ชาวท่าแซะชุมพร ร้องกรรมการสิทธิฯ ถูกทหารคุกคาม หลังค้านสร้างเขื่อน

'อนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะ-ชุมพร' ร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิฯ ตรวจสอบการสนับสนุนโครงการเขื่อนท่าแซะ และกรณีทหารเรียกประชาชนเข้าค่ายคุกคามสิทธิเสรีภาพฯ พร้อมขอรบ.หยุดสร้างเขื่อน ด้าน ประยุทธ์ ให้ไปศึกษา EIA และ EHIA

ที่มาภาพ เว็บไซต์ กสม.

21 ก.พ. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เวลาประมาณ 09.30 น. ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะและชาวบ้านอ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ประมาณ 30 คน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยมี เตือนใจ ดีเทศน์ และ อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิฯ เป็นผู้รับเรื่องกรณีขอให้ตรวจสอบการสนับสนุนโครงการเขื่อนท่าแซะ จ.ชุมพร และมีการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชนจากทหารจากค่ายเขตอุดมศักดิ์ มณฑลทหารราบที่ 44 (มทบ.44) 

จากนั้นกลุ่มดังกล่าวได้เดินทางต่อมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เพื่อคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ โดยในหนังสือ ระบุว่าการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ ไม่ใช่ทางออกแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งปัจจุบัน จ.ชุมพร มีโครงการแก้มลิงหนองใหญ่ที่ช่วยบริหารจัดการน้ำไม่ให้น้ำท่วมพื้นที่อยู่แล้ว จึงเห็นว่าให้พัฒนาสิ่งที่อยู่เดิม ทั้งการฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำ รวมถึงบริหารจัดการเขื่อนคุริงที่มีอยู่เดิม ควบคู่กับการสร้างฝายมีชีวิต น่าจะเป็นแนวทางที่ยั่งยืนมากกว่าการสร้างเขื่อน อีกทั้งยังไม่ทำลายระบบนิเวศ

วัชรี จันทร์ช่วง ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา ทหารจาก มทบ.44 และกรมชลประทานได้จัดประชุมรื้อฟื้นโครงการเขื่อนท่าแซะเพื่อผลักดันโครงการในพื้นที่และเข้ามาจัดการผู้ที่คัดค้านกับการสร้างเขื่อนท่าแซะ และในวันที่ 19 ก.พ. 2560 เวลาประมาณ 20.00 น.ทหารจาก มทบ.44 นำกำลังทหารพร้อมอาวุธจำนวน 20 นายเข้าในพื้นที่ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพรเพื่อเชิญแกนนำชาวบ้านผู้คัดค้านจำนวน 15 คนไปยังค่ายเขตอุดมศักดิ์ โดยอ้างคำสั่งอำนาจตามมาตรา 44 แต่ไม่มีเอกสารหนังสือคำสั่งใด  หลังจากนั้นได้มีการเจรจาต่อรองกัน และแกนนำทั้ง 15 คน ได้เดินทางไปยังค่ายเขตอุดมศักดิ์ในวันที่ 20 ก.พ. 2560 เวลาประมาณ 09.30 น. ที่ทหารเรียกแกนนำให้ไปรายงานตัวเพื่อไม่ให้ชาวบ้านเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร เนื่องจากชาวบ้านต้องเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านการสร้างเขื่อนท่าแซะที่ทำเนียบรัฐบาลและที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในวันที่ 21 ก.พ.2560 ตามกำหนดการณ์เดิม

วัชรี กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2560 เวลาประมาณ 17.00 น. ก่อนที่ชาวบ้านท่าแซะ จ.ชุมพร จำนวนเต็ม 3 คันรถบัสกำลังจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการสร้างเขื่อนท่าแซะนั้น ทีทหารจาก มทบ.44 จำนวน 10 นายพร้อมอาวุธอ้างคำสั่งมาตรา 44 นำตัวคนขับรถบัสจำนวน 3 คนไปที่ค่ายอุดมศักดิ์ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ทั้งที่ชาวบ้านยืนยันแล้วว่าแค่นำหนังสือไปยื่นเท่านเท่านั้น ท้ายที่สุดทหารได้นำตัวคนขับรถไปที่ค่ายและปล่อยตัวแล้ววันนี้ 21 ก.พ. 2560 ส่วนชาวบ้านที่เหลือแยกย้ายกันกลับบ้าน มีเพียงตัวแทนชาวบ้านประมาณ 30 คนที่เดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อยื่นหนังสือตามกำหนดการณ์ได้

วัชรี กล่าวอีกว่า วันนี้ 21 ก.พ.2560 ที่ศูนย์ราชการ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ชาวบ้านอ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จำนวนประมาณ 30 คน ทำการนัดหมายกันหลังจากต่างคนต่างเดินทางด้วยรถตู้บ้าง รถบัสบ้าง ทั้งนี้เพื่อป้องกันการถูกคุกคามสิทธิจากทหารในค่ายเขตอุดมศักดิ์ เมื่อรวมตัวกันครบจึงเดินทางนำหนังสือคัดค้านการสร้างเขื่อนท่าแซะไปยื่นที่ทำเนียบรัฐบาลและที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) วันเดียวกัน เวลาประมาณ 09.30 น.และคุณเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้รับเรื่องไว้และกล่าวว่า การคัดค้านเขื่อนท่าแซะ ชาวบ้านเคยยื่นเรื่องมายัง กสม. แล้ว และ กสม. เคยประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่รวมทั้งกรมชลประทาน โดยมีมติร่วมกัน ประการหนึ่งคือ  ให้กรมชลประทานชะลอโครงการเขื่อนท่าแซะก่อน  แต่ขณะนี้ยังมีความพยายามเดินหน้าการสร้างเขื่อน  ซึ่งขัดกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2551  ที่ให้ชะลอโครงการดังกล่าวเอาไว้ก่อน   กสม.จึงจะรับเรื่องไว้พิจารณาเพิ่มเติม และอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนเพื่อเสนอความเห็นต่อรัฐบาลต่อไป

