กลุ่มค้านถ่านหินกระบี่ออกแถลงการณ์กดดันรัฐ ขีดเส้นตาย 1 วัน เตรียมประกาศชุมนุมอีกครั้ง

เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินออกแถลงการณ์กดดันหน่วยงานรัฐให้ปฏิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี กรณีจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่ทั้งสองฉบับ หากไม่มีความคืบหน้าจะประกาศชุมนุมอีกพรุ่งนี้ ตามที่เคยตกลงไว้กับแม่ทัพภาค 1

แฟ้มภาพประชาไท

27 ก.พ. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ หยุดถ่านหินกระบี่ ได้เผยแพร่แถลงการณ์เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ฉบับที่ 4/2560 โดยได้ระบุถึงข้อตกลงที่ได้จากการเจรจาร่วมกับรัฐบาลกรณีการร้องเรียนให้ยุติการดำเนินเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหิน จ.กระบี่

ในแถลงการณ์ได้เรียกร้องให้ สำนักงานนโยบายและแผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปฏิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่า ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่ทั้งสองฉบับ กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหิน แต่ไม่ได้มีการออกคำสั่งออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร จึงทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว ไม่ได้ปฎิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี โดยในส่วนของ กฟผ. ได้แสดงเจตรมณ์มาตลอดว่าไม่ได้ยอมรับคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ให้ทำรายงานอีไอเอใหม่ แต่กลับมีความพยายามในการปรับปรุงรายงานฉบับเก่าแทน

ทางเครือข่าย ได้แถลงถึงจุดยืนต่อด้วยว่า หากภายในวันพรุ่งนี้ซึ่งจะครบกำหนด 7 วันที่ได้ทำข้อตกลงร่วมกับรัฐบาล ยังไม่มีการแสดงความจริงใจจากรัฐบาล และหน่วยงานของรัฐโดยการออกหนังสืออย่างเป็นทางการว่ารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเดิมทั้ง 2 ฉบับเป็นโมฆะ ทางเครือข่ายจะออกแถลงการณ์เพื่อประกาศชุมนุมกดดันรัฐบาลต่อไป

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2560 สหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโฆษก เปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า EHIA โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ และ EIA โครงการท่าเทียบเรือคลองรั้วจะเดินหน้าต่ออย่างไร เนื่องจากมีผู้เข้ามามีส่วนร่วมเพิ่มเติมคือ คณะกรรมการไตรภาคีเข้ามีส่วนร่วมด้วย จึงจะขอหารือสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) ก่อน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนสัปดาห์หน้า

“เมื่อหารือแล้ว จึงจะมองเห็นแนวทางว่าจะให้ไตรภาคีเข้ามามีส่วนร่วมมากน้อยอย่างไร ในรูปแบบใด แม้ว่าจะไม่ได้มีขั้นตอนตามกฎหมายก็ตาม แต่ กฟผ.เห็นว่าควรจะให้เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น” สหรัฐ กล่าว

ส่วนประเด็นที่ สผ.ได้ให้ กฟผ.ส่งข้อมูลเพิ่มเติม 17 ประเด็นใหญ่ 143 ประเด็นย่อย ตามรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม รองผู้ว่าการ กฟผ.ระบุว่า มีการส่งข้อมูลไปให้ครบถ้วนทุกประเด็นแล้ว แต่ให้มีการถอนคำชี้แจงกลับออกมาก่อน

“ตอนนี้คำตอบทั้งหมดที่ สผ.ทั้งการขอข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนจะต้องชี้แจงเพิ่มเติมอย่างไร จะทำเพิ่มแค่ไหน จะถามเพิ่มเติมอะไรบ้าง จะมีคำถามใหม่หรือไม่ จะประสาน สผ.สัปดาห์หน้าพร้อมกับเรื่องแนวทางว่าจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป” รองผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว

นอกจากนี้รองผู้ว่าการ กฟผ.ยังบอกอีกด้วยว่า มีการถอดบทเรียนจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินด้วย ว่าที่เกิดปัญหาประชาชนได้รับผลกระทบตั้งแต่ก่อนปี 2535 เพราะไม่มีการติดเครื่องดักจับก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เมื่อติดตั้งเครื่องจนครบในปี 2541 หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอีก ส่วนโรงไฟฟ้ากระบี่จะมีการป้องกันปัญหาโดยการติดเครื่องดักก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ตั้งแต่แรก นอกจากนี้ยังจะติดเครื่องดักไนโตรเจนออกไซด์ ฝุ่นขนาดเล็ก และสารปรอท โดยบอกว่าจะไม่เกิดปัญหาเช่นที่เคยเกิดขึ้นที่แม่เมาะ

แถลงการณ์เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน ฉบับที่ 4/2560

ตามที่นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่ทั้งสองฉบับ กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเทียบเรือขนส่งถ่านหิน จ.กระบี่ คำสั่งดังกล่าวมิได้ปรากฎเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นเพียงคำบัญชานายกรัฐมนตรีที่มีลักษณะทางการบริหาร กลับปรากฎปัญหาที่คาดคิดไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้นคือ หน่วยงานผู้รับผิดชอบไม่รับคำสั่งนายกรัฐมนตรีและนำไปดำเนินการให้เกิดผลในทางปฏิบัติและเกิดผลในทางกฎหมาย

หน่วยงานที่รับผิดชอบซึ่งจะต้องนำคำสั่งนายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติให้เกิดผลเป็นจริงคือ สำนักงานนโยบายและแผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยหน่วยงานแรกได้ปฏิเสธคำสั่งนายกรัฐมนตรีด้วยการปฏิเสธการออกหนังสือเพื่อทำให้รายงานฉบับเก่าเป็นโมฆะ และให้เริ่มจัดทำรายงานฉบับใหม่ตามข้อตกลงระหว่างกัน ส่วน กฟผ.ได้แสดงเจตรมณ์มาตลอดว่าไม่ได้ยอมรับคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ให้ทำรายงานอีไอเอใหม่ แต่กลับมีความพยายามในการปรับปรุงรายงานฉบับเก่า

เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินได้พิจารณารอคอยมาเป็นเวลา 6 วันแล้ว โดยได้ใคร่ครวญว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการดำเนินการตามข้อตกลงหรือไม่ ทั้งนี้ครั้งแรกได้กลับคำไม่ออกเป็นมติคณะรัฐมนตรี มาจนถึงปัจจุบันหน่วยงานระดับกรมคือ สผ.ยังไม่ออกเอกสารอย่างเป็นทางการเพื่อทำให้รายงานฉบับเก่าเป็นโมฆะ ซึ่งจะเป็นหลักประกันว่าจะมีการทำรายงานฉบับใหม่จริง เพราะหน่วยงานเจ้าของโครงการยืนยันมาตลอดว่าจะปรับจากรายงานฉบับเดิม สิ่งเหล่านี้ทำให้เครือข่ายเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเบี้ยวเป็นรอบที่สอง

ทางเครือข่ายได้ประชุมหารือกันอย่างรอบคอบแล้วมีมติว่าจะให้โอกาสรัฐบาลแสดงความจริงใจโดยการให้ สผ.ออกหนังสืออย่างเป็นทางการว่ารายงานเดิมทั้ง 2 ฉบับเป็นโมฆะภายในวันอังคารที่ 28 กพ.ซึ่งได้ครบกำหนด 7 วันพอดี หากรัฐบาลยังเพิกเฉยต่อการแสดงความจริงใจดังกล่าว เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินจะกลับมาชุมนุมใหม่ดังที่ได้เคยตกลงไว้เมื่อครั้งเจรจากับแม่ทัพภาคที่ 1 ว่าหากรัฐบาลเบี้ยวแม่ทัพจะออกเงินให้เครือข่ายมาชุมนุม

ทั้งนี้รัฐบาลได้ดำเนินการผิดพลาดอย่างมหาศาลในการจัดการทรัพยากรของชาติ ด้วยการนำพื้นที่ชุ่มน้ำกว่า๑แสนไร่ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติว่าเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยการยกระดับพื้นที่กระบี่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติ(แรมซ่าร์ไซด์)ให้โรงไฟฟ้าถ่านหินซึ่งทั้งโลกพิสูจน์แล้วว่าสกปรกที่สุด ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนมากที่สุด มาตั้งอยู่ในพื้นที่ชุ่มน้ำที่นานาชาติให้การรับรองว่าควรค่าแก่การรักษาไว้

รัฐบาลได้ตัดสินใจผิดพลาดอย่างรุนแรงในการนำพื้นที่การท่องเที่ยวซึ่งได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดอันดับต้นของโลก อย่างจังหวัดกระบี่มาเป็นสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินและให้เกิดการขนส่งถ่านหินผ่านทะเลอันงดงาม โดยความงดงามของกระบี่และอันดามันสามารถทำรายได้ทั้งอันดามันให้ประเทศปีละ 4 แสนล้าน ก่อเกิดการจ้างงานหลายแสนคน มีธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวนับ 100 ธุรกิจ และรัฐบาลได้ตัดสินใจให้เกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินตรงบริเวณนี้ ซึ่งนักท่องเที่ยวเกิดอาการมึน งง กันทั้งโลกว่ารัฐบาลไทยคิดอะไรอยู่ นำสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดที่ทั้งโลกยกย่องมาทำลายทิ้ง

สิ่งที่รัฐบาลนี้คิดไม่เป็นคือ การประเมินเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) ว่าพื้นที่ไหนควรจะพัฒนาอะไร การจัดการทรัพยากรของประเทศควรทำอย่างไร ภายใต้รัฐบาลทหาร ใครใหญ่ใครก็สามารถชี้นิ้วว่าจะเกิดโครงการทำลายสิ่งแวดล้อมตรงไหนก็ได้ ประเทศเราจะพังพินาศ เพราะการไม่ประเมินการจัดการทรัพยากรของชาติในเชิงยุทธศาสตร์ ทำลายได้แม้กระทั่งพื้นที่ซึ่งโลกให้การยกย่อง

ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าการรอคอยของเราจะสิ้นสุดลงเมื่อครบ 7 วันคือวันอังคารที่ 28 กพ. หากรัฐบาลจริงใจในคำสัญญาเพียงแค่สั่งการให้หน่วยงานระดับกรมออกหนังสือมาแผ่นเดียว หากยังทำเรื่องเท่านี้ไม่ได้ ก็ถือเป็นการแสดงว่าเจตนาเบี้ยวประชาชน

หากวันพรุ่งนี้ยังไม่มีหนังสือแสดงความจริงใจของรัฐบาลออกมา เครือข่ายจะออกแถลงการณ์ชุมนุมต่อไป

27 กพ. 2560
เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท