Skip to main content
sharethis

3 องค์กรสิทธิฯ-เยาวชน ร้อง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ทบทวนวิธีการปฎิบัติอาจส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลังปรากฎทหารพกพาอาวุธปืนไปในโรงเรียนตาดีกา

12 ก.พ.2561 จากกรณีเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 เข้าไปในโรงเรียนตาดีกานูรุลอิหส้าน(เกาะแน) หมู่ 4 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พร้อมด้วยอาวุธประจำกาย และได้มีการถ่ายภาพบัตรประชาชน ครูผู้สอน รายชื่อเด็ก และ เด็ก ทั้งนี้โรงเรียนตาดีกาเป็นโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนศาสนาอิสลาม จากการติดตามนโยบายภาครัฐที่มีผลกระทบต่อเด็กโดยเครือข่ายปกป้องคุ้มครองเด็กพบว่าในปี 2560 เจ้าหน้าที่ทหารได้ประสานกับผู้รับผิดชอบโรงเรียนตาดีกาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหารดำเนินการจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับหน้าที่พลเรือนให้กับเด็กในโรงเรียนตาดีกาซึ่งเป็นเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-12 ปี โดยในช่วงปลายปีเริ่มมีภาพเจ้าหน้าที่ทหารแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบและพกพาอาวุธปืนไปในโรงเรียนตาดีกาประมาณ 6-7 คน เพื่อไปทำกิจกรรมกับเด็กที่โรงเรียนตาดีกาปรากฎในสื่อออนไลน์ ซึ่งการเข้าไปปฎิบัติงานและการบันทึกข้อมูลของเจ้าหน้าที่ทหารกระทำเฉพาะโรงเรียนตาดีกา นั้น

ล่าสุดวานนี้ (11 ก.พ.61) กลุ่มด้วยใจ มูลนิธินูซันตารอเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา และ สมาคมฟ้าใสส่งเสริมสุขภาวะเด็กและเยาวชนชายแดนใต้ เรียกร้องต่อ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) เรื่องดังกล่าว เรียกร้องผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารในโรงเรียนตาดีกาได้ทบทวนวิธีการปฎิบัติงานที่อาจส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจ การปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารจะต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นหัวใจในการทำงาน และนโยบายและการทำงานของเจ้าหน้าที่จะต้องไม่เลือกปฎิบัติทางเชื้อชาติหรือศาสนา

รายละเอียดหนังสือดังกล่าว : 

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561
 
เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารในโรงเรียนตาดีกา
 
เรียน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า
 
สำเนาเรียน ผบ.ฉก จังหวัดปัตตานี, เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนใต้
 
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 เข้าไปในโรงเรียนตาดีกานูรุลอิหส้าน(เกาะแน) หมู่ 4 ตำบล คลองใหม่ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยอาวุธประจำกาย และได้มีการถ่ายภาพบัตรประชาชน ครูผู้สอน รายชื่อเด็ก และ เด็ก ทั้งนี้โรงเรียนตาดีกาเป็นโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนศาสนาอิสลาม จากการติดตามนโยบายภาครัฐที่มีผลกระทบต่อเด็กโดยเครือข่ายปกป้องคุ้มครองเด็กพบว่าในปี 2560 เจ้าหน้าที่ทหารได้ประสานกับผู้รับผิดชอบโรงเรียนตาดีกาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหารดำเนินการจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับหน้าที่พลเรือนให้กับเด็กในโรงเรียนตาดีกาซึ่งเป็นเด็กที่มีอายุระหว่าง 5-12 ปี โดยในช่วงปลายปีเริ่มมีภาพเจ้าหน้าที่ทหารแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบและพกพาอาวุธปืนไปในโรงเรียนตาดีกาประมาณ 6-7 คน เพื่อไปทำกิจกรรมกับเด็กที่โรงเรียนตาดีกาปรากฎในสื่อออนไลน์ ซึ่งการเข้าไปปฎิบัติงานและการบันทึกข้อมูลของเจ้าหน้าที่ทหารกระทำเฉพาะโรงเรียนตาดีกา
 
อนุสัญญาที่ว่าด้วยสิทธิเด็กที่เด็กจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุดและคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กและเด็กไม่ถูกใช้ประโยชน์ในทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด และ อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบในข้อ 2(ก)ระบุว่ารัฐภาคีแต่ละรัฐจะไม่กระทำการใด ๆ ที่จะเป็นการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลกลุ่มบุคคล หรือสถาบัน และจะประกันว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคน และสถาบันของรัฐทุกแห่งทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นจะปฏิบัติตามพันธกรณี
 
การเข้าไปปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทำให้กระทบถึงการศึกษาทางด้านศาสนาและสร้างความกังวลใจต่อครูผู้สอนจากการเก็บข้อมูลและการถ่ายภาพของเจ้าหน้าที่ทหารโดยเฉพาะการนำอาวุธปืนเข้าไปในโรงเรียนทำให้เด็กมีภาพจำของอาวุธสงครามและเด็กมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าในการโจมตีจากกองกำลังติดอาวุธดังที่เคยปรากฎ และทำให้ชั่วโมงในการเรียนการสอนลดลงและสร้างความกังวลใจถึงความปลอดภัยของเด็กและครู และบางกิจกรรมก็ไม่สอดคล้องกับการเรียนการสอนเดิม
 
จากความห่วงกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทางเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนในจังหวัดชายแดนใต้จึงขอเรียกร้องให้
 
• ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารในโรงเรียนตาดีกาได้ทบทวนวิธีการปฎิบัติงานที่อาจส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งทางร่างกายและจิตใจ
 
• การปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารจะต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นหัวใจในการทำงาน
 
• นโยบายและการทำงานของเจ้าหน้าที่จะต้องไม่เลือกปฎิบัติทางเชื้อชาติหรือศาสนา
 
 
กลุ่มด้วยใจ
 
มูลนิธินูซันตารอเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา
 
สมาคมฟ้าใสส่งเสริมสุขภาวะเด็กและเยาวชนชายแดนใต้
 

ที่มา deepsouthwatch.org

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net