วัชรี กล่าวด้วยว่า เร็วๆนี้ชาวบ้านจะมีการนัดพูดคุยและหารือกัน เพื่อเตรียมตัวรับมือในพื้นที่ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จากทหาร มทบ.44 ในวันที่ 15 ก.พ. นี้ เนื่องจากทหารจะเข้ามาดูพื้นที่สำหรับการสร้างเขื่อนท่าแซะและจัดการแก้ไขปัญหาชุมชนต่อไป

ออกแถลงการณ์ วอนคุกคามสิทธิ เสรีภาพ 

แถลงการณ์ กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะ ขอเรียกร้องให้หยุดคุกคามสิทธิ เสรีภาพ

จากกรณีที่มีการประชุมหารือในระดับจังหวัดที่มณฑลทหารบกที่ 44 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ จังหวัดชุมพร ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ได้มีการรื้อฟื้นโครงการเขื่อนท่าแซะเพื่อนำไปสู่การผลักดันโครงการของหน่วยงานต่าง ๆ ในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะการเข้ามาจัดการผู้ที่คิดต่างไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ ของทหารจากมณฑลทหารบกที่ 44 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ในเวลายามวิกาล ได้มีทหารจำนวนมากได้เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อจับกุมและเชิญตัวแกนนำไปยังค่ายเขตอุดมศักดิ์ แต่เนื่องจากในเวลานั้นเป็นเวลายามวิกาล ชาวบ้านพยายามจึงต่อรองเพื่อขอเลื่อนที่จะไปพบในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นที่มณฑลทหารบกที่ 44 ค่ายเขตอุดมศักดิ์ ในเวลา 09.00 น.  การใช้อำนาจในการบุกรุกบ้านของแกนนำโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าและทหารได้นำอาวุธครบมือไปด้วยนั้น ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดระแวง  หวาดกลัวและสงสัยว่าเขาทำผิดอะไรทหารจึงได้นำกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือเข้าไปยังพื้นที่และเชิญตัวแกนนำที่มีรายชื่อ 15 คน ไปอย่างนี้

ต่อมาในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 09.00 น. ชาวบ้านตำบลสองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ประมาณ 200 คน ได้เดินทางไปพบผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ตามที่ได้ตกลงกันไว้ และผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ได้กล่าวชี้แจงเรื่องโครงการสร้างเขื่อนท่าแซะเป็นโครงการที่ดี ซึ่งจะนำความเจริญมายังพื้นที่โดยยกตัวอย่างเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งได้ การย้ายถิ่นฐานของชาวบ้านและทรัพยากรป่าไม้รวมถึงสิ่งมีชีวิตและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่จะจมน้ำจากการสร้างเขื่อนเป็นการเสียสละอย่างใหญ่หลวง ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ยืนยันที่จะไม่ย้ายออก และร่วมกันรักษาป่าต้นน้ำไว้ให้ชนรุ่นหลังต่อไป รวมทั้งได้ยื่นข้อเสนอให้มีการสร้างฝายเก็บน้ำขนาดเล็กที่สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้ได้ โดยชาวบ้านเป็นผู้ดูและบริหารจัดการน้ำด้วยพื้นที่เอง ท้ายที่สุดผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 ยังคงขอความร่วมมือในการเข้าพื้นที่ของหน่วยงานและขอให้ชาวบ้านในพื้นที่หยุดคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนท่าแซะ

จากกรณีดังกล่าวชาวบ้านมีความกังวลเป็นอย่างมากที่มีการพยายามผลักดันโครงการเขื่อนท่าแซะอยู่ตลอดเวลา ชาวบ้านจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็ถูกทหารจี้พาตัวคนขับรถทัวร์ออกนอกพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะ จึงขอยืนยันคัดค้านโครงการสร้างเขื่อนท่าแซะ  และจะไม่อพยพออกนอกพื้นที่ พร้อมทั้งไม่ยินยอมที่จะรับค่าชดเชย พวกเราเสียสละมามากพอแล้ว และขอให้ทางรัฐบาลสั่งการให้มณฑลทหารบกที่ 44 หยุดคุกคามสิทธิ เสรีภาพของชาวบ้านในพื้นที่ อีกทั้งสั่งการให้กรมชลประทานหยุดการสำรวจในพื้นที่โดยเด็ดขาด

ด้วยจิตคารวะ

กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะ

ประยุทธ์ ให้ไปศึกษา EIA และ EHIA 

สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่มีชาวบ้าน ยื่นคัดค้านการสร้างเขื่อนท่าแซะ จ.ชุมพร ว่า กำลังให้กระทรวงมหาดไทยไปติดตามเรื่องดังกล่าว ซึ่งต้องมีการศึกษารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA

“หากสามารถดำเนินการได้ ก็ทำ แต่หากทำไม่ได้ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น และต้องไปหาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
 
สำนักข่าวไทยให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับโครงการเขื่อนท่าแซะ เป็นโครงการสร้างเขื่อนความจุประมาณ 157 ล้าน ลบ.ม. บนพื้นที่น้ำท่วม 6,800 ไร่ จะทำให้เกิดน้ำท่วมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ประมาณ 1,600 ไร่  และส่งผลกระทบต่อที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ  จ.ชุมพร ประมาณ 500 ครัวเรือน โดยที่ผ่านมาชาวบ้านเสนอให้ดำเนินการบริหารจัดการน้ำในรูปแบบของฝายชุมชน-ฝายมีชีวิตตามลุ่มน้ำสาขาขนาดเล็กแทน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท