Skip to main content
sharethis

โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีถูกฟ้องหมิ่นประมาท-พ.ร.บ.คอมฯ ที่ศาลภูเก็ต หลังเสนอข่าวชาวอังกฤษถูกโกงที่ดิน สืบพยาน ส.ค.นี้ ค้านไม่สำเร็จศาลให้อายัดหนังสือเดินทาง

23 ก.พ.2560 โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซี เดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดภูเก็ตในนัดสอบคำให้การจำเลย ในคดีที่เขาถูกฟ้องหมิ่นประมาท โดยวันนี้เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาและขอต่อสู้คดี คดีนี้มีนัดสืบพยานทั้งสองฝ่ายในวันที่ 23-25 ส.ค.นี้

ทั้งนี้ โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาคเอเชียของบีบีซี ถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม, มาตรา 328 หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา, และมาตรา 332 ซึ่งระบุว่าหากถูกตัดสินว่าผิดจริงอาจให้จำเลยทำลายข้อความหรือโฆษณาคำพิพากษา และมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังเสนอข่าวกรณีชายชาวอังกฤษซึ่งแต่งงานกับผู้หญิงไทยถูกปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกงที่ดินที่ภูเก็ต ผ่านเว็บไซต์บีบีซี โจทก์คดีนี้คือ ประทวน ธนารักษ์ ทนายความซึ่งถูกกล่าวหาในการดำเนินการดังกล่าว นอกจากนี้โจทก์ยังฟ้องจำเลยอีกคนหนึ่ง เป็นชายชาวอังกฤษ คือ เอียน มาร์แชล แรนซ์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา 326

หากถูกตัดสินว่ามีความผิด ทั้งคู่อาจถูกลงโทษสูงสุดในฐานหมิ่นประมาท จำคุกไม่เกิน 2 ปีและปรับไม่เกิน 200,000 บาท ขณะที่เฮด ซึ่งถูกฟ้องด้วย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย อาจได้รับโทษจำคุกตามพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

ด้านบีบีซีออกแถลงการณ์ระบุว่า บีบีซีจะยืนเคียงข้างผู้สื่อข่าว รวมถึงยืนยันความบริสุทธิ์ของผู้สื่อข่าวของตน พร้อมระบุว่าเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทย และจะไม่มีแถลงการณ์ใดๆ อีกหลังจากนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานชิ้นที่ถูกอ้างถึงในคำฟ้องนั้น ปัจจุบันยังปรากฏออนไลน์ และมีรายงานด้วยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลได้มีคำสั่งอายัดหนังสือเดินทางของเฮด ซึ่งเขาได้ร้องคัดค้าน เนื่องจากการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาคทำให้เขามักต้องเดินทางในเวลากระชั้นชิด การต้องขออนุญาตศาลทุกครั้งที่เดินทางออกนอกประเทศ และต้องเดินทางไปเอาหนังสือเดินทางที่ภูเก็ตก่อนเดินทางไปทำข่าว แล้วนำหนังสือเดินทางกลับมาคืนที่ศาลภูเก็ตอีก ทำให้การทำหน้าที่ของเขาเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม ศาลยืนยันคำสั่งอายัดดังกล่าว 


เมื่อปลายปีที่่ผ่านมา มีการแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยมาตรา 14(1) เรื่องการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีการแก้ไขใจความสำคัญโดยเพิ่มองค์ประกอบว่า เป็นการนำเข้า "โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง" และเพิ่มข้อความ "อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา" และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.คอมฯ ของ สนช. ย้ำหลายครั้งในต่างกรรมต่างวาระว่า มาตรา 14(1) ไม่เกี่ยวกับการหมิ่นประมาท

ร่างแก้ไข พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของ สนช.แล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 ม.ค. โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือน พ.ค.นี้ (120 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา)

 

 


หมายเหตุ มีการเพิ่มเติมข้อมูล เมื่อเวลา 15.20 น. 24 ก.พ.2560

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net