ยูเอ็นประณามศาลมาเลเซียเอาผิดผู้ฉายสารคดีช่วงสงครามกลางเมืองศรีลังกา

ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติประณามรัฐบาลมาเลเซียลิดรอนเสรีภาพในการแสดงออก หลังศาลมาเลเซียเอาผิดนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน 'เลนา เฮนดรี' จากข้อกล่าวหาฉายภาพยนตร์สารคดียุคกวาดล้างกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมที่ศรีลังกาโดยไม่ได้รับอนุญาต

23 ก.พ. 2560 ศาลมาเลเซียตัดสินให้ เลนา เฮนดรี นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนมีความผิดในข้อหาที่ศาลอ้างว่าเธอฉายภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองศรีลังกา ในช่วงกวาดล้ากลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลม (LTTE) โดยที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการเซ็นเซอร์

สำหรับภาพยนตร์ "No Fire Zone: In the Killing Fields of Sri Lanka" ดังกล่าว เป็นผลงานของ Callum Macrae ผู้กำกับชาวอังกฤษ ฉายครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมปี 2556 ในการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติสมัยที่ 22 ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์

ผู้พิพากษา โมฮัมหมัด เรฮาน โมฮัมหมัด อริส ตัดสินให้เฮนดรี ผู้จัดการโครงการปูสัต โคมาส มีความผิดละเมิดกฎหมายเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามผู้พิพากษายังไม่ได้ตัดสินลงโทษความผิดดังกล่าวเนื่องจากทนายความของเขาคือ นิว ซินยิว เสนอขอยื่นคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งศาลขอให้คำร้องดังกล่าวภายในเดือน มี.ค. โดยที่โมฮัมหมัดประกาศว่าจะมีการลงตัดสินลงโทษในวันที่ 22 มี.ค. ที่จะถึงนี้

นิว ซินยิวกล่าวว่าถ้าหากเฮนดรีถูกตัดสินให้มีความผิดจริงเธออาจจะต้องโทษจำคุกสูงสูด 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 ริงกิต (ราว 230,000 บาท) ภายใต้มาตรากฎหมายเซ็นเซอร์ภาพยนตร์

เฮนดรีบอกว่าเธอรู้สึกผิดหวังจากการตัดสินในครั้งนี้ มันเป็นการตัดสินโดยอาศัยแค่คำกล่าวหาของอัยการโดยไม่ได้มีอะไรพิสูจน์ว่าเธอทำผิดจริง

เฮนดรีโดนตั้งข้อกล่าวหาคดีนี้มาตั้งแต่ปี 2556 โดยข้อกล่าวหาระบุว่าเธอฉายภาพยนตร์สารคดีเรื่อง No Fire Zone: The Killing Fields of Sri Lanka โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการเซ็นเซอร์ เธอเคยถูกตัดสินให้พ้นข้อกล่าวหาแล้วครั้งหนึ่งแต่เมื่อเดือน ก.ย. 2559 ศาลสูงของมาเลเซียก็กลับคำตัดสินของเธอทำให้เธอต้องมาสู้คดีอีกครั้ง

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (OHCHR) ออกแถลงการณ์ว่าการตัดสินให้ เฮนดรี มีความผิดจากการที่เธอฉายภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองศรีลังกาเป็นการส่วนตัวถือเป็นการพยายามสร้างบรรยากาศของความกลัวเพื่อครอบงำปิดกั้นไม่ให้เกิดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุม

โลคอง เมย์ยอง รักษาการผู้แทนประจำภูมิภาคของ OHCHR เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า การตัดสินให้เฮนดรีมีความผิดถือเป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมของเธอโดยแท้จริง และพวกเขาเรียกร้องให้ทางการมาเลเซียตรวจสอบคดีนี้อีกครั้งเพื่อให้เป็นไปตามหลักการกฎหมายสิทธิมนุษยชนนานาชาติ

ในถ้อยแถลงของยูเอ็นยังระบุอีกว่าผู้รายงานพิเศษด้านเสรีภาพในการแสดงออก การแสดงความคิดเห็น การชุมนุมอย่างสันติและด้านสถานการณ์ของผู้คุ้มครองสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นต่างก็แสดงความเป็นห่วงในกรณีคดีของเฮนดรีด้วย

 

เรียบเรียงจาก

Court finds film activist guilty for showing Sri Lanka war documentary without approval, Malaymail Online, 21-02-2017

UN Human Rights Office concerned by Malaysia conviction over film screening, The Online Citizen, 22-02-2017

Facebook Page : UN Human Rights - Asia 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท