ม็อบหนี้สินอีสานเดินเท้าบุกกรุง-ร้องรัฐแก้ปัญหา 4 ข้อหลัก

ผู้จัดการออนไลน์ : ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกษตรกรอีสานเคลื่อนทัพจากหน้าลาน "ย่าโม" โคราช เดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ แล้ว เพื่อชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้สินกว่า 2 แสนล้าน กำหนดถึงทำเนียบรัฐบาล 19 ม.ค.นี้ โดยมีเกษตรกรทั้ง 4 ภาคเข้าสมทบ เผยวันแรกพักค้างคืน ริมถนนมิตรภาพ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังเข้าดูแลความปลอดภัยเข้มงวด พรุ่งนี้ ( 8 ม.ค.) เดินทางต่อเข้าพักที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว เพื่อรอเกษตรกรฯ จากภาคตะวันออกสมทบ

สื่อต่างชาติวิตกไทย'วุ่น'หลัง'บึ้ม'

ผู้จัดการรายวัน : สื่อต่างประเทศรายงาน นักวิเคราะห์ต่างมองไทยหลังเหตุบึ้มกรุงเทพฯเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ได้นำพาประเทศกลับสู่ความชุลมุนวุ่นวายและความตึงเครียดทางการเมือง อีกทั้งยังทำให้เกิดข้อกังขาว่า คณะทหารจะทำตามสัญญาเรื่องการฟื้นฟูประชาธิปไตยหรือไม่

อินเตอร์เนชั่นแนลเฮอรัลด์ทรีบูน กล่าวในบทวิเคราะห์ข่าวว่า เหตุระเบิดกรุงเทพฯเมื่อวันสิ้นปีเก่า เป็นสัญญาณการเริ่มต้นของปีใหม่ที่ยากลำบากสำหรับประเทศไทย ในขณะที่ฝ่ายทหาร, ตำรวจ, และพวกชนชั้นนำซึ่งอยู่ในสภาพพร้อมรบ ต่างต่อสู้กันอุตลุดเพื่อควบคุมอนาคตของประเทศ

สำนักข่าวเอเอฟพีก็ได้จัดทำรายงานข่าวที่อยู่ในอารมณ์ความรู้สึกคล้ายๆ กัน รายงานชิ้นนี้อ้างความเห็นของนายฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กล่าวว่า เขามองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นการต่อเนื่องของเหตุวิกฤตและความสับสนปั่นป่วนและการเผชิญหน้า ซึ่งบังเกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว

ขณะที่นิตยสารไทม์บอกว่า แม้ในตอนแรกความสงสัยจะพุ่งไปที่กลุ่มมุสลิมก่อความไม่สงบ ทว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่เคยเปิดการต่อสู้นอกเหนือภาคใต้ ไทม์ยังยกคำพูดของ ฟรานเชสกา ลาเว-เดวีส์ นักวิเคราะห์ภูมิภาคเอเชียอาคเนย์แห่งกลุ่ม อินเตอร์เนชั่นแนล ไครสิส กรุ๊ป (ไอซีจี) ที่บอกว่า เหตุคราวนี้ไม่น่าที่จะเป็นผลงานของผู้ก่อความไม่สงบทางภาคใต้ ซึ่งปฏิบัติการอยู่แต่ในดินแดนของพวกเขาเองเสมอมา และถ้าหากพวกเขาเลือกที่จะโจมตีในกรุงเทพฯแล้ว ก็น่าจะเลือกเป้าหมายซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับรัฐไทยมากกว่า ไม่ใช่สถานที่สาธารณะเช่นนี้

บทวิเคราะห์ข่าวของเฮอรัลด์ทรีบูนก็บอกเช่นกันว่า บรรดานักวิเคราะห์การเมืองและนักการทูตกำลังวิตกกันว่า เหตุระเบิดอาจนำไปสู่การปกครองของทหารในรูปแบบที่แข็งกร้าวยิ่งขึ้น และอาจชะลอการหวนกลับไปสู่ประชาธิปไตยของไทย

ปชป.กระตุกรัฐฯยุติความรุนแรงระเบิดเวลาทางอำนาจ

แนวหน้า : นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสนอให้รัฐบาลประสานงานกับเครือข่ายภาคประชาชนทั้งประเทศ เพื่อตั้งเป็นองค์กรประชาชน เพื่อความมั่นคงเข้มแข็ง ใช้เป็นแนวร่วมในการป้องกันการก่อเหตุความไม่สงบทั่วประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลควรมีนโยบายเชิงรุกด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องแม่นยำมากกว่ามาตรการปกติ ตนคิดว่าคงไม่สามารถนำมาตรการเก่าที่เตรียมไว้มาใช้อีก เพราะไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน และรัฐบาลควรทำให้ผลการสอบสวนชัดเจนโดยเร็วว่า ใครอยู่เบื้องหลังเหตุวางระเบิด หากรัฐบาลสามารถจัดการได้ความเชื่อมั่นจะกลับคืนมา

ครป.ชี้ปี 50 ศึกหนักรัฐ-คมช.ถูกถล่มคุณธรรม แนะจุดขายใหม่ใช้"กึ๋น"แก้ปัญหามากขึ้น

เว็บไซต์แนวหน้า : นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) แถลงถึงสถานการณ์การเมืองปี 2550 ว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และรัฐบาล ต้องขาย "กึ๋น" มากกว่าความบริสุทธิ์ เพราะการทำงานช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ต้นทุนของรัฐบาลและ คมช.ในเรื่องคุณธรรม และความสุจริต มีมากกว่ารัฐบาล"ทักษิณ" จึงได้รับคะแนนนิยมจากสถาบันต่าง ๆ จำนวนมาก แต่ทั้งนี้สถานการณ์การเมืองปี 2550 นอกเหนือจากการสะสางปัญหาเก่าแล้ว คมช.และรัฐบาล จะต้องก่องานใหม่ โดยเฉพาะการแปรนโยบายที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้มีผลในทางปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปการเมือง การปฏิรูปสื่อ การสร้างความสมานฉันท์ และการแก้ปัญหาความยากจน

"ตำรวจจราจร" หนาว!!แผนกระจายอำนาจฉบับใหม่โอนให้กทม.ดูแล

ผู้จัดการออนไลน์ : กก.กระจายอำนาจฯ เผยแผนปฏิบัติการกระจายอำนาจฯ ฉบับใหม่เสร็จแล้ว คาดเดือน ก.พ. สามารถขอความเห็นชอบจากกรรมการชุดใหญ่ได้ ระบุแผนใหม่เน้นสร้างสมรรถนะท้องถิ่นให้เข้มแข็ง และสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ขณะเดียวกันอนาคตจะโอน "ตำรวจจราจร" รวมทั้งการขออนุญาตสร้างสถานบริการ โรงแรม การขนส่งทางน้ำ และท่าเรือในสังกyดมหาดไทยให้ กทม. ดูแลแทน เพื่อเป็นโครงการนำร่องก่อนขยายไปยังองค์กรท้องถิ่นต่างๆ ชี้ในช่วง 3 - 4 ปีนี้จะเน้นปรับระบบ องค์กรท้องถิ่นให้ทำงานได้เต็มที่ และมีความคิดริเริ่มใหม่ๆ