ผู้ว่าฯ สตง. ขอ 30 วันสอบซื้อเรือเหาะ ชี้ไม่มีอะไรซับซ้อน 'อภิสิทธิ์' พร้อมให้สอบ

'ศรีสุวรรณ' ยื่น 'สตง.' สอบจัดซื้อคุ้มค่าหรือไม่ ด้านผู้ว่าฯ สตง. ขอ 30 วันสอบ ชี้ไม่มีอะไรซับซ้อน ขณะที่ 'อภิสิทธิ์' ยันพร้อมให้สอบ ชี้ประเด็นที่พูดเป็นเรื่องไม่คุ้มค่า คนละกรณีกับการทุจริต 

19 ก.ย. 2560  จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ระบุว่า เรือเหาะตรวจการณ์ ที่ประจำการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้น บอลลูนตอนนี้หมดอายุการใช้งานแล้ว เพราะเป็นผืนผ้า แต่กล้องตรวจการณ์ยังใช้งานได้ ดังนั้นจะต้องมีการปรับรูปแบบการใช้งาน โดยอาจจะนำไปติดอากาศยานแทน ซึ่งทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กำลังดำเนินการอยู่ นั้น

ศรีสุวรรณ ยื่น 'สตง.' สอบจัดซื้อคุ้มค่าหรือไม่

วานนี้ (18 ก.ย.60) Voice TV รายงานว่า ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เมื่อปี 52 คณะกรรมการตรวจรับเรือตรวจการณ์ อดีตคณะรัฐมนตรีรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ให้ความเห็นชอบอนุมัติให้จัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2552 และพนักงานเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อการอนุมัติจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ชนิดบอลลูน รุ่น Aeros 40D S/N 21 (SKY DRAGON) จำนวน 350 ล้านบาท นอกจากนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษาอีกปีละ 50 ล้านบาท อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ว่าด้วยระบบวินัยการเงินการคลังของรัฐเป็นการใช้จ่ายเงินงบประมาณอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ไม่เป็นไปตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันเข้าข่ายหรือขัดแย้งต่อมาตรา 62 เป็นของมาตรา 85 วรรคแรก และมาตรา 76 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ซึ่งเรื่องดังกล่าว สตง. มีการติดตามมาตลอดทั้ง 8 ปี ดังนั้นหลักฐานและการตรวจสอบจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เชื่อว่าจะไม่ใช่การฟอกขาวเหมือนกรณีเรือดำน้ำ อีกทั้งเรื่องนี้จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของผู้ว่า สตง. ก่อนเกษียณอายุราชการ จึงเชื่อว่าจะให้ความกระจ่างแก่สังคมได้อย่างถูกต้อง

โดย พรชัย จำรูญพานิชย์กุล รองผู้ว่าฯ สตง. ได้เป็นตัวแทนรับเรื่อง พร้อมกล่าวว่าจะเร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปอย่างถูกต้องทันทีเนื่องจากสังคมกำลังให้ความสนใจ  อีกทั้งเป็นหน้าที่ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ที่จะต้องตรวจสอบรายละเอียด ในเอกสารว่ามีกระบวนการใช้จ่ายงบผระมาณอย่างไรบ้าง และแม้เรื่องดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับบุคคลในคณะรัฐมนตรีปัจจุบัน ทาง สตง. ก็ไม่หนักใจต่อการตรวจสอบใดๆ 

ผู้ว่าฯ สตง. ขอ 30 วันสอบ ชี้ไม่มีอะไรซับซ้อน

ล่าสุดวันนี้ (19 ก.ย.60) โพสต์ทูเดย์ รายงานท่าทีของ พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าฯ สตง. ซึ่่ง พิศิษฐ์ กล่าวว่า การตรวจสอบการจัดซื้อเรือเหาะตรวจการณ์ของกองทัพบกนั้น จะมีการพิจารณาเอกสารหลักฐานการใช้งานเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และตรวจสอบถึงการใช้งานที่ผ่านมาว่ามากน้อยเพียงใดโดยใช้เวลา 30 วัน
 
"ยืนยันไม่มีความกังวลใดๆ ในการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะได้ติดตามและรวบรวมข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลของ สตง.โดยตลอด เพราะเป็นประเด็นที่สังคมอยากรู้คำตอบ สตง.จะนำข้อมูลที่มีอยู่มาประเมินร่วมกับพยานหลักฐานที่ส่งมา ซึ่งไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน" ผู้ว่าฯ สตง.  กล่าว

อภิสิทธิ์ พร้อมให้สอบ ชี้ประเด็นที่พูดเป็นเรื่องไม่คุ้มค่า คนละกรณีกับการทุจริต 

สำนักข่าวไทย รายงาน ด้วยว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นเรื่องต่อ สตง. ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างเรือเหาะ ที่กองทัพบกจัดซื้อในช่วงรัฐบาลตน ว่า เรื่องนี้ฝ่ายความมั่นคงเสนอมา โดยมีหลักคิดว่า จะช่วยลดความเสี่ยงของกำลังพล ในการติดตามความเคลื่อนไหว จึงอนุมัติ 
 
“แต่เมื่อไปใช้งานแล้วมีปัญหาอย่างไร หรือไม่ หน่วยงานที่นำไปใช้งาน ต้องออกมาชี้แจง  ถ้าไม่สามารถใช้งานได้อย่างที่ตั้งใจไว้  ก็ต้องดูว่าเกิดจากอะไร ใครต้องรับผิดชอบ” อภิสิทธิ์ กล่าว
 
ส่วนกรณีที่ ป.ป.ช. เคยยกคำร้องกรณีสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงในขณะนั้นไปแล้ว อภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากจะให้มีการรื้อคดีใหม่ ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ป.ป.ช. แต่ในครั้งนั้น ป.ป.ช. สอบในกรอบว่า มีการทุจริตหรือไม่ ซึ่งจบไปแล้ว  แต่ถ้ามีพยานหลักฐานใหม่ จะรื้อฟื้น ก็ขึ้นอยู่ที่ป.ป.ช.จะพิจารณา
 
“กรณีนี้มีการพูดถึงการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า และไร้ประสิทธิภาพ เป็นคนละกรณีกับการทุจริต ดังนั้น ดีที่สุด หน่วยงานปฏิบัติ คือ กองทัพบก ต้องสรุปประเมินให้ชัดเจน ว่ามีปัญหาในการใช้งานอย่างไร และเกิดขึ้นจากอะไร  ไม่ใช่สรุปแค่ว่า ปลดประจำการแล้ว แต่ควรให้ความกระจ่างต่อสังคมในเรื่องการใช้งานด้วย เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวเป็นบทเรียน สำหรับการทำโครงการในวันหน้า” อภิสิทธิ์ กล่าว 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท