ประชาไท - 3 เม.ย. 2550 เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่รัฐสภา ตัวแทนกำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศเข้ายืนหนังสือต่อ นายนรนิติ เศรษฐบุตรประธานสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อขอยืดวาระการดำรงตำแหน่งออกเป็น 60 ปีในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดย นายอนุวัฒน์ ทินราช ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านนครราชสีมากล่าวว่า ทุกวันนี้สิทธิของกำนันผู้ใหญ่บ้านสิ้นสุดลงแค่ภูมิภาคและท้องถิ่น ซึ่งภารกิจตรงส่วนนี้มีความคาบเกี่ยวกัน แต่กฎหมายกลับระบุให้กำนันผู้ใหญ่บ้านดำรงตำแหน่งได้ 5 ปี จึงอยากเสนอให้มีการขยายระยะเวลาของการดำรงตำแหน่งออกเป็น 60 ปีหรือไม่อย่างต่ำก็น่าจะ 10 ปี เพราะขณะนี้การที่กำนันผู้ใหญ่บ้านดำรงตำแหน่งได้แค่ 5 ปี ทำให้พวกค้ายาบ้าสามารถแทรกแซงและเอากำนันผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่งได้

นายนรนิติ กล่าวว่า เรื่องการจะกำหนดให้กำนันผู้ใหญ่บ้านเข้ามาใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องยากเพราะเรื่องนี้เป็นส่วนของกฎหมายท้องถิ่นและการออกกฎหมายลูกไม่เกี่ยวกับรัฐธรมนูญ อย่างไรก็ตาม เสนอให้กลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านทำหนังสือมาเป็นลายลักษณ์อักษรและจะนำไปยื่นให้กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่บางแสน ในวันที่ 6 เมษายาที่จะถึงนี้ ส่วนการที่กำนันผู้ใหญ่บ้านขอให้มีการยืดเวลาการดำรงตำแหน่งออกไป 60 ปีเหมือนเดิมนั้น เป็นเรื่องที่ยากเพราะขณะนี้ถ้ายืดออกไปเป็น 60 ปีก็เท่ากับกำนันผู้ใหญ่บ้านต้องกลับไปรับราชการเช่นเดิม ซึ่งเรื่องนี้ต้องฟังเสียงประชาชนด้วยว่าต้องการอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมามูลนิธิ ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้เข้ายื่นหนังสือต่อประธาน ส.ส.ร.เพื่อเสนอบรรจุเรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้โดยมีข้อเสนอที่สำคัญอาทิ ควรให้การศึกษาเรื่องการกระจายอำนาจอย่างจริงจัง ควรมีการจัดตั้งองค์กรเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ควรกำหนดบทบาทและหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีการดำเนินการในเรื่องการให้บริการสาธารณะได้ทุกเรื่อง การกำกับดูแลองค์กรส่วนท้องถิ่นควรมีองค์กรกลางในรูปของคณะกรรมการติดตามและกำกับดูแลเกี่ยวกับการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นทั้งระดับจังหวัดและในระดับส่วนกลาง การบริหารราชการแผ่นดินควรมี 2 ระดับ คือส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งนายนรนิติได้รับหนังสือไว้และรับปากว่าจะไปประสานกรรมาธิการยกร่างฯ ให้อีกครั้ง

"นรนิติ" เตือนหาเสียงระหว่างทำประชามติประชาชนจะสับสน

นายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับหนังสือจากกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านและมูลนิธิ ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นว่า ข้อเสนอในประเด็นยกร่างรัฐธรรมนูญจากกลุ่มต่างๆ ถึงกรณีความมั่นใจที่จะทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญผ่านหรือไม่ผ่านนั้น อยากบอกว่ารัฐธรรมนูญยังไม่เสร็จจะมั่นใจได้อย่างไร เพราะไม่สามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ ต้องรอให้รัฐธรรมนูญเสร็จก่อน และถ้าเนื้อหารัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยก็สามารถอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้ แต่ขณะนี้ร่างรัฐธรรมนูญไม่รู้ซ้อนอะไรไว้บ้าง  เช่น หมวดสิทธิเสรีภาพก็น่าสนใจ เพราะดีกว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 ส่วนกรณีมีม็อบเคลื่อนไหวมากขึ้นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง จนไม่สามารถใช้รัฐธรรมนูญได้นั้น ก็จบ สภาร่างรัฐธรรมนูญไม่ต้องทำงานแล้ว

"ส่วนกรณีมีม็อบเคลื่อนไหวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ตามหลักประชาธิปไตยต้องยอมรับความเห็นที่แตกต่างโดยสันติวิธี ส่วนกรณีพรรคการเมืองเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศคปค.ฉบับที่ 15 และ 27 เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเตรียมพร้อมเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนธ.ค.นั้น ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดู เพื่อให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมการเมืองได้ โดยเฉพาะต้องให้เวลาพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งพรรคให้ได้จดแจ้งและจัดตั้งต่อ กกต. แต่ก็ต้องระมัดระวังพรรคการเมืองที่จะทำกิจกรรมในช่วงที่จะทำประชามติ เพราะประชาชนอาจสับสนได้" ประธานส.ส.ร.กล่าว

"ส.ส.ร." ขวาง "กมธ.ยกร่างฯ" เขียน รธน. ที่บางแสน               

นายการุณ ใสงาม ส.ส.ร. กล่าวว่า การรับฟังความเห็นประชาชนหลายครั้งมีการใช้งบประมาณมากเกินความจำเป็น เช่นการจ่ายค่าวิทยากร สูงถึง 3 พันบาท เงินในส่วนนี้สามารถนำไปใช้อย่างอื่นได้มาก และไม่เห็นด้วยที่กมธ.ยกร่างฯ จะไปประชุมที่บางแสน จ.ชลบุรี เพราะห้องประชุมงบประมาณที่รัฐสภา ก็สามารถประชุมได้มีเจ้าหน้าที่ที่พร้อมจะช่วยเหลืองาน มีโทรทัศน์วงจรปิดถ่ายทอด ไม่ต้องไปได้หรือไม่ที่จะไปบางแสนเพราะห้องงบประมาณสามรถทำได้ และเจ้าหน้าที่เราก็สามรถช่วยเหลืองานได้ โดยควรจะจัดประชุมวันจันทร์ อังคารและศุกร์ ติดต่อกันประชาชนที่จะยื่นหนังสือก็ทำได้