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยให้ยึดหลักการพื้นฐานของการเคารพคนทุกคนและเคารพวิถีชีวิตทางเพศที่แตกต่างหลากหลายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน

 





เศรษฐกิจ

 

เชียงคำต้านไม่เอาโลตัส

เว็บไซต์ข่าวสด - เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส จะเข้ามาขยายสาขาในพื้นที่ อ.เชียงคำ ว่าขณะนี้ทางกลุ่มประชาชนในพื้นที่ได้มีความเคลื่อนไหวที่จะไม่ต้อนรับให้ห้างข้ามชาติดังกล่าว โดยชมรมพ่อค้า อ.เชียงคำ ได้มีการเร่งประชุมหารือกันในเบื้องต้นถึงการต่อต้านและให้มีการชะลอการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมค้าปลีกค้าส่งรายนี้ออกไป

 

นายชัยพร วงศ์สถาพรชัย ประธานชมรมพ่อค้า อ.เชียงคำ กล่าวว่า ทันทีที่พวกตนรับรู้ว่าทางห้างเทสโก้โลตัสได้เข้ามายื่นแบบแปลนขออนุญาตกับทางทต.เชียงคำ เพื่อขอก่อสร้างอาคารค้าปลีกค้าส่งซึ่งใช้พื้นที่ก่อสร้างกว่า 4,000 ตารางเมตร นั้น ทางชมรมพยายามหาช่องทางเพื่อจะต่อต้านด้วยสันติวิธี เบื้องต้นได้ทำหนังสือถึงนายสมชัย ศรีศิริสิทธิกุล นายกเทศมนตรีเชียงคำ เพื่อขอให้ชะลอการเซ็นอนุมัติ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากพ่อค้า แม่ค้าที่เป็นเจ้าของร้านในบริเวณตลาดเชียงคำและใกล้เคียงหวั่นวิตกว่าจะได้รับผลกระทบและจะเป็นการทำลายระบบสังคมแบบดั้งเดิมที่เอื้ออาทรต่อกันให้หายไป

 

ด้านนายสมชัย นายกทต.เชียงคำ กล่าวว่า ขอให้มีความชัดเจนกว่านี้ก่อนว่าห้างโลตัสต้องการที่จะเข้ามาขยายสาขาในพื้นที่เขตทต.เชียงคำ จริงๆ เพราะว่าขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการเจรจาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตนจะต้องรับฟังความทุกฝ่าย โดยเฉพาะการประชุมทั้ง 11 ชุมชน ในเขตเทศบาลว่าจะยอมรับหรือไม่

 





ต่างประเทศ

 

สิงคโปร์ออกกฎเข้ม กีดกันอาหารไทย

เว็บไซต์ข่าวสด - รายงานข่าวจากกรมส่งเสริมการส่งออกกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้กระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศ ของสิงคโปร์ได้ออกระเบียบใหม่เกี่ยวกับการหลักเกณฑ์การนำเข้าสินค้าอาหารจากต่างประเทศ โดยกำหนดให้สินค้าที่จะส่งออกไปยังสิงคโปร์ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ของฉลากใหม่คือ ต้องมีการพิมพ์รายละเอียดของสินค้าเป็นภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษรสูงไม่น้อยกว่า 3 มิลลิเมตร พร้อมมีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องคือ ชื่อสามัญของสินค้า น้ำหนักสุทธิ ชื่อและที่อยู่ โรงงานผลิต ส่วนประกอบของสินค้า บาร์โค้ด คุณค่าทางโภชนาการของสินค้า วันเดือนปีที่ผลิต หมดอายุ ควรบริโภคก่อนวันที่ในรูปแบบ dd/mm/yy โดยจะต้องพิมพ์เป็นอักษรที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร

 

สำหรับสินค้าส่งออกที่อยู่ในข่ายต้องปฏิบัติตามข้อบังคับฉลากข้างต้นประกอบด้วย ครีม วิปปิ้งครีมทำเค้ก นมพร้อมดื่ม โยเกิร์ต น้ำผักและผลไม้ แป้งสาลี น้ำสลัด มายองเนส ช็อกโกแลต น้ำช็อกโกแลต ลูกเกด อาหารกึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืชเป็นต้น ทั้งนี้หากผู้ส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทยไม่ไปฏิบัติตามอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าอาหารและสินค้าอาหารถึงสำเร็จรูปไปยังสิงคโปร์ เนื่องจากปัจจุบันไทยมีการส่งออกอาหารหรือหมวดอุตสาหกรรมการเกษตรแปรรูปไปยังตลาดสิงคโปร์ในปี49มีมูลค่าสูงถึง 4,506 ล้านบาท ขยายตัว 5.49%

 

มะกันฟุ้งวางรากฐานช่วยอาเซียนปราบก่อการร้าย

เว็บไซต์สยามรัฐ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า พลเรือเอกจอห์น ทูแลน ผู้อำนวยการประจำกิจการด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประจำกระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงว่า สหรัฐกำลังวางรากฐานในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในอาเซียน หลัง 5 ปีของการเปิดฉากสงครามกวาดล้างก่อการร้ายของสหรัฐ จากการดำเนินมาตรการคอยช่วยเหลือประเทศอาเซียนในการกวาดล้างก่อการร้ายทางอ้อม ที่ประกอบด้วยการช่วยฝึกทหาร,การช่วยยกระดับศักยภาพการสำรวจค้นแหล่งซ่องสุมของกลุ่มก่อการร้าย และการช่วยเหลือพัฒนาเศรษฐกิจประเทศอาเซียน

 

พลเรือเอกจอห์นกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา สหรัฐได้เคยฝึกทหารในฟิลิปปินส์ และนำไปสู่การสังหารสองผู้นำกลุ่มอายู ไซยัฟ ในพื้นที่ทางใต้ของฟิลิปปินส์ และการให้เงินสนับสนุนมาเลเซี 12 ล้านดอลลาร์ ในการยกระดับการสำรวจค้นหาแหล่งซ่องสุมของผู้กอ่การร้าย และช่วยสร้างเครือข่ายตรวจสอบทางท้องทะเลในอาเซียนด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ภัยคุกคามก่อการร้ายในเอเชียยังคงเป็นเรื่องร้ายแรง โดยเฉพาะความรุนแรงในปัญหาภาคใต้ของไทย โดยเป็นที่วิตกว่ากลุ่มอัล เคด้า ฉวยประโยชน์จากกรณีไทยถูกตัดเงินช่วยเหลือจากสหรัฐ เร่งโหมกระพือสถานการณ์ไม่สงบในปัญหาภาคใต้ของไทย

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท