ข่าวมอนิเตอร์ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550


การเมือง

 

ธีรยุทธเปรียบรัฐ 'ฤาษีเลี้ยงเต่า' ทำงานเชื่องช้าไร้ทิศทาง-แนะสวมบท'ขุนพันธ์'ล้างระบอบทักษิณ

มติชน - "สุรยุทธ์"ลั่นวางมือทางการเมืองหลังเลือกตั้ง "ทักษิณ"เตรียมขึ้นเวทีสถาบันไอเอสเอสที่อังกฤษ" ธีรยุทธ บุญมี"ชำแหละการทำงานของรัฐบาล- คมช.ไร้ทิศทาง เชื่องช้าต้วมเตี้ยมเปรียบเหมือน "ฤาษีเลี้ยงเต่า" แนะ "สุรยุทธ์" ต้องเป็นขุนพันธรักษ์ราชเดช ไม่ใช่ขุนพันธ์เฉพาะกิจ จี้ไล่รื้อ "ระบอบทักษิณ" พร้อมแนะตั้งสติปรับบุคลิกความเป็นผู้นำ 5 ด้าน ด้าน "นพดล" เผย "ทักษิณ" เตรียมขึ้นจ้อบนเวทีสถาบัน ไอไอเอสเอส ที่อังกฤษ พูดเรื่องประชาธิปไตยที่ทางแยก ยืนยันไม่วิจารณ์ คมช.

 

'ธีรยุทธ' เสนอล้างระบอบทักษิณ

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิพากษ์รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และคมช. ว่าเป็นรัฐบาล "ฤาษีเลี้ยงเต่า" ยังข้ามไม่พ้นการสร้างความชอบธรรมหลังยุคทักษิณ ในขณะที่ตัวของทักษิณเอง หลุดวงโคจรทางการเมืองไปแล้ว เนื่องจากพลังของสังคมไทยไม่ยอมรับและสังคมมองว่าทักษิณคือปัญหาทางการเมือง

 

หลังยุคทักษิณ กลุ่มสังคม องค์กร และสถาบันอ่อนแอมาก ส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง ยิ่งการแก้ปัญหาของรัฐบาลและ คมช.ยังล่าช้า และไม่มีทิศทางชัดเจน ความขัดแย้งที่มีหลายกลุ่มในสังคมเพิ่มมากขึ้น สังคมไทยก็ไม่สามารถหลุดพ้นวัฒนธรรมอำนาจนิยมไปได้ ดังนั้นขึ้นอยู่กับความรู้ ความคิด และสร้างกลไก องค์กรต่าง ๆ สถาบันให้ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นที่ยอมรับ ที่ทุกภาคส่วนของสังคมและภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม

 

อาจารย์ธีรยุทธ มองว่าหากรัฐบาลสุรยุทธ์ ถอดรื้อความชอบธรรมระบอบทักษิณไม่ได้ ยิ่งจะทำให้สังคม องค์กร สถาบันต่าง ๆ อ่อนแอ รัฐบาลก็ยิ่งวิตกที่จะตามถูกเช็คบิล กลับเพิ่มความขัดแย้งอีกครั้งได้ การทำงานของรัฐบาลก็เดินหน้าไม่ได้ตามเป้าหมาย ทางออกรัฐบาลและคมช. ต้องไม่ขัดแย้งกัน เพราะหากขัดแย้งกัน จะทำให้เกิดความเลวร้ายขึ้นในสังคม โดยทหารจะอ้างความชอบธรรมเองที่จะสืบทอดอำนาจ

 

สดศรีปูด ส.ส.ร.จ้องตีรวนอำนาจ กกต.ทำประชามติ

กรุงเทพธุรกิจ - "สดศรี สัตยธรรม" เผยหลักเกณฑ์ประชามติรัฐธรรมนูญ 33 มาตราไม่มีช่องโนโหวตป้องกันนับคะแนนวุ่นวาย หวั่นที่ประชุมส.ส.ร.วันนี้มีคนตีรวนไม่ให้อำนาจกกต.ทำประชามติ พร้อมกันนี้ปัดข้อเสนอ "วิทยากร" แบ่ง 10 คำถามทำประชามติรัฐธรรมนูญ เหตุรธน. 2549 บังคับต้องขอมติทั้งฉบับ "เจิมศักดิ์" เปิดช่องแก้รธน.อ้างประชาชนสับสนเนื้อหารัฐธรรมนูญทั้งฉบับ

 

ปกดำ 'รัฐบาลแม้ว' เสร็จ เม.ย.

เว็บไซต์เดลินิวส์ - นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดทำสมุดปกดำการทำงานของรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ว่าทางคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ในภาวะวิกฤติ และประชาสัมพันธ์เชิงรุกของรัฐบาล (วอร์รูม) ได้เขียนในส่วนที่ 1 เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนเสร็จแล้ว เหลือเพียงอ่านทบทวน ส่วนที่เหลืออีก 4 ส่วน คือ การ    ทุจริตคอร์รัปชัน เผด็จการธนาธิปไตย ทักษิโณ มิกส์ ทุนนิยมแบบเครือญาติ และการกระทำที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบันเบื้องสูง คาดว่าในเดือนเมษายนนี้จะแล้วเสร็จ และสามารถจัดพิมพ์ได้

 

เจิมศักดิ์ชงแก้ก.ม.ประชามติ หวั่นประชาชนสับสนหากให้ลงมติทั้งเล่ม

ผู้จัดการ - "เจิมศักดิ์" ชงแก้กฎหมายประชามติ เชื่อถามความเห็นทั้งเล่มทำให้ประชาชนสับสน  "สวัสดิ์" ย้ำ รธน.ชั่วคราวกำหนดชัดต้องประชามติทั้งเล่ม โดยวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 จะมีการประชุมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อพิจารณารายงานความคืบหน้าการร่างรัฐธรรมนูญ และการพิจารณารายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างหลักเกณฑ์วิธีการออกเสียงประชามติและการออกเสียงประชามติ

 

โพลล์พบประชาชนอยากให้รัฐสั่งปิดทั้ง 'เอเอสทีวี' และ 'พีทีวี'

เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,378 คน ระหว่างวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ กรณีการเปิดตัวของพีทีวี พบว่าประชาชนร้อยละ 42.69 รู้สึกเฉยๆ กับการออกอากาศของพีทีวี โดยให้เหตุผลว่า ประชาชนสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ ร้อยละ 30.04 ไม่เห็นด้วย เพราะทำให้เกิดความแตกแยก เกรงว่าเงินสนับสนุนอาจมาจากกลุ่มผู้มีอิทธิพล ส่วนร้อยละ 27.27 เห็นด้วย เนื่องจากมีช่องทางรับรู้ข่าวสารเพิ่มมากขึ้น

 

'พีทีวี' ลั่นไม่สนขู่ลองของยันเปิดแน่ 1 มีนา 'ธีรภัทร์' ขึงขังเจอดีแน่แฉเอเอสทีวีขอถอนคดี

บ้านเมือง - พีทีวีลองของไม่กลัวคำขู่รัฐบาล ลั่น 1 มีนาฯ แพร่ภาพแน่ อ้างมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ วอนรัฐบาลอย่าปิดหู-ปิดตาประชาชน  ตีกรอบประชาชน ยันไม่ได้ใช้ทุนการเมือง สร้างศัตรูรุกรานใคร จตุพร อัด ธีรภัทร์ ไม่มีมาตรฐาน ทั้งที่มาตรฐานดาวเทียมเดียวกับเอเอสทีวี เดินหน้าประกาศขายหุ้น ด้าน ธีรภัทร์ ขึงขังขู่พีทีวีดื้อแพ่งสั่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เอาผิดแน่ ยอมรับเอเอสทีวีเคยขอให้ถอนคดี แต่ปฏิเสธเพื่อลบข้อครหา 2 มาตรฐาน ดร.สุเมธ ชี้รัฐบาล ทักษิณ ละเลยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อยากเป็นเสือตัวที่ 5 จนลืมตัวตนประเทศ การพัฒนาเลยแตกดับ ทำคนไทยเจ็บป่วยจากการบริโภคนิยม ด้านโฆษก คมช.จวก ทรท.แกล้งไขสือลืมประกาศ คปค.ลืมหน้าที่พลเมืองดี อัด อ๋อย หมดอำนาจเดินหน้าต่างจังหวัดตามประชานิยมแล้ว

 

สงครามการเมืองผ่านสื่อ ศึกทีวีดาวเทียมกำลังเขย่าเสถียรภาพรัฐบาล เมื่อนั่งบริหารราชการแผ่นดินมาได้แค่เพียง 4 เดือน ขณะที่รัฐบาลยังขู่เสียงเข้มเอาผิดแน่ถ้าดื้อรั้นเปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม 24 ชั่วโมง พีทีวี วันที่ 24 ก.ย. นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม 24 ชั่วโมง พีทีวี พร้อมด้วยนายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธานกรรมการบริหาร นายจักรภพ เพ็ญแข ตัวแทนบริษัทผู้ผลิตรายการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการสถานี ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวพีทีวี อย่างเป็นทางการ โดยมีสื่อมวลชนและประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคไทยรักไทย ให้ความสนใจเดินทางมาร่วมงานอย่างคึกคัก และก่อนการแถลงข่าว ได้จัดให้มีการฉายวีดีโอการเตรียมงานการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ด้วย

 

นายวีระ กล่าวว่า ตั้งใจจะให้สถานีโทรทัศน์พีทีวี เป็นสถานีที่ประชาชนเป็นเจ้าของและมีส่วนร่วม เพื่อทำประโยชน์ให้ประชาชน สร้างสรรค์ชาติบ้านเมืองให้เกิดประชาธิปไตยในประเทศ ไม่ได้มีเจตนาจะเป็นศัตรูกับใคร ขณะนี้บ้านเมืองตกอยู่ในความมืดมน สับสน ดังนั้น หากมีสถานีโทรทัศน์ที่ให้ความรู้ ข้อมูลข่าวสาร แลกเปลี่ยนความเห็น น่าจะเป็นประโยชน์ เวลานี้บ้านเมืองต้องการสื่อที่ตรงไปตรงมารอบด้าน ประชาชนมีสิทธิ์เลือก ไม่ใช่อยู่ในกรอบ ดูได้เฉพาะที่ใดที่หนึ่ง อย่างไรก็ตาม ไม่ขอพูดเรื่องข้อกฎหมาย และยืนยันว่าจะเปิดสถานีและออกอากาศในวันที่ 1 มีนาคมนี้แน่นอน ตนฟังจากทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ รัฐบาล และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ไม่เข้าใจว่าทำไมเขามีท่าทีกับเราเหมือนเป็นตัวประหลาด เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะออกอากาศเรื่องอะไร ก็มีเสียงคำรามมาจากสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเหมือนหนึ่งว่าเราไม่ใช่ประชาชน ทั้งที่พวกเราใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เราไม่ได้เปิดสถานีเพื่อทำลายความมั่นคงของชาติ สร้างความวุ่นวาย แต่ต้องการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่คนไทยต้องการ

