Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 22 ม.ค.2550 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 มกราคม 2550 ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี มีการประชุมตัวแทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูลจำนวน 20 คน เพื่อพิจารณาการร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการบริหารกิจการศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 ที่ร่างโดยคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี มีนายอับดุลรอซัก อาลี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เป็นประธาน


 


นายสุริยา ปันจอร์ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างแก้ไขพระราชบัญญัติที่เสนอโดยนายนิเดร์ วาบา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์) ประกอบด้วย โดยที่ประชุมเห็นว่าทั้งสองร่างมีเนื้อหาบางประเด็นที่แตกต่างกันมาก จึงให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาหนึ่งชุด ประกอบด้วย ตัวแทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 5 จังหวัด จังหวัดละ 2 คน ทำหน้าที่พิจารณาเนื้อหาจากทั้ง 2 ร่าง ให้สอดคล้องกัน เพื่อหาจุดร่วมที่เป็นไปได้ในการการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการบริหารกิจการศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540


 


นายสุริยา เปิดเผยอีกว่า สำหรับประเด็นที่มีการหยิบยกขึ้นมาหารือ คือ ผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติ ซึ่งที่ประชุมเสนอให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาการ ต่างจากเดิมที่ให้รัฐมนตรีว่าการประทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้รักษาการ ข้อเสนอนี้สอดคล้องกับร่างของนายนิเดร์ ที่ให้ตั้งสำนักงานบริหารกิจการศาสนาอิสลามสูงสุด สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี


 


"นอกจากนี้ ที่ประชุมเสนอให้แยกอำนาจหน้าที่ของจุฬาราชมนตรี ออกจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยให้ชัดเจน โดยให้คณะกรรมการเลือกผู้ที่จะมาเป็นประธานกันเอง แทนการมอบหมายให้จุฬาราชมนตรีเป็นประธานโดยตำแหน่ง แต่น่าจะให้มีจุดเชื่อมกันระหว่างจุฬาราชมนตรีกับคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศ เช่น อาจจะให้จุฬาราชมนตรีเป็นที่ปรึกษา เป็นต้น ซึ่งประเด็นนี้ต่างกับข้อเสนอของนายนิเดร์ ที่ให้จุฬาราชมนตรีเป็นผู้บริหารสูงสุด" นายสุริยา กล่าว


 


นายสุริยา เปิดเผยอีกว่า ที่ประชุม ยังเห็นว่าที่มาของจุฬาราชมนตรี น่าจะกำหนดเป็นในกฎกระทรวง จะเลือกอย่างไรก็ได้ให้เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องระบุไว้ในร่างพระราชบัญญัติฉบับใหม่ นอกจากนี้ ที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับการตั้งสภาที่ปรึกษาสูงสุด เพื่อทำหน้าที่สรรหาจุฬาราชมนตรี คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ตามร่างของนายนิเดร์ แต่ยังไม่มีข้อสรุป จะต้องหารือกันอีกครั้ง อาจเป็นไปได้ว่าจะใช้วิธีสรรหาผู้ที่เหมาะสมก่อน แล้วให้มีการเลือกตั้ง พร้อมกับเสนอให้เสริมบทบาทของคณะกรรมการอิสลามประจังหวัด  ในด้านการศึกษาศาสนาอิสลาม โดยให้มีเงินอุดหนุนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net