ตามที่ 8 องค์กรประชาธิปไตยร่วมกันจัดกิจกรรมต้านรัฐประหารระหว่างวันที่ 17, 18 และ 20 มี.ค. นั้น วานนี้ (18 มี.ค.) เวลา 16.00 น. เครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหารและองค์กรต่างๆ จัดการปราศรัยที่ท้องสนามหลวงในโอกาสครบรอบ 6 เดือนรัฐประหาร และจะจัดการขบวนไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่งเป็นที่พักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยทางเครือข่าย 19 กันยาฯ เชื่อว่า บ้านสี่เสาเทเวศร์เป็นศูนย์บัญชาการของคณะรัฐประหาร
นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะขึ้นเวทีปราศรัย
ผู้ชุมนุมนัดสนามหลวง ครูประทีปท้าสนธิโต้วาที
โดยเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เครือข่าย 19 กันยาและสมาพันธ์ประชาธิปไตยได้มีการปราศรัยและเตรียมตั้งขบวนที่เวทีด้านท้องสนามหลวง ฝั่งศาลฏีกา โดยช่วงหนึ่งนางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ จากมูลนิธิดวงประทีป ได้ขึ้นปราศรัยว่า "5-6 เดือนที่ คมช. โค่นล้มระบอบประชาธิปไตย ทำให้ประเทศชาติล่มจม ขณะนี้ประเทศชาติกำลังเสียหาย ช่วยไปถามหน่อยว่านายสนธิ ลิ้มทองกุลมัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหน" โดยนางประทีปยังได้กล่าวท้านายสนธิ ลิ้มทองกุลมาโต้วาทีกันที่ท้องสนามหลวง
นอกจากนี้นางประทีปได้พาดพิงถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ ครม.ว่า "เกือบหกเดือนแล้วที่ท่านและคณะได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้ประเทศชาติและประชาชน เกิดคนจนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก คนจนที่จนอยู่เดิมแล้ว ท่านก็เพิ่มความทุกข์ยากให้ทับทวีคูณ ประชาชนสุดทนต่อไปแล้ว ดังนั้นวิถีทางที่จะทำให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีคือการคืนอำนาจให้ประชาชน การปฏิรูปการเมืองควรจะมาจากประชาชนโดยตัวแทนที่ประชาชนเลือกตั้งเข้ามา ท่านควรนำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้และประกาศให้มีการเลือกตั้งเร็วที่สุด"
ต่อมาข้างหน้าเวทีมีกิจกรรมเล่นว่าว ซึ่งว่าวแต่ละตัวจะมีรูปภาพใบหน้าของสมาชิก คมช.และ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ และจากนั้นมีการตัดสายว่าว เพื่อแสดงถึงการตัดขาดไม่ยอมรับอำนาจ คมช.และ พล.อ.เปรม เพราะเชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร และเป็นผู้ที่มีการกระทำขัดต่อระบอบประชาธิปไตย
เคลื่อนไปบ้านสี่เสา ตะโกนไล่ป๋าระงม
ในช่วงเวลาประมาณ 17.45 น. ผู้ชุมนุมประมาณ 1,000 กว่าคน ได้เคลื่อนขบวนจากสนามหลวงไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดยผู้ชุมนุมเดินขบวนมาตามถนนราชดำเนินกลางและเลี้ยวซ้ายที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเข้าถนนดินสอ ผ่านแยกเฉลิมวันชาติ ด้านหลังกองบัญชาการกองทัพบก แยกประชาเกษม หน้าคุรุสภา แยกวังแดง แล้วจะเลี้ยวซ้ายเข้าสโมสรกองทัพบก โดยทางเครือข่าย 19 กันยาระบุว่าจะจัดเสวนาบนถนนศรีอยุธยาตัดกับถนนนครสวรรค์ บริเวณใกล้ๆ บ้านสี่เสาเทเวศร์ตลอดทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ตะโกนไล่ คมช. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ให้ออกไป และมีการตะโกนว่า "เบื่อป๋า เซ็งเปรม" ไปตลอดการเดินขบวน
นอกจากนี้ ยังมีการแจกเอกสาร 'คำประกาศ 6 เดือนเผด็จการ ลอกคราบอำนาจจอมบงการ ฯ' ด้วยโดยระบุว่า รัฐประหาร19 กันยายน 2549 ไม่อาจเกิดขึ้นได้หากไม่มีการบงการจากบ้านสี่เสาซึ่งเป็นแกนกลางในการโค่นล้มระบอบประชาธิปไตย โดยสมคบคิดกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปัญญาชน นักวิชาการ เอ็นจีโอ สื่อ ชนชั้นสูง ราชนิกูล ตลอดจนพรรคการเมืองอีกหลายพรรค ทั้งที่ในยามที่บ้านเมืองวิกฤต คนมีบารมีและมีบทบาททางสังคมสูงอย่างพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ สามารถจะกระทำการเป็นคุณูปการต่อประชาธิปไตยได้มากมาย แต่กลับสวมบทบาทเป็นจอมบงการทำลายทุกคนที่ขวางเส้นทางอำนาจ
ในคำประกาศของเครือข่าย 19 กันยาฯ ยังเชิญชวนให้ประชาชนช่วยกันขุดรากถอนโคนอำนาจเช่นนี้ให้สิ้นซาก และมีการระบุด้วยว่าหลักฐานชี้ชัดว่าระบอบเปรมกำลังจะกลับมา เพราะมีความพยายามยกร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยครึ่งใบคล้ายกับสมัยที่พล.อ.เปรมเป็นนายกฯ ทั้งนี้ วิธีที่ประชาชนจะสามารถทำได้ในการต่อสู้คือไม่ให้ความร่วมมือ ชุมนุมประท้วง ลงประชามติล้มล้างรัฐธรรมนูญเผด็จการ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนหนึ่งผู้ปราศรัยได้แจ้งกับผู้ชุมนุมว่า มีข่าวรายงานระบุว่าขบวนประชาชนจากภาคเหนือที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมไม่สามารถเข้ากรุงเทพฯ ได้ เนื่องจากถูกบล็อกจากเจ้าหน้าที่ทำให้ไม่สามารถเข้ามาได้ ขณะเดียวกันนี้ ที่จังหวัดขอนแก่น ก็มีกลุ่มประชาชนรวมตัวกันชุมนุมต้านรัฐประหารที่อนุสาวรีย์จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ด้วยเช่นกัน
ผู้ชุมนุมเผชิญหน้ากับตำรวจบริเวณสี่แยกวังแดง
ตำรวจอารักขาเข้มบ้าน "ป๋า"
ระหว่างการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร จากกองร้อยที่ 4 กองบัญชาการตำรวจนครบาล 1 จำนวน 2 กองร้อย โดยเป็นหน่วยปราบจลาจลหญิง 1 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ทหารรวมกันกว่า 500 นาย ได้ปิดถนนบริเวณสี่แยกวังแดง และบริเวณโดยรอบเพื่อรักษาความปลอดภัย โดย นพ.เหวง โตจิราการ ได้ประสานพูดคุยกับ พ.ต.อ.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเปิดทางได้เคลื่อนขบวนมาชุมนุมและเปิดการปราศรัยบริเวณแยกพล 1 แต่เจ้าหน้าที่สกัดไม่ให้แยกไปชุมนุมบริเวณหน้าบ้านสี่เสาฯ ซึ่งห่างไปราว 100 เมตร ซึ่งระหว่างเจรจา พ.ต.อ.พชร กล่าวกับ นพ.เหวงว่า "เราฟังกลุ่มนี้ตั้งแต่ที่สนามหลวง เข้าใจดีว่าต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่ได้ใช้วิธีการรุนแรง"
หมอเหวงชี้ไม่เอารธน.อัปยศทอดอำนาจ ชี้ คมช.ต้องถอนตัวและเลือกตั้งทันที
น.พ.เหวงกล่าวว่าที่มาวันนี้ไม่ได้มายื่นหนังสือ แต่จะมาถาม พล.อ.เปรม ว่าอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหารหรือไม่ ส่วนตัวยืนยันว่าตนและกลุ่ม 19 กันยา ไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับอัปยศเพราะเป็นการสืบทอดอำนาจ ทั้งนี้ นพ.เหวงตั้งข้อสังเกตว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ปธ.กมธ.ยกร่างฯ มักออกมาชี้นำเรื่องที่มาของนายกฯ ว่าไม่สมควรให้มาจากการเลือกตั้ง นอกจากนี้ คมช.ควรถอนตัวออกไปและจัดการเลือกตั้งให้ได้ภายในปีนี้
น.พ.เหวงกล่าวว่า ขอเตือนคมช.และพล.อ.เปรม ว่าหากต้องการให้บ้านเมืองสงบจริงๆ ควรปลดพล.อ.สพรั่ง ออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้สร้างปัญหาให้คมช. และรัฐบาล ขอแนะนำให้รัฐบาลหรือผู้มีอำนาจนำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ และดำเนินการจัดการเลือกตั้ง โดยให้เป็นหน้าที่ของ กกต. เมื่อมีส.ส. มีสภา และรัฐบาลแล้ว ให้กลุ่มเหล่านี้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริง
เรียกร้องใช้รธน.40 เลือกตั้งเร็วที่สุด
