21 ก.พ.50 กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน หรือเอฟทีเอว็อทช์ เปิดแถลงข่าวหลังจากวานนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้แจ้งต่อญี่ปุ่นว่าพร้อมจะลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) หรือเอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น หลังจากทำความเข้าใจกับญี่ปุ่นชัดเจนในประเด็นข้อห่วงใยว่าจะไม่เปิดโอกาสให้นำเข้าของเสียอันตราย และการจดสิทธิบัตรจุลชีพรวมถึงพันธุ์พืชใหม่
ทำบันทึกความเข้าใจแนบท้ายไม่มีประโยชน์
วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งกับการตัดสินใจเดินหน้าของรัฐบาล โดยให้อำนาจนาย
บัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ ผู้อำนวยการโครงการยุทธศาสตร์นโยบายฐานทรัพยากร ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ถึงตอนนี้เชื่อว่าไม่ใช่รัฐบาลไม่รู้ข้อบกพร่องของข้อตกลง แต่เพราะรัฐบาลเห็นว่าชีวิต สุขภาพ สิ่งแวดล้อมของประเทศไทยเป็นต้นทุนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่รัฐบาล "หวัง" จะได้จากญี่ปุ่น นอกจากนี้สมาชิกสนช.ที่อภิปรายหลายคนก็แสดงความคิดเห็นกันโดยที่ยังไม่ได้รับเอกสารความตกลงกว่า 900 หน้าไปศึกษา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศระบุเองว่าได้ส่งให้ สนช.พิจารณาล่วงหน้า 1 วัน
"ความหวังของประชาชนในการปฏิรูปการเมืองนั้นแทบไม่มีหวัง ถ้าการเมืองของไทยยังอาศัยสภาแต่งเติมภาพให้เกิดความโปร่งใสอย่างที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นี้" บัณฑูรกล่าวและว่าถึงที่สุดการทำเอฟทีเอในรัฐบาลนี้ในเนื้อหาสาระแทบจะเหมือนรัฐบาลที่แล้วทุกประการ
เขาระบุว่า เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับของมาเลเซีย ฟิลิปปินส์แล้วจะเห็นว่าญี่ปุ่นนั้นใช้มีพิมพ์เขียวอันเดียวกันในการเจรจา อยู่ที่ว่าประเทศไหนจะต่อรองได้มากกว่ากัน ซึ่งประเทศไทยดูเหมือนจะได้รายการสินค้าลดภาษีที่ท้ายที่สุดก็ไปติดเรื่องมาตรฐานสุขอนามัย (SPS) อยู่ดี แต่เรื่องสิทธิบัตรจะทำให้เสาหลักเรื่องการเข้าถึงทรัพยากรของชุมชนท้องถิ่น เกิดโจรสลัดชีวภาพมากมาย อีกทั้งการระบุให้คุ้มครองการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอย่างเข้มข้น และให้การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นโทษอาญาก็จะทำลายการพึ่งตนเองของไทย
เสนอถอดถอนคณะเจรจา
เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง จากกลุ่มศึกษาและรณรงค์มลภาวะอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศผิดคำพูดที่เคยรับปากไว้ทั้งในทางสาธารณะและโดยส่วนตัวว่าจะมีการเปิดหารือข้อบท JTEPA กันอีกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นของเสียอันตรายและสิทธิบัตรจุลชีพ
"คณะเจรจาเป็นเพียงนายหน้าเจราจาการซื้อขายของผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่ผู้แทนของประเทศไทย เราขอเสนอให้มีการถอดถอนคนกลุ่มนี้ในการเจรจาความเมืองครั้งต่อไป เพราะจะนำพาความเสียหายมากกว่าผลดี" เพ็ญโฉมกล่าว
เธอระบุด้วยว่า เรื่องของเสียอันตรายนั้นในทีมเจรจามีนักวิชาการสิ่งแวดล้อมเพียงคนเดียวเท่านั้น และเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานหลายคนยอมรับว่าผลที่ตามมานั้นเขาไม่รู้เลย ซึ่งเป็นเรื่องน่าตกใจมาก
"การที่สมาชิกสนช.บางคนพูดว่ายอมถูกมัดมือชกนั้นเป็นการพูดพล่อยๆ ที่จริงแล้วคนที่ถูกมัดมือชกคือคนไทยโดยเฉพาะคนจนที่ไม่มีสิทธิแม้การรับรู้และแสดงความคิดเห็น" เพ็ญโฉมกล่าว
บทการลงทุนกระทบการบังคับใช้สิทธิเพื่อยาราคาถูก
กรรณิการ์ กิจติเวชกุล จากกลุ่มเอฟทีเอว็อทช์ กล่าวว่า ในข้อตกลงบทว่าด้วยการลงทุนนั้นมีการระบุให้ถือเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นการลงทุนซึ่งต้องมีการคุ้มครองและชดเชยหากละเมิด แม้ในบทของทรัพย์สินทางปัญญาเองจะบอกไว้ว่าการบังคับใช้ให้เป็นไปตาม TRIPS และคำประกาศโดฮาที่ให้การคุ้มครองประโยชน์ด้านสาธารณสุข โดยมาตรการบังคับใช้สิทธิที่กระทรวงสาธารณสุขไทยเพิ่งประกาศใช้กับยา 3 ชนิดก็ถือเป็นเครื่องมือสำคัญอันหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในบทการลงทุนไม่ได้กำหนดให้ยกเว้นเรื่องการบังคับใช้สิทธิไว้ ทำให้มาตรการนี้อาจถูกตีความว่าเป็นการยึดทรัพย์หรือเสมือนยึดทรัพย์นำไปสู่การฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยได้
"เอฟทีเอของสหรัฐที่ว่าแย่ๆ ยังดีกว่าของญี่ปุ่น เพราะเอฟทีเอสหรัฐระบุชัดว่ามาตรการบังคับใช้สิทธิไม่ถือเป็นการยึดทรัพย์" กรรณิการ์กล่าว
เตรียมประท้วงใหญ่ ย่ำรอยเชียงใหม่
วิฑูรย์ กล่าว่า ขณะนี้กลุ่มเอฟทีเอว็อทช์กำลังประสานกับเครือข่าย 11 องค์กรที่เคยชุมนุมร่วมกันที่เชียงใหม่เมื่อครั้งประท้วงการเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐ เพื่อหารือในการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในการคัดค้าน JTEPA เนื่องจากปัญหาใน JTEPA แทบไม่ต่างจากเอฟทีเอไทย-สหรัฐ หากได้ผลสรุปเมื่อไรจะรีบแจ้งต่อสาธารณะโดยทันที
วันเดียวกันคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก็เปิดแถลงข่าวเรื่องเดียวกัน ศ.
รัฐบาลชั่วคราวไม่มีอำนาจทำความตกลงระหว่างประเทศ
นาย
"เราไม่ได้ต้านการค้าเสรี แต่ถ้าเป็นบทบัญญัติที่ทำให้ประเทศเสียหายต้องแก้ไข สนธิสัญญาเบาว์ริ่งเราใช้เวลา 100 ปี ในการเจรจาแก้ไขโดยสัญญานั้นมีเพียง 10 ข้อ จำนวน 2 หน้ากระดาษ แต่ JTEPA มีเนื้อหากว่า 940 หน้า และอีกหลายประเทศจะใช้สิทธิตามประเทศญี่ปุ่นมาหาประโยชน์กับประเทศไทย สิ่งที่เรียกร้องคือรัฐจะต้องฟังเสียงประชาชน มีจริยธรรม ครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณครั้งสุดท้าย สำหรับเรื่องกระบวนการเข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญได้จะต้องผ่านการพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีนี้จะไม่ก้าวล่วง แต่ถ้ากระบวนการยาวนานและไม่มีเวลาอาจจะขอความคุ้มครองชั่วคราวจากศาลรัฐธรรมนูญ"
เตรียมทำบันทึกข้อสังเกตไม่ชอบมาพากลให้ประธาน สนช.
รศ.
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการรับรู้ข่าวสารและแสดงความคิดเห็นหรือไม่ นายเสน่ห์ตอบว่า "เป็นการละเมิดกติกาทั้งหมด การประชาพิจารณ์แบบนี้น่าผิดหวัง เพราะวางภาพพจน์คุณธรรม จริยธรรมเยอะ วันหนึ่งพูดไม่รู้กี่คำ พยายามมอง พล.อ.
"เรียนตรงๆ ว่าผมผิดหวังอย่างแรง" ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกล่าว
เหตุผลหลักต้องเร่ง ญี่ปุ่นล็อบบี้ประธานองคมนตรี
นาย
นอกจากนี้ การมีรัฐประหาร สนช.และแถลงการณ์ของคณะรัฐประหารไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญเต็มใบ ร่างรัฐธรรมนูญมีไว้แค่เตรียมให้มีประชาธิปไตยไม่ใช่เพื่อการเซ็นสัญญาระหว่างประเทศเนื่องจากไม่มีตัวแทนของประชาชนในสภา อีกทั้ง สนช.หลายคนยังไม่มีประสบการณ์การเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นจากอดีตที่มีการในการลงนามเอฟทีเอไปแล้วกับประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และจีน ส่วนการศึกษาของ ทีดีอาร์ไอก็มองเพียงเรื่องผลประโยชน์ของบรรษัทต่อบรรษัท
ไกรศักดิ์ระบุต่อว่า หลังการลงนามเอฟทีเอกับออสเตรเลียพบว่ามีการกีดกันกุ้งจากประเทศไทย ส่วนในจีนการส่งออกผักสด ผลไม้สด ข้าว ตามแนวชายแดนไม่สามารถทำได้ต้อง เกษตรกรย้อนการขนส่งมาขึ้นเรือที่มาบตาพุด เพื่อนำเข้าไปทางเซิ่นเจิ้น หรือเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ เรือมักไม่รับสินค้าไทย รับแต่สินค้าจากจีนลงมาทำให้สินค้าจีนทะลักมา 70-80 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการลงนามกับญี่ปุ่นจะกระทบกับบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในไทยกว่า 1,500 โรงงาน เพราะญี่ปุ่นไม่เคยพึ่งโรงงานขนาดกลางและและในประเทศอื่นเลย ญี่ปุ่นมีบริษัทลูกผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ทุกยี่ห้ออยู่แล้ว ซึ่งบริษัทผลิตชิ้นส่วนของไทยแข่งขันไม่ได้แน่ ภายใน 2 ปี เจ้าของบริษัทเหล่านี้อาจจะสูญพันธุ์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)