 

นายวีระ ย้ำว่า เงินทุนที่ใช้ในการเปิดสถานีโทรทัศน์พีทีวี มาจากการรวบรวมเงินจากพวกพ้องน้องพี่ คนที่ศรัทธาในอุดมการณ์ของเรา และต่อไปจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามาเป็นเจ้าของ โดยได้แจกแบบฟอร์มจองหุ้น ซึ่งถือว่าเป็นการระดมทุนจากประชาชน และเนื้อหาของรายการ ไม่ได้เน้นเฉพาะเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจ แต่จะครอบคลุมเรื่องศาสนาและวัฒนธรรมด้วย และว่า เมื่อเรายืนยันว่า เราทำการเมืองที่โปร่งใส เราก็จะทำงานสื่อด้วยความโปร่งใสเช่นเดียวกัน อย่าวิตกทุกข์ร้อนกับการเกิดของสถานีโทรทัศน์ ต้องตั้งสติดีๆ ผมไม่ต้องการรุกรานใคร เรายืนบนพื้นฐานความเสมอภาค เราต้องการเสรีภาพ ผมจึงลาออกจากกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย พร้อมกับนายจตุพร ที่ลาออกจากการเป็นรองโฆษกพรรค แต่คงความเป็นสมาชิกสามัญของพรรคตามสิทธิพลเมือง ส่วนอะไรนอกเหนือจากนี้ จะพิสูจน์ด้วยการทำงาน

 

ค้านออก ก.ม.ต่ออายุ คตส. "กล้านรงค์"ระบุแค่ องค์กรเฉพาะกิจ ธีรภัทรหนุนเต็มที่

เดลินิวส์ -  ปปง." ชง ครม.แก้ กม.เล่นงานนักการเมือง ระบุมูลฐานความผิดการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ชี้นักการเมืองออกมาพูดหรือโฆษณาระวัง มีโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำผิด "กล้านรงค์" ค้านหัวชนฝา ออก กม.ต่ออายุ คตส.ชี้แค่องค์กรเฉพาะกิจ เชื่อทำลายหน่วยงานเดิมแน่หากต่ออายุงานให้ ผิดกับ "ธีรภัทร์" ที่กระโดดรับลูกหนุนให้ต่ออายุเต็มที่ "สมศักดิ์" โวยลั่น คตส.ตัดตอน เลือกปฏิบัติคดีรถ-เรือดับเพลิงฉาว ระบุไม่เคยเรียกไปแจง แต่กลับถูกตั้งข้อกล่าวหาทั้งที่ทำตาม รมต.มอบหมาย ระบุส่งเอกสารถึง กทม.แค่ชิ้นเดียวก็เป็นเรื่อง ขณะที่อนุที่ดินรัชดา จับพิรุธใหม่หลังพบมีการแก้ทีโออาร์ ส่วนอนุไต่สวนซีทีเอ็กซ์ ดีเดย์ แจ้งข้อกล่าวหา "ทักษิณ-สุริยะ" 26 ก.พ.นี้ "วิชา" พร้อมสรุปคดีออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินคลองด่าน มี.ค.นี้ เผยเรียกโปลิศมีเอี่ยวกระทืบม็อบสอบ 1 มี.ค. โผล่อีกทุจริตอีริกการ์ด "สุวิทย์" เต้นสั่งตั้งคณะกรรมการสอบทันที เปรยผลาญงบแผ่นดิน ที่ผ่านมาไม่มีการบริหารโครงการเลย

 

กรณีปัญหาทุจริตโครงการต่าง ๆ ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทางคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กำลังตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยมีโครงการทุจริตผุดออกมาเป็นระลอก ๆ ล่าสุดอนุกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงของ กทม. เตรียมส่งเรื่องแก่ คตส.ให้ดำเนินการเอาผิด 3 นักการเมือง กับ 2 ข้าราชการผู้ใหญ่ของกทม. มีความผิดฐานทำให้รัฐเสียหาย 6 พันล้าน ส่วนคดีแอมเพิลริช ต้องสะดุดเล็กน้อย เนื่องจากบริษัทตลาดหลักทรัพย์ยูบีเอส ประเทศไทยจำกัด ยังไม่ได้ส่งข้อมูลมาให้ ขณะเดียวกัน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ก็กำลังรวบรวมรายชื่อสมาชิก สนช.เพื่อเสนอรัฐบาลต่ออายุให้กับ คตส.ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่เซอร์ เจมส์ ลอด์จ รีสอร์ต จ.สระบุรี วันที่ 24 ก.พ. นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คตส.กล่าวถึงเรื่อง สนช.ที่จะให้ต่ออายุการทำงานของ คตส.ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่มติของ คตส. เท่าที่ทราบเป็นเรื่องของ สนช.คิดขึ้นเอง คตส.คิดว่าเวลาที่มีอยู่ 1 ปี จะเร่งรัดการทำงาน เชื่อว่างานที่เหลืออยู่ 11-12 เรื่อง น่าจะเสร็จทัน เว้นแต่จะไปรับเรื่องใหม่เพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม สนช. มีเจตนาดี แต่ในแง่ของกฎหมาย ควรพิจารณามุมมอง 2 ด้าน ตนคงไม่บอกว่าถูกหรือผิด

