Skip to main content
sharethis

สถาบันข่าวอิศรา  สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย


 


 ชาวบ้านไทยพุทธกว่า ๒๐๐ คน ในพื้นที่อ.ธารโต จ.ยะลา ชุมนุมประท้วงปิดถนนสายเบตง-ยะลา  เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองปฏิบัติตามตัวบทกฎหมายเมื่อจับตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุร้ายในพื้นที่ได้และอย่ายอมให้มีการใช้กฏหมู่เหนือกฎหมายในการบีบเจ้าหน้าที่รัฐให้ยอมปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุร้ายเหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้น


 


การชุมนุมประท้วงโดยไทยพุทธ ที่ อ.ธารโต เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่27 ธ.ค.49  โดยมีรายงานว่า  กลุ่มชาวบ้านดังกล่าวได้ทำการชุมนุมประท้วงปิดถนนสาย410 เส้นยะลา - เบตง  ตรงบริเวณหลักกม.ที่ 70   โดยได้มีการปิดถนนจนถึงเวลา14.00 น.ทำให้การเดินทางไปมาบนเส้นทางดังกล่าวไม่สามารถทำได้


 


การประท้วงของกลุ่มชาวบ้านเนื่องจากไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐจากกรณีการชุมนุมประท้วงของชาวไทยมุสลิมที่บริเวณหน้าสถานีอนามัยบ้านแหร อำเภอธารโต เมื่อวานนี้ ( 26 ธ.ค.)ที่ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ปล่อยตัวนายมาหามะมูบาเราะ โด ผู้ต้องสงสัยยิง ส.ต.ต.ศิริพร  สังฆะฑะรัตน์ และลูก  ทางเจ้าหน้าที่ได้ยอมให้มีการปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยชั่วคราวในเวลาต่อมาทำให้การชุมนุมประท้วงยุติลง


 


ผู้ชุมนุมประท้วงได้เสนอข้อเรียกร้องทั้งหมด 5 ข้อด้วยกัน


 


1.ให้ทางหน่วยงานรัฐผู้รับผิดชอบ เมื่อมีชาวไทยพุทธถูกประทุษร้าย ในชีวิตและทรัพย์สิน และให้รีบดำเนินการช่วยเหลือโดยเร็ว


 


2.กรณีที่มีการจับกุมเชิญตัว ผู้ต้องสงสัยและผู้กระทำผิดต้องให้ดำเนินการตามตัวบทกฎหมาย ถ้าให้มีการประกันตัวต้องให้ประกันด้วยวงเงินไม่น้อยกว่า  5 แสนบาทเป็นอย่างต่ำ


 


3.ถ้ามีการประท้วงต่อรองให้ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาโดยการปิดถนนให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิด ชอบรีบดำเนินการสลายโดยเร็ว


 


4.การพกพาอาวุธปืนที่มีใบอนุญาตของชาวไทยพุทธ ให้อนุโลมใบอนุญาตพกพาอาวุธภายในจังหวัด ยกเว้นการตรวจสอบ


 


5.ถ้ามีการปิดถนน เพื่อต่อรองให้ปล่อยโจร ชาวบ้านกลุ่มไทยพุทธก็จะประท้วงด้วยการปิดถนนด้วยเพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายและจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ที่"กฎหมู่จะอยู่เหนือกฎหมาย" 


 


นายโกศล  จันทร์นิตย์ ตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า การชุมนุมของชาวไทยพุทธที่เกิดขึ้น เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ไม่สงบมาตลอด  จึงได้ออกมาเรียกร้องเพื่อให้ทางผู้รับผิดชอบจากหน่วยงานรัฐมารับรู้ความเดือดร้อนของชาวบ้าน


 


"เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นที่ได้มีการชุมนุมปิดถนนของกลุ่มชาวไทยมุสลิม เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ของรัฐ จนยอมปล่อยตัวผู้ต้องหา หลายคนมองว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องและเจ้าหน้าที่ของรัฐควรจะได้มีการดำเนินการตามกฎหมาย  หากยอมให้มีการประกันตัวให้ประกันตัวได้แต่ต้องมีหลักทรัพย์ ในการยื่นประกันตัว ไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท ตามที่กฎหมายกำหนด  รวมไปถึงรับต้องหามาตรการในการดำเนินการกับกับกลุ่มที่ก่อการชุมนุมปิดถนนประท้วงให้เด็ดขาดเพื่อไม่ให้ผู้ที่ใช้เส้นทางสัญจรเดือดร้อน"


