8 ต.ค.2549 นพ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าขณะนี้โรคมะเร็งเต้านม เป็นสาเหตุการป่วยและเสียชีวิตอันดับ 1 ของผู้หญิงทั่วโลก และพบผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 910,000 ราย เสียชีวิตปีละ 502,000 ราย พบมากที่สุดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับประเทศไทยล่าสุดในปี 2547 มีผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 5,592 ราย เป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งปากมดลูก

โดยมีผู้เสียชีวิตปีละ 1,890 ราย ส่วนจังหวัดที่พบผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมสูงสุดในประเทศไทย ได้แก่ กรุงเทพฯ รองลงมาคือ ลพบุรี สมุทรสาคร ลำปาง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกพื้นที่ โดยมะเร็งชนิดนี้มักเกิดในผู้หญิงเกือบทุกช่วงอายุ พบมากในผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งเต้านม รวมทั้งพบในผู้หญิงที่ไม่มีบุตร ที่สำคัญยังพบว่าหากผู้หญิงที่มีพฤติกรรมชอบรับประทานอาหารไขมันสูงมีไขมันในเลือดสูง หรือเป็นโรคอ้วนเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมได้สูงขึ้น เนื่องจากไขมันคอเรสเตอรอลจะทำให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม

ด้าน นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การรักษาโรคมะเร็งเต้านมในปัจจุบันที่ได้ผลดีที่สุดคือ การผ่าตัดก้อนมะเร็งทิ้ง หากพบในระยะเริ่มแรกจะตัดเอาเฉพาะก้อนเนื้องอกออก แต่หากเป็นมากก็อาจต้องตัดทั้งเต้านมและให้ยาเคมีบำบัด หรือฉายรังสีเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งที่เหลือ ป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ พร้อมแนะผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้น หมั่นตรวจเต้านมด้วยตนเอง โดยใช้มือคลำหาก้อนรอบๆ เต้านมทั้ง 2 ข้างทุกเดือน โดยตรวจหลังจากหมดประจำเดือนแล้ว 7 วัน หากพบก้อนผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจโดยละเอียดทันที

.........................................

ที่มา: สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์