 

 


ความมั่นคง

 

โจรใต้บึ้มรายวันเผาโรงเรียนอีก

บ้านเมือง - โจรใต้เหิมเกริมหนักลอบบึ้มทหารเจ็บ 1 นาย ขณะลาดตระเวนดูแลเสาไฟฟ้าแรงสูง ยิงถล่มร้านน้ำชาลูกค้าเจ็บ 4 ราย วางเพลิงบ้านพักคนงานฆ่าสัตว์วอดทั้งหลังและเผาโรงเรียนเสียหายยับ 1 แห่ง ด้าน "อารีย์" มท.1 เครียดวอนหยุดวิจารณ์ ศอ.บต. ยันมีผลงานเพียบ พร้อมส่งทีมลงพื้นที่เร่งพัฒนาคุณภาพชีวิต ปชช. ขณะที่กอ.รมน.ยืนยันพร้อมรับมือเหตุร้ายช่วงวันมาฆบูชา-สงกรานต์ แย้มกำลังจับตากลุ่มผู้ต้องสงสัยอย่างใกล้ชิด

 

โฆษกทบ.เผยหมายจับ 26 โจรใต้ เปิดเวทีปชช.ฟังปัญหาชาวบ้าน

โฆษกกองทัพบก เผยออกหมายจับ 26 โจรใต้วางบึ้มคืน 18 ก.พ. พร้อมสั่งเปิดเวทีประชาชนให้คนในพื้นที่ร่วมแสดงความคิดเห็นและสะท้อนปัญหา "ธีรยุทธ บุญมี" จี้รัฐบาลตั้งศูนย์ป้องกันวินาศภัย เตือนประชาชนทำใจเสี่ยงกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ และยอมรับการสูญเสียอย่างไม่คาดฝัน พร้อมตื่นตัวและหาวิธีป้องกันตัวเอง แนะรัฐบาลดับไฟใต้ต้องดำเนินนโยบายคู่ขนานทั้งการเมือง-การทหาร

 

แกนนำพันธมิตรฯ ท้าจาตุรนต์ แจงความล้มเหลวทักษิโณมิกส์

ผู้จัดการ - "จาตุรนต์"ไม่สนประกาศ คปค.เตรียมเดินสายภาคเหนือ ยันจะใช้นโยบายเดิมในการหาเสียงเลือกตั้งสมัยหน้า อ้าง 20 โครงการประชานิยมประสบความสำเร็จ ด้าน"แกนนำพันธมิตร"จี้ จาตุรนต์แสดงความกล้าหาญ ลบภาพลิ่วล้อ"แม้ว"จนถูกยึดอำนาจ ติงควรพูดความจริงให้ครบทุกด้าน รวมทั้งความล้มเหลวของระบอบทักษิโณมิกส์ด้วย ขณะที่ "สุรยุทธ์" ยันวางมือการเมืองหลังได้รัฐบาลใหม่ ย้ำมีเลือกตั้งแน่

 


เศรษฐกิจ

 

ครม.หักดิบเร่งลงนาม JTEPA ความผิดพลาดรัฐบาลสุรยุทธ์

เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ - และแล้วในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) 22 ก.พ.2550 ก็ได้มีมติเห็นชอบในหลักการที่ไทยจะลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (Japan-Thailand Economic Partnership Agreement : JTEPA) หรือชื่อก่อนหน้าที่เรียกกันว่าเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น ตามที่นายพิศาล  มาณวพัฒน์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยเป็นผู้เสนอ

 

ขั้นตอนจากนี้ไปให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งให้ฝ่ายญี่ปุ่นทราบว่า ไทยพร้อมที่ลงนาม ภายใต้เงื่อนไขทั้งสองฝ่ายต้องไปทำความเข้าใจเพื่อให้เกิดความชัดเจนและลดความกังวลใน 2 ประเด็นตามข้อท้วงติงของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประกอบด้วยเรื่องขยะของเสียอันตราย และสิทธิบัตรจุลชีพ ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายสามารถทำความเข้าใจที่ตรงกันและสามารถลดความกังวลของฝ่ายไทยได้แล้วให้รายงานให้ครม.รับทราบ โดยนายพิศาลระบุว่า คาดจะมีการลงนาม JTEPA ประมาณต้นเดือนเมษายนศกนี้

 

พลันที่ ครม.มีมติให้ความเห็นชอบดังกล่าวได้มีกระแสต่อต้านจากหลายฝ่ายถึงความไม่เหมาะสมโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน(เอฟทีเอ ว็อทช์) และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ที่มองว่ารัฐบาลมีความเร่งรีบ รวบรัดมากเกินไปอาจนำมาซึ่งความไม่รอบคอบรัดกุมของข้อตกลง และจะส่งผลกระทบต่อภาคประชาชนอย่างรุนแรงในภายภาคหน้า

 

ดร.เจริญ  คัมภีรภาพ รองอธิการบดีฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญาและภูมิปัญญาไทย มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า มติ ครม.ดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่ไม่ได้บัญญัติการให้อำนาจฝ่ายบริหารในการลงนามใดๆ ที่มีผลผูกพันกับต่างประเทศในระยะยาว ดังนั้นมติครม.จึงถือเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักกฎหมายรวมถึงหลักนิติธรรม หลักจริยธรรม และสะท้อนให้เห็นถึงวุฒิภาวะทางการเมืองของรัฐบาล ต่อเรื่องนี้ทาง กสม.จะยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับการลงนามเอาไว้ก่อน โดย ดร.เจริญมองว่า รัฐบาลนี้ทำดีที่สุดได้เพียงการเอาข้อตกลงมาเปิดเผย และให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นข้อดี-ข้อเสีย และให้มีการแก้ไขข้อตกลงเพื่อที่รัฐบาลชุดใหม่จะได้มาดำเนินการต่อไปภายใต้กรอบที่ชอบธรรมต่อไป

 

ขณะที่ ศจ.เสน่ห์ จามริก ประธาน กสม. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา กสม.และคณะนักวิชาการได้เข้าหารือกับพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้มีการพิจารณา JTEPA ให้รอบคอบในทุกมิติโดยกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการหารือ พล.อ.สุรยุทธ์รับปากจะให้เวลาในการพิจารณาร่วมกันเป็นเวลา 3 เดือน แต่เวลาเพิ่งผ่านมาไม่ถึงเดือน ครม.ได้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.โดยสมาชิก สนช.ได้รับเอกสารซึ่งมีเนื้อหาทางกฎหมายความหนาถึง 942 หน้าล่วงหน้าก่อนการอภิปรายเพียง 1 วันไม่มีเวลาศึกษาเอกสารอย่างลึกซึ้ง ส่วนใหญ่สมาชิก สนช.ยกเว้นประธานคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ไม่ได้รับเอกสารร่างข้อตกลง แต่ได้รับเพียงเอกสารข้อมูลสรุปที่นายพิศาลนำมาแจกจ่ายให้ และผลการอภิปรายได้สรุปว่าสมาชิกส่วนใหญ่ให้การสนับสนุน แต่โดยข้อเท็จจริงมีสมาชิกอีกส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยไม่ได้รับอนุญาตให้ลุกขึ้นอภิปราย

 

ถัดมาเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ทาง กสม.ได้ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีแจ้งให้ทราบว่า ทางกสม.ร่วมกับนักวิชาการจะร่วมกันจัดวิเคราะห์ร่างความตกลงในทุกบริบทอย่างละเอียด แต่ให้หลังเพียงวันเดียว ครม.ก็ได้มีมติเห็นชอบในหลักการที่จะให้ลงนาม JTEPA จากการกระทำทั้งหมดที่กล่าวมา ทาง กสม.และภาควิชาการระบุว่า รู้สึกผิดหวังมากที่รัฐบาลไม่ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ว่า จะให้เวลาในการพิจารณา 3 เดือน และยังมองว่ารัฐบาลได้อาศัย สนช.และกสม.เพื่อสร้างภาพความโปร่งใสและสร้างความชอบธรรมให้แก่รัฐบาลเท่านั้น

 

นายจักรชัย  โฉมทองดี แกนนำกลุ่มเอฟทีเอ ว็อทช์ เปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้เตรียมประสานกับเครือข่างองค์กรภาคประชาชน 11 องค์กร เช่นเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี แห่งประเทศไทย เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก สมาพันธ์องค์กรประชาชนแห่งประเทศไทย สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย และสมาคมรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวใหญ่ เช่นเดียวกับการจัดชุมนุมในช่วงการเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐอเมริกาครั้งที่ 6 ที่เชียงใหม่เมื่อต้นปี 2549 หากรัฐบาลไม่แก้ไขร่างความตกลงที่ส่งผลกระทบกับคนไทยและรวบรัดลงนามในเดือนเมษายน

 

นายบัณฑูร  เศรษฐศิโรตม์ ผู้อำนวยการโครงการยุทธศาสตร์นโยบายฐานทรัพยากร ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า จากการที่ คณะกรรมการสิทธิฯได้รับเอกสารร่างความตกลง JTEPA เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2550 เบื้องต้นจากการพิจารณารายละเอียด พบข้อบกพร่องข้อตกลงในประเด็นขยะอันตราย และสิทธิบัตรจุลชีพ ล่าสุดจากการตรวจสอบร่างข้อตกลงที่ละบริบทพบว่ายังมีประเด็นที่น่ากังวลอีกมาก อาทิ ข้อเรียกร้องของญี่ปุ่นเรื่องการเพิ่มโทษการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้เป็นโทษทางอาญา ซึ่งมีความเข้มข้นไม่แตกต่างจากเอฟทีเอไทย-สหรัฐ เรื่องมาตรการที่ไทยจะบังคับใช้สิทธิในการผลิตยาที่มีบริษัทยาญี่ปุ่นเป็นเจ้าของสิทธิบัตรแทบไม่เปิดช่องทำได้เลย เป็นต้น อย่างไรก็ดีจากนี้ไปทาง กสม.และเครือข่ายนักวิชาการจะได้เดินหน้าศึกษาวิเคราะห์ร่างข้อตกลงอย่างละเอียดเพื่อนำมาตีแพร่ให้สังคมได้รับทราบต่อไป

