Skip to main content
sharethis

นางเตือนใจ ดีเทศน์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาที่ดินป่าไม้ เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการรวบรวมรายชื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน 69 คน เพื่อเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชนในนามของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาที่ดินป่าไม้ และคาดว่าจะสามารถนำเสนอต่อ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ในสัปดาห์หน้า โดยร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชนของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีสาระสำคัญ คือ ให้ชุมชนดูแลรักษาป่าภายใต้เงื่อนไข 4 ข้อ คือ 1.เป็นชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานมานาน 2.เป็นผู้ที่ได้ดูแลรักษาป่ามานาน 3.มีวีถีชีวิตภูมิปัญญาที่รักษาป่า และ 4.มีแผน กฎเกณฑ์ที่จะดูแลรักษาป่าในอนาคต โดยร่างของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้นำส่วนดีของร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชนในอดีตที่ยกร่างขึ้นโดยฝ่ายต่างๆ ทั้งประชาชน รัฐบาล สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา มาผสมผสานกัน


 



"เท่าที่พูดคุยพบว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติฯ หลายคนสนใจเรื่องป่าชุมชนมาก เพราะจะเป็นกฎหมายที่รับรองสิทธิของชุมชนในการดูแลรักษาจัดการและใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน เนื่องจากสังคมไทยมีพื้นฐานสังคมที่ชุมชนอยู่กับป่ามานานแล้ว" นางเตือนใจ กล่าว


 



นางเตือนใจ กล่าวต่อว่า เนื่องจากร่างของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไม่สามารถเสนอร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินได้ ในขณะที่ภาคประชาชนต้องการให้มีหมวดที่ว่าด้วยกองทุนการรักษาป่าชุมชน ดังนั้น ทาง พล.อ.สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานคณะกรรมาธิการสวิสามัญฯ จึงได้ไปหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว เพื่อขอให้เสนอร่างกฎหมายประกบอีก 1 ฉบับ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งกองทุนฯ ซึ่งได้รับการตอบรับจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ด้วยดี นอกจากนี้ นายพนัส ทัศนียานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ยังจะช่วยดูแลเพื่อให้เป็นกฎหมายที่มีความสมบูรณ์ด้วย โดยคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติฯ ในเดือนมกราคมนี้



 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างกฎหมายป่าชุมชนถือเป็นร่างกฎหมายหนึ่งที่มีการผลักดันกันมานานกว่า 15 ปี แต่สุดท้ายไม่สามารถผลักดันจนผ่านรัฐสภาได้ โดยล่าสุดสภาฯ ชุดที่ผ่านมามีการถกเถียงกันว่า จะให้มีการจัดตั้งป่าชุมชนในป่าอนุรักษ์ได้หรือไม่ และมีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ ก่อนที่จะอนุญาตให้ทำป่าชุมชนในเขตป่าอนุรักษ์ได้ แต่มีเงื่อนไขต่างๆ จำนวนมาก เนื่องจากยอมรับในข้อเท็จจริงแล้วว่ามีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่อาศัยในป่าและดูแลรักษาป่าอย่างดี ก่อนที่รัฐจะประกาศเป็นป่าอนุรักษ์ แต่สุดท้ายก็มีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่


 


 


...................................


ที่มา : http://www.komchadluek.com

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net