 


เขา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทางรัฐไม่ค่อยให้ความสำคัญกับชาวไทยพุทธในพื้นที่เหมือนกับชาวมุสลิม  มีคนในหมู่บ้านถูกทำร้ายจากสถานการณ์ การช่วยเหลือของรัฐมีการดำเนินการที่ล่าช้ามาก จนชาวบ้านรู้สึกน้อยใจในความไม่เท่าเทียม


 


"อีกทั้งกรณีชาวไทยพุทธ พกอาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในการเดินทางไปทำสวนทำไร่  แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจและจับกุม ทั้งที่ไม่ได้มีเจตนาไปก่อเหตุแต่อย่างใด  แต่ทางคนร้ายที่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานว่าเป็นผู้ต้องสงสัยและผู้กระทำความผิดที่เป็นชาวมุสลิม แต่เมื่อมีการชุมนุมปิดถนนเรียกร้องทางเจ้าหน้าที่ก็ยอมปล่อยตัว   ชาวบ้านไม่เข้าใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น คนพวกนี้ถึงใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายได้"


 


กลุ่มชาวบ้านที่ปิดถนนประท้วงครั้งนี้มาจาก 5 หมู่บ้านในตำบล บ้านแหร อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ประกอบด้วย หมู่ที่ 4 บ้าน บูโละซะนีแย หมู่ที่ 5 บ้านบ่อหิน หมู่ที่ 7 บ้านวังศิลา  หมู่ที่ 10 บ้านควนดินดำ และหมู่ที่ 11 บ้านบ่อหินใน  โดยชาวบ้านได้นำเต็นท์มากางไว้ ที่บริเวณหมู่ที่ 5 บ้านบ่อหิน ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ใกล้ปากทางเข้าหมู่บ้าน โดยมีชาวบ้านทั้งผู้หญิงและเด็ก นั่งในเต็นท์ส่วนผู้ชายยืนอยู่บริเวณข้างๆเต็นท์ ปิดถนนไม่ให้รถสัญจรผ่านไปมา


 


เว็บไซต์ไทยโพสต์รายงานเพิ่มเติมว่า นายธีระ มินทราศักด์ ผวจ.ยะลา กล่าวว่า สาเหตุมาจากที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่บ้านแหร 1 คน และที่บ้านคีรีเขต  ตาม  พ.ร.ก.1 คน  ก็มีประชาชนมารวมตัวกันและได้สลายไปแล้วเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา แต่ชาวไทยพุทธที่บ้านบ่อหินที่มีการรวมตัวกันปิดถนน เนื่องจากมีความเป็นห่วงเด็กนักเรียนที่ยังไม่กลับบ้าน ทางอำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กำชับให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปดำเนินการเจรจาจนสามารถคลี่คลายสถานการณ์  ในวันนี้ทางชาวบ้านที่เป็นไทยพุทธจึงมีการรวมตัวกันอีก


 



"ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม   แต่ทราบว่าชาวบ้านต้องการแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ  โดยเฉพาะในเรื่องความเป็นอยู่ให้ทางจังหวัดทราบ   ซึ่งทางจังหวัดได้ดูแลอยู่แล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นหมู่บ้านชาวไทยพุทธซึ่งจะต้องดูแลเป็นพิเศษ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความอดทนต่อข้อเรียกร้องของชาวบ้าน   และต้องรับปัญหาเพื่อแก้ไขต่อไป   และต้องมีความรอบคอบ"  ผวจ.ยะลากล่าว


 



นอกจากนี้  เมื่อเวลา  09.40 น. ได้มีกลุ่มสตรีและเด็กชาวไทยมุสลิมจำนวนประมาณ 70  คน  รวมตัวกันปิดถนนเส้นทางสาย 410  หมู่  1  บ้านหน้าเกษตร  ต.ธารโต  อ.ธารโต  จ.ยะลา  เพื่อเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ปล่อยตัวนายเจ๊ะกะ  บือราเฮง  ที่ถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกไว้ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก  จ.ปัตตานี  ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้เจรจากับกลุ่มผุ้ชุมนุม   และให้ข้อสรุปว่าจะให้บิดาและมารดาของนายเจ๊ะกะเดินทางไปพบและเยี่ยมนายเจ๊ะกะที่ค่ายอิงคยุทธฯโดยทางเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ประสานงานให้    จากนั้นกลุ่มชาวบ้านจึงยอมสลายตัว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net