ชนกาญจน์ พันธุ์เดิมวงศ์ แกนนำกลุ่ม 19 กันยา ต้านรัฐประหาร กล่าวถึงจุดประสงค์ในการชุมนุมประท้วงบุกบ้านสี่เสาฯ ว่า 1. การมาครั้งนี้เพื่อบอกว่าประชาชนรู้ว่าคนที่ผลักดันให้เกิดรัฐประหารคือใคร และอยากให้พล.อ.เปรม ลงจากอำนาจ คืนประชาธิปไตยให้กับประชาชน 2. ชุมนุมประท้วงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ไม่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เพราะพล.อ.เปรมเองก็ถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก 3. ไม่ต้องการระบอบเปรมมาธิปไตย ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กำลังยกร่างกันอยู่นี้ปรากฏชัดเจนว่าจะมีอะไรหลายอย่างเหมือนกับสมัยที่พล.อ.เปรมเป็นนายกฯ
สำหรับข้อเรียกร้องในการชุมนุมครั้งนี้ ชนกาญจน์ระว่า ต้องการให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกทั่วประเทศ และยกเลิกประกาศ คปค.ทุกฉบับ ที่สำคัญ ต้องการให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด โดยใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ไปก่อน หากจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปการเมือง ก็ต้องเป็นหน้าที่ของสภาที่มาจากการเลือกตั้ง
สำหรับเรื่องความปลอดภัยนั้น ชนากาญจน์ มั่นใจว่า เครือข่าย 19 กันยาฯ เชื่อมั่นในประชาชนที่มาเข้าร่วม เพราะได้ทำความเข้าใจกับประชาชนมาโดยตลอดว่าไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง และกิจกรรมที่จัดมาตลอด 6 เดือนก็เป็นตัวพิสูจน์ชัดถึงเจตนารมณ์
ผู้ชุมนุมตีต้นกล้วยเพื่อ "ตัดไม้ข่มนาม" 4 เสาที่ค้ำจุนเผด็จการ
นพ.เหวง โตจิราการ และ นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ แกนนำผู้ชุมนุมขณะเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอนำต้นกล้วยไปวางใกล้รั้วบ้านสี่เสาเทเวศร์
ตัดต้นกล้วยข่มนาม 4 เสาค้ำจุนเผด็จการ
นอกจากนี้กิจกรรมสำคัญที่ทางเครือข่าย 19 กันยาฯ ได้จัดทำคือ "การตัดไม้ข่มนาม" โดยใช้ต้นกล้วย 4 ต้น อันเป็นสัญลักษณ์ของ 4 เสาที่ค้ำจุนเผด็จการ เสาแรกคือ เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ เสาที่สองคือ สมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เสาที่สามคือ องค์กรอิสระ เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นต้น และเสาสุดท้ายคือ ปัญญาชน นักวิชาการ ที่รับใช้อำนาจรัฐประหาร รวมไปถึงแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
หลังจากนั้นได้มีการเจรจาระหว่าง นพ.เหวง โตจิราการ กับ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ เพื่อขอให้ตัวแทนผู้ชุมนุมผ่านแนวกั้นบริเวณ 4 แยกพล 1 เพื่อนำต้นกล้วยที่เป็นสัญลักษณ์ 4 เสา ไปวางไว้ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ "เราจะไม่ได้ทำความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น ท่านสามารถตรวจสอบได้เป็นเพียงต้นกล้วยเท่านั้นเอง" นพ.เหวงกล่าว ขณะที่ พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ กล่าวว่า "จริงๆ เขาจะไม่ให้เคลื่อนเลย แต่ผมขอกราบเรียนผู้บังคับบัญชาจริงๆ เพราะว่าคุณหมอมาเอง และเมื่อคุณหมอไปที่หน้ากองทัพบกคุณหมอพูดอยู่ในเกมว่าต้องการเห็นประชาธิปไตยเป็นอย่างไร อยากเอาประชาธิปไตยคืนมาเท่านั้นเอง แต่ถ้าเกิดนายเขามองว่าไม่เหมาะสมขึ้นมา เดี๋ยววันหน้าจะลำบาก" ขณะที่ นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ แกนนำการชุมนุมกล่าวว่า "ไม่มีอะไรครับ เราใช้สันติวิธีตลอด"
ปีนรั้วไปวางต้นกล้วยใกล้บ้านป๋า หลังเจรจานาน
ซึ่งมีการเจรจาอยู่นานกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมให้แกนนำการชุมนุม 4 คนปีนข้ามแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนำต้นกล้วยที่เป็นสัญลักษณ์ 4 เสา ไปวางไว้ที่ข้างรั้วสโมสรกองทัพบก ห่างจากรั้วบ้านสี่เสาเทเวศร์ประมาณ 10 เมตร และหลังจากนั้นแกนนำผู้ชุมนุมได้มีการประกาศสลายการชุมนุมไปอย่างสงบในเวลาประมาณ 20.20 น.
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเครือข่าย 19 กันยาฯ ครั้งนี้ไม่สามารถไปถึงหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ และไม่มีตัวแทนของประธานองคมนตรีออกมารับต้นกล้วยด้วย ผิดกับกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถวายฎีกาผ่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2549 ซึ่งครั้งนั้น พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้มารับตัวนายสนธิและแกนนำอีก 2 คนเข้าไปในบ้าน โดยมีตัวแทนจากสำนักราชเลขาธิการมารับฎีกาดังกล่าวด้วย โดยนายสนธิเข้าไปประมาณ 10 นาที จึงเดินออกมาจากบ้านสี่เสาเทเวศร์ พร้อมกับยกมือขวาชูกำปั้น โดยมีกลุ่มม็อบตะโกนพร้อมกันว่า "วันนี้เราทำสำเร็จแล้ว ทักษิณต้องออกไป"
ขณะที่ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มต่อต้านการทำรัฐประหารรวมตัวกันที่ท้องสนามหลวง และมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ หากไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม ถือเป็นการแสดงออกโดยสงบ คงไม่มีปัญหาอะไรและเชื่อว่าไม่บานปลาย แต่ต้องขอร้องผู้ชุมนุมให้ฟังเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความเรียบร้อยด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และตำรวจดูแลอยู่ และขอร้องว่าให้ชุมนุมโดยสงบ
ปธ.คมช.เปิดงานถนนคุณธรรม หวังคนไทยซื่อสัตย์-รู้คุณแผ่นดิน
ขณะที่มีม็อบบุกบ้านประธานองคมนตรีนั้น ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อเวลา 19.00 น. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) พล.อ.ไพศาล กตัญญู รองผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ร่วมงานถนนคุณธรรม ตามโครงการคุณธรรมนำไทย ที่ถนนราชดำเนินนอก สะพานมัฆวาน
ซึ่งในงานมีการจัดแสดง 4 ส่วนคือ ซื่อสัตย์ไม่คดโกงใคร กตัญญูรู้ทดแทนคุณ รู้รักสามัคคี และสังคมคุณธรรม มีการออกร้านจำหน่ายอาหารจากเหล่าศิลปิน ส่วนที่บริเวณเวทีใหญ่ หน้าลานพระบรมรูป มีการแสดงบนเวทีของเหล่านักร้องลูกทุ่ง การแสดงหมอลำจากนักร้องสาว จินตหรา พูนลาภ ส่วนตลอดแนวถนนราชดำเนิน ก็มีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การแสดงมายากล การแสดงคนต่อขา การวาดรูปเหมือน ฯลฯ
ทั้งนี้ พล.อ.สนธิ ในฐานะประธานการจัดงาน ได้กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประเทศของเรามีปัญหาเรื่องของความแตกแยก ปัญหาการทุจริต คอร์รัปชั่น ความขัดแย้งทางการเมือง และปัญหาอื่นๆ ที่ทุกคนในสังคมไทยจะต้องแก้ไข ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติทุกคน มีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะดำเนินการตามทุกวิถีทางให้ประเทศชาติของเรามีสังคมที่ดีงาม มีความมั่นคงปลอดภัย และมีความเจริญก้าวหน้า ซึ่งนำมาสู่โครงการคุณธรรมนำไทย เพื่อขับเคลื่อนพลังคนไทยทุกภาคส่วน ร่วมกันสร้างสรรค์สังคมไทยให้มีอุดมการณ์ ยึดมั่นในความรักชาติ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ มีความซื่อสัตย์ สุจริต รู้คุณแผ่นดิน และรู้รักสามัคคี
วันนี้ถือเป็นวันเริ่มต้นที่ดี ที่คนไทยจะช่วยกันสร้างสังคมใหม่ที่ปราศจากการทุจริตและการเห็นแก่ตัว โดยการใช้คุณธรรมเข้ามาช่วยหล่อหลอมจิตใจของคนในสภาวะที่สังคมกำลังถูกครอบงำด้วยวัตถุนิยม ซึ่งวันนี้จะเป็นวันประวัติศาสตร์ของคนไทยที่จะทำสิ่งดี ๆ ร่วมกันสร้างสังคมใหม่ที่มีแต่คุณธรรม พล.อ.สนธิ กล่าว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)