'ศรีวราห์' เผย บิ๊กป้อมสั่งการให้รับมือการชุมนุมอย่างเท่าเทียม ตอนนี้ตามหาตัวกลุ่มสนับสนุนบิ๊กป้อมแล้ว เตรียมแจ้งความ ม.116 วีระ สมความคิด - บก.ลายจุด เพิ่ม ผู้สื่อข่าวระบุ ตำรวจเรียกตัวครั้งที่ 2 คือการขยับเข้าใกล้การออกหมายจับมากขึ้นหนึ่งขั้นตอน
ความในใจ 39 ประชาชนถูก สน.ปทุมวันออกหมายเรียกเพราะอยากเลือกตั้ง
2 ก.พ. 2561 พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อหน้า สน.ปทุมวันว่า วันนี้ มีผู้ที่ถูกกล่าวหาจากกรณีร่วมกิจกรรม "รวมพลคนอยากเลือกตั้งฯ" มาขอเลื่อนรับฟังข้อกล่าวหาทั้งหมด 34 คน ส่วนอีก 5 คนไม่ได้มาปรากฏตัว ทั้งนี้ ตร.ไม่ได้อนุญาตให้เลื่อนรับฟังข้อกล่าวหา แต่จะออกหมายเรียกครั้งที่สองให้มารับฟังข้อกล่าวหาในวันที่ 8 ก.พ. นอกจากนี้เตรียมจะแจ้งความ วีระ สมความคิด และ สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ด้วยเพราะมีหลักฐานการขึ้นปราศรัยของทั้งสองคน
ในส่วนที่มีข่าวว่าอาจจะมีการเรียกตัวผู้ชุมนุมอีกจำนวน 66 คนนั้น ศรีวราห์กล่าวว่า ตอนนี้สันติบาลกำลังตรวจสอบชื่อ ภูมิลำเนาและเลขประจำตัวประชาชนของบุคคลเหล่านั้นอยู่ โดยอ้างว่าบุคคลเหล่านั้นได้เข้าร่วมชุมนุม ไม่ใช่คนที่สัญจรบนเส้นทางนั้น และยังยืนยันว่าการชุมนุมอยู่ในอาณาบริเวณ 150 จากเขตพระราชฐาน โดยระบุว่า ผอ.เขตปทุมวันรายงานมาว่าได้ทำการวัดมาแล้ว
ในกรณีเหตุการณ์ที่มีผู้ชุมนุมหน้ากระทรวงกลาโหมเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า ประวิตรสั่งการให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งในกรณีของผู้มาชุมนุมสนับสนุนนั้นก็ได้ให้ติดตามไปว่ามีใครบ้างที่มาร่วมชุมนุม ใช้ พ.ร.บ. ชุมนุม และคำสั่ง คสช. เหมือนกัน เพราะการมาให้กำลังใจก็เข้านิยามการเมืองเหมือนกัน คือกระบวนการ และวิธีการที่นำไปสู่การตัดสินใจ การให้กำลังใจก็เป็นส่วนหนึ่ง ล่าสุดตอนนี้พิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ 1-2 รายแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีหมายเรียกแล้วจะผัดฟ้องไปให้ศาลเลยนั้น ศรีวราห์ระบุว่า ตนเป็นคนสั่งให้ผัดฟ้องและฝากขังเอง และยังกล่าวว่า ผู้ชุมนุมต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและคำสั่ง คสช. และยังยืนยันว่าตำรวจไม่มีการเมือง ใครผิดก็จับ
13.15น. มีรายงานว่า พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาที่ สน.ปทุมวัน ประชาชนและผู้ที่โดนคดีจากการเข้าร่วมกิจกรรม 'รวมพลประชาชนอยากเลือกตั้งฯ' ตั้งแถวรอรับพร้อมทำท่านกพิราบ สื่อถึงเสรีภาพ แต่สุดท้ายศรีวราห์เดินทางมาถึงในเวลา 14.35 น. และหลบผู้ชุมนุมไปเข้าประตูด้านข้างแทน ผู้ชุมนุมจึงได้เคลื่อนย้ายไปรอรับ
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ภาวิณี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แถลงกับสื่อมวลชนว่า ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุม จะขอเลื่อนรับฟังข้อกล่าวหา เพื่อเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัว เป็นวันที่ 8 ก.พ.นี้ เวลา 9.00 น. ส่วนนักกิจกรรมเจ็ดคนที่ถูกดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. 3/2558 และประมวลกฎหมายอาญา ม.116 ด้วยจะแถลงอีกที เนื่องจากบางคนประสานงานมาขอเลื่อน บางคนยังไม่ได้รับหมาย
ภาวิณี ระบุว่า เดิมผู้ถูกกล่าวหาเดินทางมาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้หลบหนีและจะให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่เนื่องจากพนักงานสอบสวนแจ้งทนายว่าจะมีการควบคุมตัวคนที่มาพบพนักงานสอบสวนไปขอผัดฟ้องที่ศาล โดยให้ไปยื่นประกันที่ศาลเอง ซึ่งต้องใช้หลักทรัพย์ 10,000-20,000 บาท กรณีโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา หนึ่งในเจ็ดนักกิจกรรม ที่ถูกดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. 3/2558 และประมวลกฎหมาย ม.116 จะใช้ 200,000 บาท
ทนายความกังวลว่า เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมาก และขั้นตอนสอบปากคำ พิมพ์ลายนิ้วมือ แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ต้องใช้เวลา หากช่วงบ่ายส่งตัวไปศาล ถ้าประกันตัวไม่ทัน ประชาชนจะต้องถูกขังในเรือนจำเสาร์อาทิตย์ ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิต่อสู้คดีอย่างเต็มที่จึงจะขอเลื่อนออกไปก่อนเพื่อเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัว
9.23น. ประชาชนมารอให้กำลังใจกลุ่มผู้ถูกแจ้งความจากการจัดและไปร่วมกิจกรรมรวมพลคนอยากเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่หน้า สน.ปทุมวัน ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ราว 40-50 นาย และมีสื่อมวลชนมารอทำข่าวจำนวนมาก
'ฮิวแมนไรท์วอทช์' อัด เผด็จการทหารพยายามสร้างบรรยากาศความกลัว ไม่จริงใจในการคืนอำนาจให้ประชาชน
สุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) ประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่จับตาเรื่องสิทธิมนุษยชน ได้มาสังเกตการณ์หน้า สน.ปทุมวันในวันนี้ และกล่าวกับประชาไทว่า "การใช้ข้อกล่าวหาตามมาตรา 116 และกฎหมายอาญาเรื่อง พ.ร.บ. ชุมนุม การชุมนุมในที่หวงห้าม การขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของ คสช. ในการที่จะเล่นงานปิดปากคนเห็นต่าง สะท้อนความพยายามที่จะทำให้บรรยากาศความหวาดกลัวภายใต้เผด็จการทหารคงสภาพอยู่ต่อไป และผลในทางเฉพาะหน้าของกรณีมีลักษณะเหมือนการเชือดไก่ให้ลิงดู ก่อนที่จะมีการนัดชุมนุมใหญ่ใน 10 ก.พ. ส่วนผลในระยะยาว เป็นเรื่องของระบอบเผด็จการทหารที่ไม่เต็มใจ ไม่จริงใจที่จะปูทางการคืนอำนาจให้กับประชาชนด้วยการเลือกตั้ง การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยจะไม่สามารถทำได้ถ้าคนยังถูกปิดปาก ถ้าการชุมนุมโดยสันติไม่สามารถกระทำได้ การเลือกตั้งแบบแท้จริงที่จะได้รับการยอมรับจากนานาชาติและประชาชนฝ่ายต่างๆ ในไทย จะไม่เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นแค่พิธีกรรมที่จัดฉากขึ้นมา เหมือนครั้งประชามติปิดปากที่เอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายที่อยู่กับ คสช. แต่สร้างอุปสรรคให้ฝ่ายตรงข้ามมาตลอด"
สโมสร นศ.รัฐศาสตร์ ม.อ.เรียกร้องยกเลิกดำเนินคดีประชาชน
วันเดียวกัน สโมสรนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อกรณีดังกล่าว ที่ล่วงละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่มีจุดยืนเห็นต่างจากรัฐบาลและขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ยกเลิกการดำเนินคดีกับนักศึกษา คณาจารย์ และประชาชน ทั้ง 39 คน และเคารพต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมของประชาชน เนื่องจากคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ซึ่งอาศัยอำนาจมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 นั้นขัดต่อมาตรา 34 และ 44 รัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 ซึ่งได้รับรองสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมไว้ จึงใคร่ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงประชาชนและกติกาในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน เพื่อแสดงความตั้งใจจริงของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อที่จะนำพาประเทศชาติไปสู่ประชาธิปไตย ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้แก่ปวงชนชาวไทย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)