 

อย่างไรก็ตามเสียงจากผู้คัดค้านส่วนใหญ่มองว่าที่ผ่านมารัฐบาลมองเพียงผลประโยชน์ของภาคธุรกิจเป็นหลัก โดยไม่คำนึงถึงต้นทุนและผลกระทบที่สังคมไทยต้องแบกรับทั้งในเรื่องฐานทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพ เรื่องสิ่งแวด เรื่องสุขภาพและสังคม ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็ยังมิได้มีการศึกษาต้นทุนและผลกระทบเพื่อเปรียบเทียบว่า ผลประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากข้อตกลง JTEPAในแง่การค้า-การลงทุนนั้นคุ้มค่าหรือไม่เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนที่ประเทศไทยต้องจ่ายให้กับญี่ปุ่นในอนาคต

 

จากนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.สุรยุทธ์ที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ว่าจะดำเนินการในเรื่องเอฟทีเออย่างรอบคอบ โปร่งใส เป็นธรรม และมีภูมิคุ้มกันในภาพรวมแม้จะมีเจตนาดีต่อประเทศชาติ แต่จากเสียงสะท้อนในหลายภาคส่วนที่ระบุถึงความไม่รอบคอบในอีกหลายมิติ หากรัฐบาลยืดระยะเวลาการลงนามออกไป และเปิดให้มีการศึกษาถึงผลกระทบอย่างรอบคอบทุกแง่มุมก่อนลงนามน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

 

อย่างไรก็ดีในทางปฏิบัติของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา จนกระทั่งครม.มีมติเห็นชอบให้ลงนามเมื่อ 20 ก.พ. 2550 หากพิจารณาตามเหตุและผลของกลุ่มผู้คัดค้านข้างต้น ถือว่าค่อนข้างมีน้ำหนักที่รัฐบาลต้องพิจารณาทบทวน และไม่ว่าจะมีผู้เบื้องหลังการตัดสินใจของครม.ในครั้งนี้หรือไม่ แต่ผลการกระทำของรัฐบาลถือได้ว่ามาพลาดในตอบจบที่ไม่ค่อยสง่างามนัก หากไม่เร่งทำความเข้าใจให้ดีอาจนำมาซึ่งการต่อต้านอย่างรุนแรงของภาคประชาชนในเร็วๆ นี้ และจะมีผลให้การลงนามต้องยืดออกไปอีกก็เป็นได้

 

คลังเล็งรื้อพรบ.เงินตรา เปิดทางธปท.ตกแต่งบัญชี แก้หนี้2แสนล้านบ.เป็นทุน

ผู้ว่าการ "แบงก์ชาติ" เสนอ "คลัง"แก้ไข พรบ. เงินตรา ขณะที่ "หม่อมอุ๋ย"รับลูก เตรียมเสนอให้ครม.พิจารณาอังคารนี้

 

แหล่งข่าวจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธปท. ได้เสนอ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้แก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)เงินตรา เพื่อแปลงหนี้ของธปท.เป็นทุน คาดว่าจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้ทันในวันอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์นี้

 

สคร.หาช่องสกัดบิ๊กคลัง กินเบี้ยประชุมเกิน3แห่ง

"คลัง" เดินหน้าแก้พรบ.เบรกข้าราชการระดับสูงไปนั่งกินตำแหน่ง กรรมการในรัฐวิสาหกิจต่างๆเกิน 3 แห่ง โดยจะห้ามไปนั่งเป็นกรรมการสรรหา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้วย

 

แหล่งข่าวจาก การะทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการแก้ไข พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 ว่า ล่าสุดอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขกฎหมายของ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)

 

โวย"ทีโอที"บล็อกโทร.ต่างแดน บิ๊ก"กสท"ชี้ทำธุรกิจไม่เป็นธรรม

ผู้บริหาร "กสท"ร่อนหนังสือถึง "ทีโอที"เลิกบล็อกสัญญาณโทร.ออกไปต่างประเทศ ขณะที่ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที ปฏิเสธไม่ได้ปิดกั้นสัญญาณ ระบุโทร.ไม่ติด อาจมาจากพื้นที่อับสัญญาณมากกว่า

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้บริการโทร.ทางไกลต่างประเทศของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)ผ่าน เลขหมาย 001 และ 009 ร้องเรียนว่าไม่สามารถใช้บริการผ่านโทรศัพท์พื้นฐานของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้

 

 


ต่างประเทศ

 

สิงคโปร์เปิดทางเทมาเส็กขายหุ้น 'ชินแซท' คืนไทย

มติชน - เดอะ ซันเดย์ ไทมส์ รายงานอ้างคำเปิดเผยของ "จอร์จ เอี๋ยว" ชี้การซื้อหุ้นชินแซท เป็นการทำธุรกรรมการค้าที่เป็นไปตามความสมัครใจของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เห็นว่าจะมีปัญหา ด้าน "จรัญ" เตรียมนัดหารือไอซีที สัปดาห์หน้ากรณีทวงคืนดาวเทียมจากสิงคโปร์

