Skip to main content
sharethis

อังคณา นีละไพจิตร นำทีมอนุกรรมการสิทธิฯ เยี่ยมในคุก หวังพรุ่งนี้ได้ประกันตัว ด้านชาวบ้านนามูล-ดูนสาด บนศาลพระภูมิขอคุ้มครองไผ่ ออกแถลงการณ์ระบุไผ่เหมือนลูกหลาน เคยช่วยเหลือชาวบ้านเรียกร้องความเป็นธรรม ขังไผ่เหมือนขังชาวบ้านด้วย กป.อพช.ออกแถลงการณ์จี้คืนสิทธิประกันตัวและสิทธิสอบวิชาสุดท้าย

9 ก.พ.2560 เวลา 10.00 น. อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) และประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองฯ เข้าเยี่ยมจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน นักศึกษากฎหมายปีสุดท้ายและนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 จากกรณีแชร์รายงานพระราชประวัติรัชกาลที่ 10 จากเพจ BBC Thai ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ จ.ขอนแก่น

ทั้งนี้ ผู้เข้าเยี่ยมจตุภัทร์ วันนี้ประกอบด้วย อังคณา นีละไพจิตร จอน อึ๊งภากรณ์ จินตนา แก้วขาว สมชาย หอมลออ พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ฯลฯ

หลังการเข้าเยี่ยม เวลาประมาณ 11.15 น. อังคณาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า การมาคราวนี้เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากบิดาของไผ่ว่าเขาได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมระหว่างการคุมขังและควบคุมตัวไปศาลจึงได้มาติดต่อสอบถามโดยตรงกับ จตุภัทร์ โดยจตุภัทรได้เล่าถึงการตรวจร่างกายในสถานที่ส่วนตัวและการใส่กุญแจเท้าในระหว่างการคุมตัวไปศาล

อังคณากล่าวว่า จตุภัทร์แจ้งว่าเขาได้รับการดูแลเป็นอย่างดีในเรือนจำ ถูกคุมขังแยกออกมาจากนักโทษคดีเด็ดขาด ได้รับอาหารครบสามมื้อ เขาระบุอีกว่าอาหารที่เรือนจำแห่งนี้ดีที่สุดแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับเรือนจำอื่นๆ ที่พบเจอมา แต่น้ำหนักตัวของเขาก็ลดลง 3-4 กิโลกรัม เนื่องจากเวลากินอาหารเย็นของเรือนจำ คือ 14.30 น.ซึ่งยังไม่คุ้นชิน

อังคณากล่าวด้วยว่า กระบวนการต่อไปนั้น จะมีการเชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจและทางเรือนจำไปพูดคุยให้ข้อมูลที่สำนักงาน กสม. ในสัปดาห์หน้า

เมื่อสอบถามว่า มีความเห็นอย่างไรต่อกระบวนการฝากขังและการไม่ให้ประกันตัวจตุภัทร์ที่เป็นกระแสความไม่พอใจอยู่ในตอนนี้ อังคณาตอบว่า การลงมาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการพูดคุยตรวจสอบในประเด็นที่กล่าวถึงข้างต้นเท่านั้น โดยจุดยืนของ กสม.นั้นยืนยันลักการ Fair Trial หรือกระบวนการพิจารณาคดีที่โปร่งใส แต่โดย พ.ร.บ.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ.2542 ได้กำหนดขอบเขตการทำงานของ กสม. ว่าไม่สามารถที่จะเข้าไปแทรกแซงเมื่ออยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีของศาล

อังคณากล่าวด้วยว่า หวังว่าวันพรุ่งนี้คงมีข่าวดี

สำหรับวันพรุ่งนี้จะเป็นวันครบกำหนดฝากขังผัดที่ 6 ซึ่งคาดว่าตรำวจจะมีการยื่นขอฝากขังผัดที่ 7 ซึ่งเป็นผัดสุดท้ายก่อนส่งฟ้อง ซึ่งทนายจำเลยน่าจะมีการไต่สวนคัดค้านการฝากขังและหากไม่เป็นผลก็จะมีการยื่นประกันตัวอีกครั้ง

ปัจจุบันจตุภัทร ผู้ต้องหาคดี 112 ถูกคุมขังที่เรือนจำมาแล้วเป็นเวลา 50 วัน

ชาวบ้านบนศาลพระภูมิคุ้มครองไผ่
กลุ่มอนุรักษ์+กป.พอช.อีสาน ออกแถลงการณ์ "ปล่อยไผ่"

เวลา 13.30 น. หลังการเข้าเยี่ยม ไผ่ ดาวดิน ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นามูล-ดูนสาด อ.กะนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการสัมปทานขุดเจาะก๊าซธรรมชาติที่จตุภัทร์และเพื่อนนักศึกษาเคยเข้าไปให้การช่วยเหลือ ได้มารวมตัวที่องค์พระพุทธรูปบริเวณหน้าเรือนจำเพื่อจุดธูปเทียนบูชาพระ

นายปกรณ์ สระแก้งตูม ชาวบ้านผู้ทำพิธีกรรมกล่าวว่า ตนได้ทำพิธีบนบานต่อพระพุทธรูป พระภูมิเจ้าที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้คุ้มครองดูแลรักษาให้ไผ่จตุภัทร์ปลอดภัย เข้มแข็ง และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลใจผู้หลักผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองได้เปลี่ยนความตั้งใจ ยกเลิกไม่เอาผิดเอาโทษกับไผ่ จตุภัทร์ หลังจากนั้นกลุ่มชาวบ้านได้ออกไปอ่านแถลงการณ์หน้าเรือนจำมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

แถลงการณ์กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบ้านนามูล-ดูนสาด “ปล่อยไผ่”

พวกเราชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบ้านนามูล-ดูนสาด ซึ่งเคยได้รับการช่วยเหลือในการต่อสู้กับนายทุนและเจ้าหน้าที่รัฐที่มาละเมิดสิทธิชุมชน และยังได้รับความรู้ในด้านกฎหมาย สิทธิชุมชน ที่ชาวบ้านพึ่งมีในการปกป้องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชน เมื่อครั้งมีการขุดเจาะปิโตรเลียมที่บ้านนามูล จาก “ไผ่ ดาวดิน”  

เราจึงถือว่า “ไผ่ ดาวดิน”  เป็นลูกหลานชาวบ้านที่ทุกข์ยากที่ได้รับความเดือดร้อน เขายังเป็นนักศึกษาผู้บริสุทธิ์ที่ไม่สมควรจะถูกจับขังคุกโดยที่ยังไม่รู้ว่ามีความผิดอะไร การกระทำเช่นนี้ก็เสมือนว่าชาวบ้านบริสุทธิ์ถูกจับขังคุกด้วย เขายังเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน เขายังอยู่เคียงข้างชาวบ้านผู้ทุกข์ยากเสมอมา

ฉะนั้นเราจึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองคืนอิสรภาพ คืนการประกันตัวให้ไผ่และให้ปล่อยไผ่โดยเร็ว  

พ่อๆแม่ๆ ยังให้กำลังใจให้ไผ่เข้มแข็งมีพลังในการที่จะต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมต่อไป ขอให้ไผ่และครอบครัวปลอดภัยจากภยันต์อันตรายทั้งหลายด้วยเทอญ  

 #ปล่อยไผ่

กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมบ้านนามูล-ดูนสาด

๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐

 

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการประสานงานองค์การพัฒนาเอกชนภาคอีสาน (กป.อพช. อีสาน ) ซึ่งได้เดินทางมาเยี่ยมจตุภัทร์ เช่นเดียวกัน ได้ออกแถลงการณ์ #ปล่อยไผ่ โดยมีเนื้อหาดังนี้

แถลงการณ์ “ปล่อยไผ่”
เครือข่ายนักพัฒนาเอกชนองค์กรภาคประชาชนอีสาน

นับตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2559 ที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกันตัวไผ่ โดยให้เหตุผลว่า หลังได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ไผ่ยังมีการแสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ ในเชิงเยาะเย้ยเจ้าพนักงาน นั่นเป็นเหตุให้ “ไผ่ จตุภัทร์” ต้องสูญเสียอิสรภาพจนปัจจุบัน

เขาถูกปฏิเสธสิทธิการประกันตัวหลายครั้ง และถูกคุมขังทั้งที่ยังไม่มีการพิพากษาว่าเขากระทำความผิด แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนคนไทยจากหลายพื้นที่ รวมทั้งเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้คืนสิทธิในการประกันตัวกับ “ไผ่ จตุภัทร์” แต่เสียงทวงถามต่อกระบวนการยุติธรรมเหล่านี้กลับถูกเพิกเฉย

นอกจากนั้นแล้ว เมื่อไผ่ การที่เขาต้องถูกจองจำอยู่ในห้องขังก็ทำให้ นักศึกษานิติศาสตร์คนนี้ ต้องเสียสิทธิในการสอบตัวสุดท้าย เมื่อกระบวนการยุติธรรมจะยังไม่ได้พิสูจน์ว่า “ไผ่ จตุภัทร์” ผิดจริงหรือไม่ ถึงอย่างไรเสียเขาก็ยังคงถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ฉะนั้นเขาควรได้รับการปกป้อง คุ้มครอง และสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นธรรมจากรัฐ

เราในนามเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนอีสาน มีความเห็นว่า กระบวนการยุติธรรมที่เป็นกลไกสำคัญที่มีหน้าที่ ปกป้อง คุ้มครองเสรีภาพของประชาชน ต้องเป็นไปอย่างเที่ยงธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อคงไว้หลักนิติรัฐ ดังนั้นเราจึงขอประกาศดังนี้

1) ขอให้คืนสิทธิในการประกันตัว "ไผ่ จตุภัทร์" ให้สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม

2) ขอให้มีมาตรการในการคืนสิทธในการสอบวิชาสุดท้ายที่ถูกทำให้หายไป

 

ปล่อยไผ่

เครือข่ายนักพัฒนาเอกชนองค์กรภาคประชาชนอีสาน

9 กุมภาพันธ์ 2560

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net