 

ยันขายเทมาเสกขึ้นอยู่ที่ความสมัครใจ

เว็บไซต์ไทยรัฐ - สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่านสพ.เดอะ ซันเดย์ ไทม์ ของสิงคโปร์ รายงานอ้างคำกล่าวนายจอร์จ โหยว รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ที่ระบุว่าการจะขายดาวเทียมที่กลุ่มบริษัทเทมาเสกซื้อมาจากกลุ่ม บ.ชินคอร์ปของไทยนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเป็นการซื้อขายกันโดยความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับเทมาเสกและผู้ซื้อที่จะพิจารณาว่าได้ราคาสมเหตุ ผลหรือไม่ ส่วนที่นายกฯไทยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียเมื่อวันเสาร์ (24 ก.พ.2550) ว่า รัฐบาลไทยจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อคืนดาวเทียมนั้น รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ระบุว่ารัฐบาลไทยต้องการสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจด้วยการต้อนรับการลงทุนจากต่างชาติและปฏิบัติต่อนักลงทุนทุกชาติอย่างเท่าเทียม

 

เผย อิหร่านเลิกส่งอาวุธให้กลุ่มติดอาวุธของอิรักแล้ว

ผู้จัดการออนไลน์ - เจ้าหน้าที่อาวุโสของอิรักเผย อิหร่านหยุดการฝึกและการจัดหาอาวุธให้แก่กลุ่มก่อความไม่สงบในอิรักแล้วเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อปล่อยให้แผนความมั่นคงที่มีสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนในกรุงแบกแดดประสบผลสำเร็จ

 

พม่าจับกุมเพิ่มอีก4 พวกประท้วงยากไร้

เว็บไซต์เดลินิวส์ - ทางการพม่ารวบตัวผู้ประท้วงเพิ่มอีก 4 ราย ที่เรียกร้องให้รัฐบาลทหารปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ส่วนพรรคฝ่ายค้านกล่าวประณามการจับกุมดังกล่าว อ้างประชาชนมีสิทธิในการแสดงความเห็น

 

เจ้าหน้าที่และผู้ติดตามการชุมนุมประท้วงในพม่าเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า รัฐบาล ทหารได้จับกุมตัวผู้ชุมนุมเพิ่มอีก 4 คน ที่มาร่วมการประท้วงเรียกร้องให้ปรับปรุงคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นการประท้วงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในพม่า ข่าวแจ้งว่า การประท้วงดังกล่าวมีผู้ร่วมชุมนุม 25 คน เป็นระยะเวลานาน 30 นาทีเมื่อวันพฤหัสบดีใกล้ตลาดใหญ่ในกรุงย่างกุ้ง โดยขอให้รัฐบาลปรับลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่มการจ้างงาน และให้มีไฟฟ้าใช้ตลอด 24 ชม.

 

สำหรับผู้ประท้วง 4 รายที่ถูกควบคุมตัวไปเป็นชาย 3 คนและหญิง 1 คน โดยชายทั้งสามอ้างว่า เป็นสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของนางออง ซาน ซูจี แต่ทางพรรคเองก็ไม่ได้ยืนยันว่า กลุ่มดังกล่าวเป็นสมาชิกพรรค แต่กล่าวประณามการจับกุม  ด้านโฆษกพรรคเอ็นแอลดีแถลงว่า ผู้ประท้วงไม่สมควรที่จะต้องถูกจับกุม เพราะพวกเขามีสิทธิในการแสดงความเห็น อีกทั้งการชุมนุมประท้วงก็ไม่ได้ไปสบประมาทรัฐบาลทหาร

 

นอกเหนือจากผู้ประท้วงแล้ว ตำรวจพม่ายังจับกุมผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น 3 คน รวมทั้ง 2 คนทำงานให้กับสื่อญี่ปุ่น ทั้งนี้ การประท้วงไม่มีบ่อยนักในพม่าภายใต้รัฐบาลทหารที่ปกครองประเทศมาตั้งแต่ปี 2505 ซึ่งมักจะปราบปรามกลุ่มผู้ไม่ลงรอยกับรัฐบาลอย่างหนัก อนึ่ง แม้พม่าเป็นชาติที่อุดมไปด้วยทรัพยากรทั้งก๊าซธรรมชาติและแร่ธาตุ แต่พม่าก็ยังเป็นหนึ่งในชาติยากจนที่สุดในโลก กอปรกับถูกสหรัฐกับสหภาพยุโรปคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ เพราะละเมิดสิทธิมนุษยชน และกักบริเวณนางซูจี ขณะที่องค์การอนามัยโลก จัดอันดับในเรื่องระบบสาธารณสุขของพม่าย่ำแย่เป็นอันดับสองของโลก รองจากเซียร์ราลีโอน

 

ออสเตรเลียเข้ม ส่งออกไทยป่วน

เดลินิวส์ - น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าออสเตร เลียเข้มงวดนำเข้าสินค้าอาหารมากขึ้น และอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจวิเคราะห์ความเสี่ยงการนำเข้าสินค้าอาหารหลายชนิด เช่น กุ้ง ไก่ เป็ด มะม่วงและส้มโอ เพื่อให้การนำเข้าสินค้าอาหารจากทั่วโลกปลอดสารปนเปื้อน เชื้อโรค หรือโรคแมลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยมาก เพราะระหว่างที่ออสเตรเลียยังไม่ได้ออกรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยง ไทยไม่สามารถส่งออกไปออสเตรเลียได้

 

 "มะม่วง ส้มโอ ออสเตรเลียยังไม่เคยออกรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงเลย ไทยจึงยังไม่สามารถส่งออกสินค้า 2 ชนิดไปได้ เพราะเขาอ้างว่า มีโรคแมลงที่เขาก็ไม่อยากให้เข้าไปแพร่พันธุ์ในประเทศเขา แต่เราก็ได้ให้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไปว่า โรคแมลงที่เขาอ้างถึงไม่เป็นอันตราย และมีวิธีการกำจัดอย่างไร หากเขาเห็นด้วยกับข้อมูลของเราก็จะทำรายงานเสร็จเร็ว แต่ถ้ามีความเห็นต่าง ก็ต้องเอาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มายันกัน"

 

สำหรับสินค้ากุ้งนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยได้ส่งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไปว่า กุ้งที่ส่งออกจากไทยปลอดจากโรคแน่นอน แม้ออสเตรเลียจะอ้างว่า พบไวรัสในกุ้งไทยถึง 3 ครั้ง ซึ่งหากออสเตรเลียไม่เห็นด้วยกับข้อมูลของไทยต้องหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาหักล้างกัน หากไม่สามารถหักล้างได้ และไม่เลิกใช้มาตรการกีดกันการนำเข้า ไทยจะฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ)

 

อย่างไรก็ตามหลังจากข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-ออสเตรเลียมีผลบังคับใช้มาแล้ว 2 ปี การค้า 2 ฝ่ายขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ โดยปี 49 มูลค่าการค้ารวม 295,523.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.69% จากปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออก 165,317.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.06% นำเข้า 130,206.1 ล้านบาท ลดลง 0.28% เกินดุลการค้า 35,111.4 ล้านบาท ขณะเดียวกันออสเตรเลียอนุญาตให้นำเข้าทุเรียนแกะเปลือกได้แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มตลาด และโอกาสส่งออกผลไม้ไทย

 

"หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์มากว่า เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย ทำให้ไทยเสียเปรียบ และได้รับผลกระทบมากมาย แต่จากการที่กรมติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่ปรากฏว่าจะมีผลกระทบรุนแรงในภาพรวมที่ทำให้ไทยเสียประโยชน์ ส่วนสินค้าที่ไทยยังไม่พร้อมเปิดเสรี เช่น โคนม โคเนื้อ กระทรวงเกษตรฯจะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

 

แต่งสาว-ปมฆ่าล้างราชวงศ์เนปาล

เว็บไซต์ไทยรัฐ - น.ส.เทพยานี รานา วัย 34 ปี ซึ่งเป็นชนวนของเหตุโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญเจ้าชายทิเพนทรา มกุฎราชกุมารเนปาล  ปลงพระชนม์หมู่กษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งพระองค์เอง 10 พระองค์เมื่อปี 2544 จัดงานฉลองสมรสกับนายไอศวารายา ซิงห์ หนุ่มนักธุรกิจด้านที่ปรึกษา หลานชายของอาร์จัน ซิงห์ รมว.กระทรวงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของอินเดีย ณ ที่พำนักของรัฐมนตรีอาร์จัน เมื่อ 24 ก.พ. หลังจากที่ทั้งคู่ทำพิธีสมรสเมื่อ 23 ก.พ. ณ บ้านของครอบครัวสกินเดีย ซึ่งงานฉลองสมรสของทั้งคู่มีแขกเหรื่อร่วมงาน กว่า 5,000 คน รวมทั้งบุคคลสำคัญอย่าง นายกรัฐมนตรี มันโมฮัน ซิงห์ ของอินเดีย และนางโซเนีย คานธี ผู้นำพรรคคองเกรส และบุคคลในแวดวงสังคมชั้นสูง

 

เจ้าชายทิเพนทรา รัวพระแสงปืนใส่กษัตริย์พิเรนทรา พระราชินีไอศวารายา และพระบรมวงศานุวงศ์แห่งราชวงศ์ชาห์ของเนปาลสิ้นพระชนม์รวม 9 พระองค์เมื่อ 1 มิ.ย. ปี 2544 เนื่องจากเจ้าชายทิเพนทราทรงพิโรธที่พระราชบิดาและพระราชมารดาขัดขวางไม่ให้อภิเษกสมรสกับ น.ส.เทพยานี เพราะความขัดแย้งระหว่างตระกูลสกินเดีย ของ น.ส.เทพยานี ซึ่งปกครองเนปาลในอดีตกับ ตระกูลชาห์ ทั้งนี้ 6 ปีที่ผ่านมาหลังโศกนาฏกรรม น.ส.เทพยานีไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณะและทำงานที่สหประชาชาติ โดยใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในทวีปยุโรป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท